วันอาทิตย์ที่ 3 มกราคม พ.ศ. 2559

รถไฟเล็กลากไม้สายตะวันออก (ศรีราชา) ภาค ๘ MO Memoir : Sunday 3 January 2559

ครั้งแรกที่ผมไปถ่ายรูปหัวรถจักรคันนี้ก็เมื่อเดือนมิถุนายน ๒๕๕๔ หรือสี่ปีครึ่งที่แล้ว ตอนนั้นดูเหมือนว่าเขาเพิ่งจะทำการตกแต่งเสร็จ (ขอใช้คำว่าตกแต่งแทนบูรณะ เพราะดูเหมือนแค่ทำการทาสีให้มันสดใส และปรับบริเวณที่ตั้งรอบ ๆ ให้มันดูเรียบร้อยสวยงาม) และได้นำมาลงไว้ใน Memoir ปีที่ ๓ ฉบับที่ ๓๒๖ วันศุกร์ที่ ๑ กรกฎาคม ๒๕๕๔ เรื่อง "ก่อนจะเลือนหายไปจากความทรงจำตอนที่ ๑๒ รถไฟเล็กลากไม้สายตะวันออก(ศรีราชา)" และนั่นก็เป็นเรื่องเกี่ยวกับรถไฟเรื่องแรกที่ผมเขียน 
  
เมื่อเช้าวันสิ้นปีที่ผ่านมา มีโอกาสไปเดินหาซื้อของที่ตลาดข้างที่ว่าการอำเภอศรีราชา ก็เลยได้มีโอกาสไปเยี่ยมชมหัวรถจักรคันนี้อีกครั้ง เลยถือโอกาสถ่ายรูปมาให้ชมกันเพื่อให้เห็นว่าเวลาที่ผ่านไปสี่ปีครึ่งนั้นเกิดอะไรขึ้นกับหัวรถจักรคันนี้บ้าง ซึ่งคงไม่ต้องบรรยายอะไรมาก เพียงแค่ลองกลับไปดูภาพที่ถ่ายไว้เมื่อสี่ปีครึ่งที่แล้วใน Memoir ฉบับที่เอ่ยมาข้างต้นก็จะทราบได้เอง
 



ในรูปข้างบน ตรงปล่องระบายควันมีหญ้าแห้งโผล่อยู่ ไม่รู้เหมือนกันว่ามันไปอยู่ตรงนั้นได้อย่างไร อาจเป็นนกคาบเศษกิ่งไม้ขึ้นไปทำรังจนกระทั่งกลายเป็นดินให้หญ้างอกขึ้นก็ได้ แถมด้านหน้ายังมีพวงมาลัยห้อยอยู่อีก ไม่รู้ว่าเอามาห้อยเล่น ๆ หรือเอามาบนบานอะไร ส่วนรูปถัดไปมีใครก็ไม่รู้เอากางเกงยีนส์มาพาดตากเอาไว้ แถมยังมีแมวขึ้นไปนอนเล่นอยู่ด้วยหนึ่งตัว (หาเจอไหมครับ)
 



รูปข้างบนและอีก ๒ รูปถัดไปเป็นส่วนด้านหลังที่เป็นที่ทำงานของพนักงานขับรถ บริเวณส่วนพื้นและลำตัวก็ผุพังไปตามเวลา
 


ถ้าไม่ใช่เพราะกิจการป่าไม้ สถานที่ที่เป็น "อำเภอ ศรีราชา" ในปัจจุบันก็คงจะไม่ได้ยกฐานะขึ้นเป็นตัวอำเภอ คงเป็นเพียงแค่ตำบลหนึ่งในสังกัด "อำเภอ บางพระ" แทน และกิจการป่าไม้นี้ก็คงมีส่วนที่ทำให้ป่าทึบตั้งแต่ บางพระ ศรีราชา แหลมฉบัง ไปจนจรดเขาสอยดาวที่จันทบุรี ที่เคยมีปรากฏในเรื่องเล่าและนำมาใช้เป็นฉากในนิยายต่าง ๆ ของนักประพันธ์อาวุโสบางท่านนั้นสูญหายไป

บ่อยครั้งในระหว่างการเดินทางผมรู้สึกว่า "ความสวยงาม" ของการเดินทางท่องเที่ยวในบางเส้นทางนั้นไม่ได้ขึ้นอยู่ตรงที่ "ปัจจุบัน" เราได้มองเห็นอะไรในสถานที่เหล่านั้น แต่มันขึ้นอยู่กับ "อดีต" ของสถานที่แห่งนั้นที่เราได้เคยเห็น ได้เคยอ่าน หรือได้เคยรับฟังมา ผมเองไม่คิดว่าความสวยงามนั้นต้องมาพร้อมกับสิ่งก่อสร้างราคาแพง สิ่งศักดิ์สิทธิ์ต่างที่มีการสร้างขึ้นภายหลัง หรือสวนดอกไม้ พืชไร่ ต่าง ๆ ที่มนุษย์ไปสร้างขึ้นกลางป่าธรรมชาติด้วยการไปบุกรุกพื้นที่ป่าเพื่อใช้เป็นจุดขายเพื่อการท่องเที่ยวหรือประโยชน์ทางธุรกิจ มีกี่รายที่เคยหวนคิดว่าตามยอดเขายอดดอยต่าง ๆ ที่ไปพักผ่อนชมสิ่งที่คนปัจจุบันเรียกว่า "ธรรมชาติ" นั้น เดิมเป็นป่าเขาที่รกทึบและมีการสู้รบกันมากแค่ไหน พื้นที่บนยอดเขาที่ปัจจุบันเป็นวัดหรือสิ่งก่อสร้างที่ดูหรูหรานั้น เดิมเป็นป่าต้นน้ำที่มีความอุดมสมบูรณ์เพียงใด เรื่องเล่าที่เล่าถึงพระภิกษุผู้ทรงศีล ที่เดินธุดงค์เข้าป่า เพื่อการฝึกตนและทดสอบตนเอง ในสถานที่ที่ปราศจากการรบกวนของบุคคลภายนอก ไปปลีกวิเวกอยู่ในถ้ำต่าง ๆ ที่หาความสะดวกสบายไม่ได้ ก็คงจะไม่มีเพิ่มเติม ปัจจุบันเห็นแต่การเข้าป่าเพื่อหาสถานที่ที่มีวิวทิวทัศน์ดี ๆ เพื่อเรียกหาญาติโยมให้ไปช่วยสร้างสิ่งอำนวยความสะดวกและสร้างสิ่งก่อสร้างที่โปรโมทว่าเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์เพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยวให้มาบริจาคเงิน

บางครั้งในขณะที่ขับรถไปตามเส้นทางที่สมัยหนึ่งนั้นเคยเป็นทางรถไฟที่ใช้ขนไม้จากป่าลึกมายังท่าเรือที่เกาะลอย ก่อนที่จะเปลี่ยนมาเป็นรถไฟขนอ้อยเข้าโรงงานน้ำตาลนั้น ผมยังอดคิดไม่ได้ว่าคนขับรถไฟคันเล็ก ๆ ในยุคสมัยนั้น เขามีโอกาสได้พบเห็นอะไรบ้างตามเส้นทางการเดินทางตามรางเล็ก ๆ ลึกเข้าไปในป่าลึกของภาคตะวันออก

ไม่มีความคิดเห็น: