เส้นทางแถวนี้ ถ้าเป็นช่วงทำนาหรือข้าวออกรวงก็น่าจะดูดีกว่าหน้าร้อนแบบนี้มาก ตามถนนรองจากสถานีเปรงไปยังคลองแขวงกลั่นก็ยังเป็นพื้นที่ทำนาอยู่
พอจะรู้มาก่อนหน้าแล้วว่าสถานีนี้เป็นสถานีร้าง แต่ก็ไม่คิดว่ามันจะทรุดโทรมน่าดู ตอนไปถึงสถานี พอจอดรถเสร็จก็หาทางขึ้นชานชาลาไม่เจอ เข้าใจว่าคงต้องเดินลุยเข้าไปข้างในห่างจากถนนเข้าไปอีก แต่พอเห็นกองอิฐที่พอจะปีนขึ้นไปได้ (เดาว่าน่าจะมีคนเอามากองไว้ จะได้ไม่ต้องเดินเข้าไปลึกจากถนนมาก) ก็เลยปีนขึ้นไปตรงนั้นแทน
ตัวอาคารทั้ง ๆ ที่สร้างขึ้นไม่นานแต่ชำรุดทรุดโทรมมาก กระจกหน้าต่างหายหมด ตามชานชาลาเต็มไปด้วยมูลนกพิราบตามแนวที่นกมาเกาะ ถนนเข้าสู่ตัวสถานีอยู่สุดตัวสถานีด้านทิศตะวันออกที่มีจุดตัดทางรถไฟ ที่เคยเกิดอุบัติเหตุรถไฟชนรถบัสจนทำให้มีผู้เสียชีวิตร่วม ๒๐ ราย (รูปที่ ๙)
จากป้ายที่สถานีเปรงทำให้รู้ว่าสถานีคลองแขวงกลั่นนี้สร้างขึ้นภายหลังโดยให้อยู่ก่อนถึงสถานีคลองบางพระ แต่ก็แปลกใจเหมือนกันว่าทำไมจึงสร้างสถานีที่ตำแหน่งนี้ทั้ง ๆ ที่อยู่ห่างจากสถานีบางพระไม่ถึง ๓ กิโลเมตร และแถวนี้ดูแล้วก็ไม่เห็นมีชุมชนใหญ่อะไร ดูจากพื้นที่รอบข้างแล้วจึงไม่น่าแปลกใจที่ว่าทำไมหลังเกิดอุบัติเหตุครั้งนั้น ชาวบ้านจึงไม่กล้ามาใช้สถานีนี้ในช่วงเวลากลางคืน
แผนการสร้างทางรถไฟความเร็วสูงจากสุวรรณภูมิไปยังอู่ตะเภาก็มีผู้ประมูลงานก่อสร้างไปแล้ว แต่ไม่รู้ว่าจะได้สร้างจริงเมื่อใด แนวเส้นทางการสร้างก็น่าจะอยู่ตามแนวทางรถไฟเดิมนี้ วันนั้นมีโอกาสผ่านไปแถวนั้นก็เลยถือโอกาสแวะถ่ายรูปสถานีรถไฟที่เงียบสงบริมทางเก็บเอาไว้ดูเล่นก่อนที่บรรยากาศแบบนี้จะหายไป
วันนี้ก็เป็นการเล่าเรื่องด้วยภาพอีกวัน
รูปที่ ๑ บนเส้นทางจากสถานีเปรงไปยังคลองแขวงกลั่น
รูปที่ ๒ จุดตัดทางรถไฟที่เป็นที่เกิดอุบัติเหตุ
รูปที่ ๓ สถานีนี้เป็นสถานีร้าง ไม่มีคนดูแล
รูปที่ ๔ แม้แต่ป้ายบอกสถานีข้างเคียง (ฝั่งด้านทิศตะวันออก) ก็ยังมีต้นไม้ขึ้นบดบัง
รูปที่ ๕ ป้ายด้านฝั่งทิศตะวันตกดูดีหน่อย
รูปที่ ๖ ทางช้ามที่เป็นจุดเกิดอุบัติเหตุ อยู่ปลายชานชาลาด้านทิศตะวันออก
รูปที่ ๗ สภาพอาคารร้าง กระจกหน้าต่างไม่เหลือง
รูปที่ ๘ บนชานชาลามองไปยังทิศตะวันออก บริเวณนี้ดีหน่อยตรงที่ไม่ค่อยมีมูลนกพิราบ
รูปที่ ๙ ภาพข่าวอุบัติเหตุที่เกิดเมื่อวันที่ ๑๑ ตุลาคม ๒๕๖๓ ขอนำมาบันทึกไว้หน่อย
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น