เคยมีอาจารย์ผู้หนึ่งมาปรึกษาเรื่องการประหยัดพลังงานในโรงงานว่า
นอกจากจะแนะทำให้ทางโรงงานทำการปรับปรุงระบบฉนวนหุ้มท่อไอน้ำและวาล์วแล้ว
และเนื่องจากโรงงานที่เขาไปดูแลนั้นมีบางหน่วยผลิตที่มีการทำงานเฉพาะช่วงเวลาเช้าถึงค่ำ
ตอนกลางคือไม่มีการทำงาน
ดังนั้นเขาจะเสนอให้ทางโรงงานประหยัดพลังงานด้วยการปิดระบบท่อไอน้ำของหน่วยผลิตนั้นดีไหม
ผมก็ให้ความเห็นของผมไปว่าการปิดไอน้ำช่วงเวลากลางคืนมันก็ลดการใช้พลังงานในช่วงเวลากลางคืน
แต่การเปิดใช้ระบบท่อไอน้ำนั้นมันใช้เวลา
เพราะต้องค่อย ๆ อุ่นระบบท่อให้ร้อนขึ้น
ไม่ใช่อยากเปิดก็เปิดวาล์วใช้ได้เลยอย่างระบบไฟฟ้าหรือน้ำประปา
และช่วงเวลาที่ต้องอุ่นระบบขึ้นมานี้เป็นช่วงเวลาที่มีการสูญเสีย
ไม่ว่าจะเป็นไอน้ำที่ควบแน่นกลายเป็นของเหลว
หรือเวลาที่ต้องรอกว่าจะเดินเครื่องได้
ดังนั้นเขาควรนำประเด็นนี้ไปพิจารณาด้วยว่า
ระหว่างการยอมสูญเสียไอน้ำในปริมาณน้อยตลอดทั้งคืน
แต่เมื่อเริ่มงานตอนเช้าระบบก็พร้อมใช้งานได้ทันที
กับการประหยัดการสูญเสียในเวลากลางคืน
แต่ต้องมาจ่ายมากขึ้นแทนตอนเช้า
แบบไหนที่ประหยัดพลังงานมากกว่ากัน
รูปที่
๑ ระบบท่อไอน้ำที่มีเกจวัดความดันทั้งด้านขาเข้าและขาออก
แต่ก็มีบางตำแหน่งเหมือนกันที่เราจงใจให้มีการรั่วไหลของความร้อน
หนึ่งในตำแหน่งนั้นก็คือท่อที่ทำการเชื่อมต่อระหว่างท่อของ
process
กับอุปกรณ์วัด
ปรกติในโรงงานมีอุปกรณ์วัดอยู่หลายแบบอยู่แล้ว
แต่ที่เห็นได้ทั่วไปเห็นจะได้แก่อุปกรณ์วัดอุณหภูมิ
อุปกรณ์วัดความดัน อุปกรณ์วัดระดับ
กับวัดอัตราการไหล
แต่การวัดระดับและวัดอัตราการไหลนั้นบ่อยครั้งที่ใช้การวัดความแตกต่างของ
"ความดัน"
ที่สองตำแหน่ง
แล้วค่อยแปลงค่าความแตกต่างนั้นเป็น
"ระดับ"
หรือ
"อัตราการไหล"
เช่นการวัดระดับนั้นก็จะวัดความดันในถังส่วนที่อยู่เหนือของเหลว
และความดันที่ก้นถัง
จากนั้นก็ใช้ค่าความดันที่วัดได้กับความหนาแน่นของของเหลวที่ทำการวัดนั้นมาแปลงเป็นค่าระดับความสูง
ส่วนการวัดอัตราการไหลก็ใช้การวัดค่าความดันลดเมื่อของไหลไหลผ่านอุปกรณ์วัด
(เช่นแผ่นออริฟิสหรือท่อเวนจูรี)
และจึงแปลงค่าความดันที่ลดลงนั้นเป็นอัตราการไหลอีกที
รูปที่
๒ ภาพขยายให้เห็นท่อ syphon
สำหรับติดตั้งเกจวัดความดันของระบบท่อในรูปที่
๑
รูปที่
๑
เป็นระบบท่อไอน้ำที่มีการใช้วาล์วควบคุมอัตราการไหลควบคุมการจ่ายไอน้ำ
ระบบท่อดังกล่าวมีการติดตั้งเกจวัดความดันไว้ทั้งทางด้านขาเข้าและขาออกของวาล์ว
เกจวัดความดันในรูปนั้นทำงานด้วยระบบกลไก
(จะยกเว้นมีอยู่ตัวหนึ่งที่อยู่ทางด้านซ้ายของรูปที่
๒ (บน) ที่มีการแปลงสัญญาณความดันเป็นสัญญาณไฟฟ้าส่งต่อไปยังห้องควบคุม)
อุปกรณ์พวกนี้มันรับความดันได้
แต่มันทนอุณหภูมิสูงไม่ได้
ดังนั้นเวลาที่จะวัดความดันในท่อเขาจึงต้องใช้ท่อเชื่อมต่อที่ไม่มีการหุ้มฉนวน
เพื่อให้ของไหลในระบบท่อที่ต้องการวัดความดันนั้นมีอุณหภูมิลดต่ำลง
(ด้วยการสูญเสียความร้อนสู่บรรยากาศรอบ
ๆ)
ท่อยิ่งยาวก็ยิ่งมีพื้นที่ผิวในการถ่ายเทความร้อนมากขึ้น
แต่มันจะเกะกะ เขาก็เลยขดให้มันงอซะ
ซึ่งอาจะขดเป็นวงแบบในรูปหรือขดเป็นรูปตัว
U
หรือรูปร่างอื่นก็ได้
ท่อนี้เขาเรียกว่า "Syphon
tube" หรือในกรณีแบบที่ขดเป็นวง
(แบบในรูปที่
๒)
บางทีเขาก็เรียกว่าเป็น
"Pigtail
type syphon tube"
สิ่งหนึ่งที่ต้องระวังคือต้องไม่ให้ของไหลที่อยู่ในส่วน
syphon
tube นั้นกลายเป็นของแข็งอุดตัน
syphon
tube
การเกิดของแข็งอุดตันอาจเกิดได้ถ้าหากของไหลในท่อมีอุณหภูมิต่ำเกินไป
เช่นในกรณีของท่อไอน้ำ
ไอน้ำร้อนในท่อมีสิทธิที่จะควบแน่นเป็นของเหลวค้างอยู่ใน
syphon
tube นี้
และถ้าอุณหภูมิข้างนอกไม่เย็นจัดจนทำให้น้ำกลายเป็นน้ำแข็งได้
การวัดความดันก็จะไม่มีปัญหาใด
ซึ่งเหตุการณ์นี้ไม่น่าจะเกิดในบ้านเรา
แต่ในประเทศที่เป็นเมืองหนาวอาจเกิดขึ้นได้
หรือในกรณีของของเหลวที่เมื่อเย็นตัวลงอาจมีการแยกเฟสเป็นของแข็ง
(เช่นน้ำมันที่มี
wax
ละลายอยู่
หรือสารละลายที่มีพอลิเมอร์ละลายปนอยู่)
ของแข็งที่แยกออกมาก็อาจอุดตัน
syphon
tube นี้ได้
และเมื่อเกิดการอุดตันเมื่อใด
ตัวเกจวัดความดันจะไม่สามารถแสดงความดันที่แท้จริงในระบบท่อได้
พึงสังเกตด้วยนะว่าจะมีการติดตั้งวาล์วเอาไว้ตัวหนึ่งก่อนต่ออุปกรณ์วัด
ทั้งนี้เผื่อต้องมีการถอดเปลี่ยนหรือถอดเอาอุปกรณ์วัดไปซ่อม
จะได้ทำการถอดได้โดยไม่ต้องปิดระบบ
แต่ตัวที่อยู่ในรูปที่ ๓
ข้างล่างไม่ยักมีการติดตั้งวาล์ว
อาจเป็นเพราะว่าเป็นการทำงานแบบ
batch
ไม่ใช่ระบบต่อเนื่องเหมือนในรูปที่
๒
ที่เอาเรื่องนี้มาเล่าก็เพื่อต้องการให้อย่าเผลอไปคิดว่าจะช่วยโรงงานประหยัดพลังงานด้วยการหุ้มฉนวน
syphon
tube นี้
หรือแม้แต่เดินอยู่ในโรงงานก็อย่าเผลอไปโดนท่อเข้าโดยนึกว่ามันไม่ร้อน
ทางด้านเกจวัดความดันมันไม่ค่อยร้อนหรอก
แต่ด้านที่ต่อออกมาจากท่อหลักมันก็มีอุณหภูมิตามของไหลที่ไหลอยู่ในท่อนั้น
รูปที่
๓ รูปนี้เป็นเกจวัดความดันของหม้ออบไม้
พึงสังเกตว่าเกจวัดความดันมีการบรรจุของเหลว
(ตรงลูกศรชี้)
เพื่อหน่วงการสั่นของเข็ม
และ syphon
tube
ที่เชื่อมต่อเข้ากับอุปกรณ์ส่งสัญญาณจะมีขดมากกว่าเพื่อลดอุณหภูมิให้ต่ำลงไปอีก
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น
หมายเหตุ: มีเพียงสมาชิกของบล็อกนี้เท่านั้นที่สามารถแสดงความคิดเห็น