"อย่ามองแต่เพียงแค่สิ่งที่ต้องการเห็น
แต่ต้องมองสิ่งอื่น ๆ
ที่อยู่ร่วมด้วย"
มีคนเคยถามผมว่า
"ในการขยายขนาดปฏิกิริยาเคมีที่มีคนทำได้ในห้องทดลองมาเป็นระดับโรงงาน
มีปัจจัยใดบ้างที่ต้องพิจารณา"
ปัจจัยหนึ่งที่ผมบอกเขาไปก็คือข้อความข้างบน
การทดลองในห้องปฏิบัติการมักจะใช้สารเคมีความบริสุทธิ์สูง
ผลิตภัณฑ์ที่เกิดจากปฏิกิริยาข้างเคียงนั้นอาจจะน้อยมากจนตรวจไม่พบหรือไม่ก่อให้เกิดปัญหาในการกำจัดหรือการแยก
แต่ในการผลิตในระดับอุตสาหกรรมนั้นจะใช้สารเคมีที่มีความบริสุทธิ์ที่ต่ำกว่า
ผลิตภัณฑ์ที่เกิดจากปฏิกิริยาข้างเคียงที่ไม่ต้องการจะเกิดขึ้นในปริมาณมาก
และก่อให้เกิดปัญหาในกระบวนการต่าง
ๆ ตามมา ไม่ว่าจะเป็นการแยกออกจากผลิตภัณฑ์ที่ต้องการ
การหาทางใช้ประโยชน์
หรือการกำจัดทิ้ง
เพื่อให้เห็นภาพดังกล่าวผมก็เลยยกคำถามง่าย
ๆ
คำถามหนึ่งในเรื่องพื้นฐานที่ผู้เรียนสายวิทยาศาสตร์นั้นเรียนรู้กันมาตั้งแต่ระดับมัธยมปลาย
คือเรื่องการไทเทรตกรด-เบส
คำถามก็คือ
"ในการไทเทรตหาความเข้มข้นสารละลายเบสนั้น
โดยหลักการแล้วควรใช้กรดแก่ที่แตกตัวให้โปรตอนตัวเดียวเป็นสารมาตรฐ,าน
และกรดที่นิยมเลือกใช้คือกรด
HCl
อันดับรองลงไปคือกรด
H2SO4
(ที่แตกตัวให้โปรตอนได้สองตัว)
ส่วนกรด
HNO3
นั้นแม้ว่าจะเป็นกรดแก่ที่แตกตัวให้โปรตอนได้ต้วเดียว
(เช่นเดียวกับdif
HCl) กลับไม่เป็นที่นิยมกัน
เหตุผลคืออะไร"
ถ้าลองค้นทางอินเทอร์เน็ตหรือตำราเคมีวิเคราะห์ในเรื่องเกี่ยวกับการไทเทรตกรด
HNO3
ก็มักจะพบตัวอย่างเกี่ยวกับการหาความเข้มข้นที่แน่นอนของกรด
HNO3
ที่เป็นสารตัวอย่างโดยใช้สารละลายมาตรฐาน
NaOH
เต็มไปหมด
แต่การไทเทรตหาความเข้มข้นที่แน่นอนของสารตัวอย่างที่เป็นเบสโดยใช้สารละลายกรด
HNO3
เป็นสารมาตรฐาน
กลับไม่ปรากฏตัวอย่างการไทเทรตดังกล่าว
สำหรับผู้ที่เรียนโดยอิงจากสิ่งที่ตำราเขียนไว้ก็คงจะมองไม่เห็นประเด็นนี้
แต่ถ้าเราลองตั้งคำถามาด้วยการเอาหลักการมาเป็นตัวตั้ง
(คือใช้กรดแก่ที่แตกตัวให้โปรตอนได้ตัวเดียว)
แต่เปลี่ยนตัวอย่าง
(ในกรณีนี้คือจาก
HCl
เป็น
HNO3)
เราก็จะมองเห็นปัญหาในสิ่งที่ตำราไม่ได้เขียนไว้
ถ้าเราต้องการไทเทรตหาความเข้มข้นของตัวอย่างที่เป็นเบสด้วยการหยดสารละลายมาตรฐานกรดจากบิวเรตลงไปในสารละลายตัวอย่างนั้น
สิ่งที่เราใส่ลงไปในสารละลายตัวอย่างไม่ได้มีเพียงแค่
H+
แต่ยังมีส่วนที่เป็นไอออนลบของกรดด้วย
และตัวไอออนลบของกรดตัวนี้แหละที่อาจเป็นตัวก่อปัญหา
ในกรณีของการไทเทรตกรด-เบสนั้น
เราไม่ต้องการให้ส่วนที่เป็นไอออนลบของกรดเข้าร่วมทำปฏิกิริยาใด
ๆ (กับทุกสิ่งที่อยู่ในสารละลายที่หยดกรดลงไป)
ดังนั้นกรดที่มีไอออนลบที่เฉื่อยจะเป็นตัวที่เหมาะสมมาก
และไอออนลบตัวที่เฉื่อยมากที่สุดตัวหนึ่งก็คือ
Cl-
และนี่ก็เป็นเหตุผลหนึ่งที่ทำให้นิยมใช้สารละลายกรด
HCl
เป็นสารมาตรฐานในการไทเทรต
SO42-
ก็จัดเป็นไอออนลบที่เฉื่อยตัวหนึ่งเช่นกัน
ในกรณีของกรด
HNO3
นั้น
ส่วนที่เป็นไอออนลบซึ่งคือคือ
NO3-
นั้นไม่ได้เป็นไอออนที่เฉื่อย
แต่ยังมีความสามารถในการทำปฏิกิริยาอยู่ด้วย
(NO3-
มันเป็นตัวออกซิไดซ์ตัวหนึ่ง)
ด้วยเหตุนี้จึงมีโอกาสที่
NO3-
จะเข้าทำปฏิกิริยากับสารอื่นที่ปนเปื้อนอยู่ในตัวอย่าง
ทำให้ผลการวิเคราะห์ที่ได้นั้นคลาดเคลื่อนไปจากที่ควรเป็น
รูปทั้งสองที่นำมาประกอบเป็นบรรยากาศการทำการทดลองในห้องปฏิบัติการเคมีพื้นฐาน
ภาควิชาวิศวกรรมเคมี
ของนิสิตชั้นปีที่ ๒
วันเวลาที่บันทึกภาพนั้นก็ปรากฏอยู่ในรูปภาพเรียบร้อยแล้ว
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น
หมายเหตุ: มีเพียงสมาชิกของบล็อกนี้เท่านั้นที่สามารถแสดงความคิดเห็น