วันเสาร์ที่ 4 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2560

คลองไผ่สิงห์โต (ก่อนจะเลือนหายไปจากความทรงจำ ตอนที่ ๑๒๘) MO Memoir : Saturday 4 February 2560

หลายสิ่งหลายอย่างที่เคยมีปรากฏในอดีตนั้น ยากเหมือนกันที่จะหาว่ามันหายไปเมื่อใด ลำคลองสายต่าง ๆ ในกรุงเทพมหานครก็เช่นกัน เส้นทางน้ำที่เคยมีปรากฏอยู่ในแผนที่เก่า ๆ นั้น ถ้าเป็นคลองที่ปัจจุบันกลายเป็นถนนสายหลักไปแล้วก็คิดว่าน่าจะพอมีหลักฐานอยู่ว่าหายไปเมื่อใด ด้วยการไปหาข้อมูลว่าถนนเส้นนั้นมีการขยายเมื่อใด ส่วนจะหาได้ที่ใดนั้นก็ไม่รู้เหมือนกัน แล้วถ้าเป็นคลองที่อยู่ในพื้นที่ของหน่วยงานต่าง ๆ ล่ะ
 
แผนที่ในรูปที่ ๑ นั้นผมนำมาจากแผนที่แนบท้ายพระราชบัญญัติโอนคลองไผ่สิงห์โต ให้สภากาชาดไทย พ.ศ. ๒๔๘๕ (ประกาศในราชกิจจานุเบกษาเล่ม ๕๙ ตอนที่ ๘๑ หน้า ๒๕๘๙ วันที่ ๒๙ ธันวาคม พ.ศ. ๒๔๘๕) ตั้งแต่ตอนที่เขียนเรื่อง "คลองอรชร" ที่ยังมีส่วนหนึ่งของสะพานข้ามคลองเหลือให้เห็นอยู่ที่สุดถนนอังรีดูนังต์ด้านถนนพระราม ๑ และตัวคลองตั้งแต่ถนนพระราม ๑ ไปจนจรดคลองแสนแสบ (Memoir ปีที่ ๕ ฉบับที่ ๖๑๓ วันอังคารที่ ๓๐ เมษายน ๒๕๕๖) ตามแผนที่ฉบับนี้ คลองไผ่สิงห์โตเป็นคลองที่ทอดยาวจากถนนอังรีดูนังต์ด้านตะวันตก (ไม่รู้เหมือนกันว่าเชื่อมต่อเข้ากับคลองอรชรหรืออีกชื่อหนึ่งคือคลองสนามม้าหรือเปล่า) ไปออกยังคลองราชดำหริด้านตะวันออก และดูเหมือนว่าฝั่งตรงข้ามกับตำแหน่งที่คลองไผ่สิงห์โตบรรจบกับคลองราชดำหรินั้นยังมีคลองต่อออกไปอีก เห็นได้จากการมีสะพานบนถนนราชดำหริตรงตำแหน่งดังกล่าว (รูปที่ ๑) ซึ่งปัจจุบันคลองทั้งหมดดังกล่าวไม่มีให้เห็นแล้ว
 
ด้วยความอยากรู้ว่าปัจจุบันนี้คลองไผ่สิงห์โตในอดีตกลายเป็นอะไรไปแล้ว ก็เลยลองเอาแผนที่ในรูปที่ ๑ นั้นมาเทียบกับแผนที่ภาพถ่ายดาวเทียม (รูปที่ ๒ ที่ได้มาจากทางอินเทอร์เน็ต) ในปัจจุบัน ก็พบว่าตำแหน่งที่เป็นคลองไผ่สิงห์โตเดิมนั้นน่าจะอยู่ทางด้านทิศเหนือของธนาคารไทยพาณิชย์สาขาสภากาชาดไทย
 
เมื่อ ๒ อาทิตย์ที่แล้วบังเอิญมีธุระให้แวะไปแถวนั้น ได้ไปนั่งกินข้าวเที่ยงที่โรงอาหารใต้ธนาคารไทยพาณิชย์สาขาดังกล่าว ก็เลยถือโอกาสแวะดูหน่อยว่าทางด้านทิศเหนือของธนาคารนั้นพอจะมีร่องรอยอะไรเหลือให้เห็นว่าที่ตรงนั้นเคยเป็นคลองมาก่อนหรือเปล่า ก็พบว่าด้านริมรั้วติดถนนนั้นมีลักษณะเป็นแอ่งน้ำที่เป็นทางน้ำเชื่อมต่อกับระบบทางระบายน้ำของถนนอังรีดูนังต์และทางระบายน้ำภายในโรงพยาบาลจุฬาฯ (รูปที่ ๓) จุดนี้ถ้ามองจากทางด้านนอกจะอยู่ด้านหลังป้ายรถเมล์ (รูปที่ ๔)
 
