แต่ก่อนเมื่อเริ่มขึ้นปีสอง
รุ่นพี่จะสอนว่า
"รับน้องสิ้นสุดวันริดใบ"
วันริดใบ
คือวันที่ริดใบจามจุรีเพื่อใช้ในงานรับขวัญน้องปีหนึ่ง
งานดังกล่าวไม่ต้องการแรงงาน
ไม่ต้องการสมอง
ไม่ต้องการความสามารถพิเศษใด
ๆ ต้องการเพียงแค่ "น้ำใจ"
ยังสอนต่อด้วยว่า
"ถ้างานง่าย
ๆ แค่นี้ยังหาคนทำไม่ได้
ก็อย่าวาดฝันว่าจะไปทำงานที่ใหญ่กว่านี้"
งานที่ใหญ่กว่านั้นเขาหมายถึงงานนิทรรศฯ
ตอนที่ผมเข้าเรียนคณะวิศวนั้นก็เป็นปีที่มีการจัดงานนิทรรศฯ
ครั้งที่ ๗
พอใกล้จะจบปีสามก็มีการประชุมชั้นปีกัน
รุ่นพี่ก็บอกว่า
มันไม่มีกำหนดนะว่างานนิทรรศต้องจัดทุกสามปี
ไม่มีกำหนดนะว่าต้องจัดพร้อมงานจุฬาวิชาการ
ถ้าไม่พร้อมก็ไม่ต้องจัด
การที่จัดทุกสามปีนั้นก็เพื่อที่จะให้มีอย่างน้อยหนึ่งชั้นปีที่เคยเห็นเคยมีประสบการณ์ในการจัดงานครั้งก่อนหน้า
สุดท้ายนิสิตชั้นปีสามที่กำลังจะขึ้นเป็นนิสิตชั้นปีสี่ในปีการศึกษา
๒๕๓๐ ก็ได้ตกลงที่จะจัดงานนิทรรศครั้งที่
๘ ในปลายปีพ.ศ.
๒๕๓๐
วันเปิดงาน
ในหลวงทรงเสด็จมาด้วยพระองค์เอง
รถพระที่นั่งจอดตรงบริเวณข้างตึกจักรพงษ์
ท่านเสด็จทอดพระเนตรงานนิทรรศของคณะวิศวตั้งแต่ศูนย์คอมพิวเตอร์ที่ชั้นล่างตึก
๓ มาจนถึงลานระหว่างตึก ๓
กับตึก ๒ ที่นิสิตปัจจุบันเรียกว่าลานเกียร์
ผมกับเพื่อนส่วนหนึ่งเฝ้ารอรับเสด็จอยู่ที่ซุ้มตรงบริเวณดังกล่าว
แม้เหตุการณ์จะผ่านมาถึง
๒๕ ปีแล้ว
แต่ผมเชื่อว่าภาพวันนั้นยังคงอยู่ในความทรงจำของนิสิตรหัส
๒๗ ๒๘ ๒๙ และ ๓๐
ทุกคนที่ได้มีส่วนร่วมในการจัดงาน