ช่วงหนึ่งเขามีการทำรายชื่อหนังสือดี
๑๐๐ เล่มที่คนไทยควรอ่าน
แต่พอเห็นรายชื่อแล้วก็คงต้องขอบอกว่าบางเล่มนั้นไม่รู้เหมือนกันว่าจะไปหาอ่านที่ไหน
เพราะเป็นหนังสือเก่า
(ถ้าผู้เขียนไม่ได้มีชื่อเสียง
ก็คงจะไม่มีการพิมพ์ซ้ำมานานแล้ว)
หนังสือชุด
"นิทานชาวไร่"
ที่เขียนโดย
นาวาเอก สวัสดิ์ จันทนี
ก็ได้รับการจัดเป็นหนึ่งในหนังสือดี
๑๐๐ เล่มที่คนไทยควรอ่านเช่นกัน
หนังสือชุดนี้เขาว่ามีกว่า
๑๐ เล่ม แต่ที่เห็นในห้องสมุดมหาวิทยาลัยเห็นมีเพียง
๕ เล่มเท่านั้นเอง
เรื่องที่เอามาเล่าในวันนี้เป็นเรื่องเกี่ยวกับรถไฟสายพระพุทธบาท
เรื่องนี้เคยนำมาเขียนไว้ครั้งหนึ่งใน
Memoir
ปีที่
๕ ฉบับที่ ๖๑๕ วันอาทิตย์ที่
๕ พฤษภาคม ๒๕๕๖ เรื่อง
"รถไฟสายพระพุทธบาท
(ก่อนจะเลือนหายไปจากความทรงจำ
ตอนที่ ๔๑)"
ที่เล่าถึงบรรยากาศการนั่งรถไฟสายดังกล่าวที่
เหม เวชกร นำมาเป็นฉากในการเขียนนิยาย
(คือตัวเอกในนิยายไม่ได้นั่งรถไฟ
แต่เป็นการเดินเท้าไปตามเส้นทางรถไฟ)
แต่คราวนี้เป็นการเล่าเรื่องราวจากบันทึกความทรงจำของผู้ที่ได้มีโอกาสนั่งรถไฟสายดังกล่าว
ในหนังสือนิทานชาวไร่
เล่มที่ ๔ เรื่องที่ ๓๘
ไหว้พระพุทธบาทสระบุรี
นาวาเอก สวัสดิ์ จันทนี
ได้เล่าถึงบรรยากาศการนั่งรถไฟเล็กสายพระพุทธบาทนี้
โดยเล่าไว้ว่าได้มีโอกาสขึ้นรถไฟสายดังกล่าวสองครั้งด้วยกัน
ครั้งแรกน่าจะประมาณ พ.ศ.
๒๔๕๑
และครั้งหลังใน พ.ศ.
๒๔๕๘
เมื่อเทียบกับอายุท่านที่เกิดเมื่อ
๒ มีนาคม พ.ศ.
๒๔๔๕
แสดงว่าได้นั่งรถไฟสายดังกล่าวครั้งแรกเมื่อยังมีอายุน้อยอยู่
ท่านผู้เขียนได้บรรยายถึงการนั่งรถไฟสายดังกล่าวในช่วงเทศกาลไหว้พระพุทธบาทไว้ดังนี้
".....
รถไฟเล็กนี้ดูก็จะเท่ากับรถไฟที่ทางการออกแสดงรอบ
ๆ เขาดินหรือรอบ ๆ
สวนลุมพินีในเวลามีงานฉลองรัฐธรรมนูญเสมอ
ๆ นั่นเอง ตัวข้าพเจ้าเองได้เคยขึ้นสองครั้ง
ครั้งแรกจำไม่ได้แน่แต่ประมาณ
พ.ศ.
๒๔๕๑
ครั้งหลังใน พ.ศ.
๒๔๕๘
ดูมันก็โคลงสนุกดีเหมือนกัน
นั่งกันอย่างยัดทะนาน
เพราะเป็นเทศกาลไหว้พระพุทธบาท
เดินระหว่างท่าเรือจนถึงพระพุทธบาท
ราว ๖๐ กิโลเมตรแต่จะเริ่มเมื่อใด
และเลิกเดินเมื่อใด
ข้าพเจ้าจำไม่ได้เสียแล้ว
....."
นอกจากนี้ท่านผู้เขียนยังได้เล่าถึงตำนานของเจ้าพ่อเขาตกไว้ดังนี้
".....
มีตำนานกล่าวว่าทุกคนต้องลงไหว้เจ้าพ่อเขาตก
แม้กระทั่งอยู่บนรถไฟก็ต้องลงจากรถไฟมายังพื้นดินแล้วทำการกราบไหว้
แต่เมื่อข้าพเจ้าไปใน พ.ศ.
๒๔๕๘
ข้าพเจ้าหาได้ลงจากรถไฟไม่
เพราะถ้าขืนลงไปก็ไม่แน่ว่าจะได้มานั่งตามเดิมหรือไม่
คงได้แต่นั่งไหว้ทั้ง ๆ
ที่อยู่บนรถไฟเล็กนั้นเอง
กล่าวกันว่าถ้าใครไม่ไหว้ต้องมีอันเป็นเลือดปากเลือดจมูกออก
....."
ส่วนศาลเจ้าพ่อเขาตกตั้งอยู่ตรงไหน
ดูได้จากแผนที่ในรูปที่ ๑
ที่แนบมา
(ข้อมูลวันเกิดของ
นาวาเอก สวัสดิ์ จันทนี
นำมาจาก "หนังสืออนุสรณ์งานพระราชทานเพลิงศพ
นาวาเอก สวัสดิ์ จันทนี"
ที่ทางเว็บ
http://www.digitalrarebook.com/
สแกนและนำมาแสดงเป็นตัวอย่าง)
รูปที่
๑ ศาลเจ้าพ่อเขาตกอยู่ในกรอบสีเหลืองทางมุมซ้ายล่างของแผนที่
(จากแผนที่แนบท้ายพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตต์หวงห้ามที่ดินบริเวณพระพุทธบาท
ตำบลขุนโขลน ตำบลหนองโดน
จังหวัดสระบุรี พ.ศ.
๒๔๗๙
ประกาศในราชกิจจานุเบกษาเล่ม
๕๓ หน้า ๑๒๘๐ วันที่ ๑๔ มีนาคม
๒๔๗๙)
หนังสือฉบับที่ผมยืมมาอ่านนั้นเป็นฉบับพิมพ์ครั้งที่
๑ พ.ศ.
๒๕๐๙
(ก็
๕๐ ปีที่แล้ว)
จำนวน
๑๕๐๐ เล่ม
ตอนนี้ก็ไม่รู้เหมือนกันว่ามีการพิมพ์ซ้ำเพิ่มเติมอีกหรือเปล่า
ผมเห็นว่าถ้าคณะกรรมการที่ทำหน้าที่พิจารณาว่าหนังสือใดนั้นควรจัดให้เป็น
"หนังสือดี
๑๐๐ เล่มที่คนไทยควรอ่าน"
แต่มันไม่มีการพิมพ์ซ้ำหรือไม่สามารถหาอ่านได้ง่าย
ก็ควรที่จะหาทางจัดพิมพ์เผยแพร่ให้เป็นที่รับทราบกันทั่วไป
ไม่ควรให้มีเพียงแต่ชื่อปรากฏ
แต่ควรมีเล่มหนังสือให้ผู้ที่อยากอ่านสามารถเข้าถึงได้ด้วย
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น
หมายเหตุ: มีเพียงสมาชิกของบล็อกนี้เท่านั้นที่สามารถแสดงความคิดเห็น