สิ่งที่เห็นนั้นจะเป็นคลองไผ่สิงห์โตที่หลงเหลืออยู่หรือไม่นั้น ผมคงไม่สามารถยืนยันอะไรได้ แต่ถ้ามันเป็นระบบท่อระบายน้ำที่วางขึ้นทีหลังด้วยการขุดดินขึ้นมาเพื่อฝังท่อระบายน้ำลงไป มันก็ผิดปรกติตรงที่ทำไมจึงเปิดผิวหน้าให้เป็นแอ่งน้ำเฉพาะตรงนั้น ซึ่งไม่ใช่เรื่องปรกติที่ใครเขาทำกัน

เห็นแผนที่เก่า ๆ ของกรุงเทพที่เต็มไปด้วยลำคลอง จึงไม่น่าแปลกใจว่าทำไมแต่ก่อนชาวตะวันตกจึงเรียกกรุงเทพว่าเป็น "เวนิชตะวันออก"

รูปที่ ๑ แผนที่แนบท้ายพระราชบัญญัติโอนคลองไผ่สิงห์โต ให้สภากาชาดไทย พ.ศ. ๒๔๘๕ (ประกาศในราชกิจจานุเบกษาเล่ม ๕๙ ตอนที่ ๘๑ หน้า ๒๕๘๙ วันที่ ๒๙ ธันวาคม พ.ศ. ๒๔๘๕) แสดงแนวคลองไผ่สิงห์โตที่ด้านตะวันตกบรรจบกับถนนสนามม้า (ถนนอังรีดูนังต์ในปัจจุบัน) และด้านตะวันออกที่เชื่อมต่อกับคลองราชดำหริ (ที่ตอนนี้กลายเป็นถนนไปแล้ว)


รูปที่ ๒ ผมลองเทียบกับแผนที่ภาพถ่ายดาวเทียมปัจจุบัน ประมาณว่าแนวคลองดังกล่าวน่าจะอยู่ทางด้านทิศเหนือของธนาคารไทยพาณิชย์สาขาสภาพกาชาดไทยในปัจจุบัน

รูปที่ ๓ แอ่งน้ำที่สงสัยว่าน่าจะเป็นร่องรอยของคลองไผ่สิงห์โตในอดีต อยู่ด้านหลังป้ายรถเมล์ในรูปที่ ๔


รูปที่ ๔ ถ้ายืนดูจากสะพานลอยข้ามถนนอังรีดูนังต์ ตรงหน้าประตูคณะรัฐศาสตร์ แอ่งน้ำในรูปที่ ๓ จะเป็นบริเวณหลังป้ายรถเมล์ที่ลูกศรสีเหลืองชี้ 

รูปที่ ๕ อันนี้เป็นรูปถ่ายที่จัดแสดงไว้ในพิพิธภัณฑ์มหาวิทยาลัย เป็นอาคารของคณะรัฐศาสตร์ มุมถ่ายภาพน่าจะเป็นจากด้านทิศตะวันออกเฉียงใต้ (ด้านถนนอังรีดูนังต์ในปัจจุบัน) มองไปยังทิศตะวันออกเฉียงเหนือ จะเห็นมุมขวาของภาพปรากฏสะพานอยู่ คิดว่าคงเป็นสะพานข้ามคลองอรชร ส่วนฝั่งตรงข้ามอาคารดังกล่าว (ซึ่งปัจจุบันกลายเป็นตึกเรียนไปหมดแล้ว) มีลักษณะเป็นพื้นที่ต่ำ (ไม่รู้ว่าเป็นคลองหรือทางระบายน้ำหรือเปล่า)


รูปที่ ๖ รูปนี้เป็นอีกรูปหนึ่งที่แสดงในพิพิธภัณฑ์มหาวิทยาลัย จะเห็นว่าทางด้านซ้ายของภาพ (ทิศเหนือของหอประชุม) เคยมีคลองอยู่ ซึ่งปัจจุบันเหลือเพียงแค่สระน้ำเล็ก ๆ ข้างหอประชุมเท่านั้นเอง และคงเป็นคลองเดียวกันกับที่ปรากฏในรูปหน้าตึกคณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ที่เคยเอามาให้ดูก่อนหน้านี้ (Memoir ปีที่ ๙ ฉบับที่ ๑๓๑๖ วันเสาร์ที่ ๒๑ มกราคม ๒๕๖๐ เรื่อง "สถาปัตยกรรมคณะราษฎร ในจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย (ก่อนจะเลือนหายไปจากความทรงจำ ตอนที่ ๑๒๗)"

ไม่มีความคิดเห็น: