จากผลกระทบจากน้ำท่วม
 ทำให้ต้องมีการขนของหนีน้ำและเมื่อน้ำแห้งก็ต้องมาจัดบ้านกันใหม่
 ทำให้ได้พบกับภาพถ่ายที่ถ่ายเอาไว้เมื่อ
๒๓ ปีที่แล้ว  ยังดีที่เหลือภาพอยู่
 แต่ฟิล์มต้นฉบับไม่รู้ว่าอยู่ในกลุ่มพวกที่เสียหายจากน้ำท่วมหรือเปล่า
 รายละเอียดของเหตุการณ์ที่เกิด
(version
ที่ผมได้รับฟังจากเจ้าหน้าที่ตำรวจที่เข้าไปสอบสวนเหตุการณ์)
เคยเล่าเอาไว้ใน
Memoir
ฉบับปีที่
๒ ฉบับที่ ๕๘ วันอาทิตย์ที่
๒๗ กันยายน พ.ศ.
๒๕๕๒
เรื่อง "Ethylene
polymerisation"
 ตอนนั้นผมเช่าบ้านอยู่ที่เนินพระ
 ห่างจากถนนสุขุมวิทก็หลายสิบเมตรอยู่
 แต่ตอนนั้นระหว่างบ้านที่ผมเช่ากับถนนนั้นไม่มีอะไรขวางกัน
 คืนนั้นตื่นขึ้นมาตอนดึกมาก
 เข้าใจว่าเป็นหลังเที่ยงคืน
 ที่ตื่นก็เพราะได้ยินเสียงไซเรน
โผล่หน้าต่างออกมาดูก็เห็นรถดับเพลิงวิ่งผ่านบ้านพักมุ่งเข้าตัวจังหวัดระยอง
 ตอนเช้าตื่นไปทำงาน
ไปเจอกับเพื่อนที่เป็นเจ้าหน้าที่ความปลอดภัยที่ทำงานอยู่บริษัทเดียวกันที่ตลาดมาบตาพุด
(เพราะต้องไปกินข้าวเช้ากันที่นั่น)
 ก็ยังแซวมันเล่น
ๆ ว่าเมื่อคืนสงสัยมีไฟไหม้โรงงานที่อยู่ทางด้านเชิงเนินแน่
 มันก็เดินหายเข้าไปในตลาดสักพักหนึ่ง
 แล้วก็โผล่ออกมาบอกว่าไฟไหม้โรงงานนั้นจริง
ๆ ด้วย
สักพักพวกพี่ที่ทำงานเดียวกันอีกกลุ่มหนึ่งก็มาถึง
 เขาบอกว่าเมื่อคืนไปดูเหตุการณ์ไฟไหม้มา
 บอกว่าไฟลุกโชติช่วงจนฟ้าสว่าง
พอตกตอนสายพวกผมก็นั่งรถตู้บริษัทออกไปดูที่เกิดเหตุกัน
แต่เราไม่ใช่พนักงานบริษัทนั้นและไม่ได้มีหน้าที่เกี่ยวข้องอะไรกับการสอบสวน
 ก็ทำได้แค่นั่งรถวนดูอยู่รอบนอก
 โดยมีพี่คนหนึ่งที่เคยคุมงานก่อสร้างระบบ
piping
โรงงานนั้นเป็นคนอธิบายว่าแต่ละส่วนที่เห็นนั้นเป็นส่วนไหนของโรงงาน
บังเอิญผมมีกล้องติดไปด้วย
 ก็เลยถ่ายรูปเก็บเอาไว้ได้ส่วนหนึ่ง
 เป็นรูปที่ซ้ำ ๆ กันอยู่หลายรูป
 ทั้งนี้เพราะเพื่อป้องกันว่าภาพจะเสีย
 ก็เลยต้องถ่ายเผื่อเอาไว้หลายใบ
 เมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมาที่มีโอกาสได้ไปบรรยายเรื่องตัวเร่งปฏิกิริยาที่บริษัทแห่งหนึ่ง
 บริษัทแห่งนี้ได้เข้าไปซื้อกิจการของโรงงานที่ถูกไฟไหม้นั้น
ผมก็ได้เอาภาพที่ถ่ายเอาไว้ภาพหนึ่งพิมพ์ออกมาและแสดงขึ้นจอพร้อมกับถามเล่น
ๆ ว่าพวกคุณที่อยู่ในห้อง
(ผู้ที่มานั่งฟังผมบรรยาย)
มีใครบอกได้ไหมว่ารูปนี้เป็นรูปโรงงานไหน
 พร้อมกับบอกใบ้ว่าถ่ายเอาไว้เมื่อกว่า
๒๐ ปีที่แล้ว
(เรียกว่าเป็นคำถามเช็คอายุว่ามีใครในห้องแก่ระดับผมบ้าง)
พอตกตอนพักก็มีผู้มาถามว่าใช่โรงงานนี้ใช่ไหม
 ผมก็ตอบว่าใช่ 
เขาก็บอกว่าตอนนั้นเขาก็ทำงานอยู่ที่นั่น
 และขอภาพถ่ายของผมไปถ่ายรูปเก็บเอาไว้
 Memoir
ฉบับนี้ก็เลยถือโอกาสเอารูปดังกล่าวมาลงเพื่อเป็นบันทึกเอาไว้เผื่อมีคนสนใจ
 ส่วนโรงงานนั้นชื่อโรงงานอะไรผมไม่ขอเอ่ยในที่นี้
 แต่คงเดาได้ไม่ยากเพราะได้ให้ข้อมูลไปเยอะแล้ว
 รายละเอียดเรื่องอื่นเพิ่มเติมดูได้ที่
http://www.gotomanager.com/news/details.aspx?id=6894
เป็นข่าวย้อนหลังเดือนเมษายน
๒๕๓๒
 รูปที่
๑  ในกรอบคือบริเวณที่ได้รับความเสียหายจากไฟไหม้
 จะเห็นเปลวไฟทำให้เกิดคราบดำบนตัวถัง
(ลูกศรชี้)
รูปที่
๒  
รูปที่
๓  
รูปที่
๔  
รูปที่
๕  
รูปที่
๖