ทางภาคใต้ของประเทศไทยเคยมีบริษัทต่างชาติเข้ามาลงทุนทำเหมืองแร่ดีบุกเอาไว้ในที่ต่าง
ๆ บางเหมืองได้มีการลงทุนสร้างทางรถไฟ
(หรือรถราง)
เพื่อใช้ในการลำเลียงแร่ที่ขุดได้ออกไปจำหน่าย
รถไฟเหล่านี้ตามกฎหมายเรียก
"รถไฟหัตถกรรม"(๒)
คือเป็นรถไฟที่ใช้สำหรับลำเลียงสิ่งของ
ไม่อนุญาตให้เป็นรถไฟโดยสาร
บางส่วนของรถไฟหัตถกรรมนี้ที่มีการเปิดใช้ในภาคใต้ก็ได้เคยเล่าเอาไว้แล้ว(๓)
ฝั่งทะเลอันดามันทางภาคใต้ของประเทศไทยเขตตั้งแต่จังหวัดระนองลงไปจนถึงจังหวัดพังงาก็เป็นบริเวณที่มีการทำเหมืองแร่ต่าง ๆ และได้มีการขออนุญาตสร้างทางรถไฟหรือรถรางไว้สำหรับลำเลียงสินแร่ออกจากเหมืองเพื่อส่งไปจำหน่ายด้วย การสืบค้นจากราชกิจจานุเบกษาพบว่ามีการอนุญาตให้สร้างทางรถไฟดังกล่าวไว้หลายแห่งแต่ขณะนี้สืบค้นแผนที่ได้เพียงแค่ไม่กี่แห่ง แห่งแรกที่เคยนำเสนอไปก่อนหน้านี้คือที่ อ.กะปง จ.พังงา(๓) สำหรับ Memoir ฉบับนี้จะเป็นที่ อ.ตลาดใหญ่ จ.ตะกั่วป่า
ราชกิจจานุเบกษาเล่มที่ ๔๖ หน้า ๒๔๙๐-๒๔๙๑ วันที่ ๒๗ ตุลาคม ๒๔๗๒ แจ้งความกรมรถไฟหลวงเรื่องสร้างและเดิรรถไฟหัตถกรรม ได้อนุญาตให้บริษัทสะตูปูโลโนไลเอบิลลิตี้ (Stupulo no Liability) ที่ทำการเหมืองแร่ในจังหวัดตะกั่วป่าทำการสร้างและเดินรถไฟหัตถกรรมจากที่ประกอบการทำเหมืองแร่ของบริษัทจากตำบลย่านยาว อำเภอตลาดใหญ่ ไปจนถึงทุ่งน้อยที่เป็นท่าเรือในจังหวัดตะกั่วป่า เป็นระยะทางยาวประมาณ ๘ กิโลเมตร (รูปที่ ๒) เมื่อเทียบดูแล้วเส้นทางนี้ควรจะเป็นเส้นทางเดียวกันกับที่ปรากฏในแผนที่แนบท้ายพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตต์หวงห้ามที่ดินในท้องที่ตำบลบางนายสี ตำบลบางม่วง และตำบลตำตัว อำเภอตะกั่วป่า จังหวัดพังงา พ.ศ. ๒๔๙๒(๔) (รูปที่ ๓)
เมื่อเทียบกับแผนที่ภาพถ่ายดาวเทียมในปัจจุบัน (รูปที่ ๔) แผนที่แนบท้ายพระราชกฤษฎีกาดังกล่าวควรจะเป็นบริเวณในกรอบสี่เหลี่ยมสีเขียว และแนวทางรถไฟดังกล่าวจะอยู่บริเวณเส้นประสีเหลือง หรือประมาณถนนสาย พง ๗๐๑๕ ในปัจจุบัน
หมายเหตุ
(๑)
ราชกิจจานุเบกษาเล่มที่
๔๙ หน้า ๓๘๘ วันที่ ๑ พฤษภาคม
๒๔๗๕
ประกาศกระทรวงมหาดไทยเรื่องเปลี่ยนนามอำเภอตลาดใหญ่เป็นอำเภอตะกั่วป่า
(๒)
ดู
Memoir
ปีที่
๕ ฉบับที่ ๕๒๒ วันเสาร์ที่
๒๐ ตุลาคม ๒๕๕๕ เรื่อง
"ก่อนจะเลือนหายไปจากความทรงจำ ตอนที่ ๒๗ รถไฟหัตถกรรม (ลากไม้) เอื้อวิทยาพาณิชย์"
(๓)
ดู
Memoir
ปีที่
๕ ฉบับที่ ๕๒๖ วันอาทิตย์ที่
๒๘ ตุลาคม ๒๕๕๕ เรื่อง
"ก่อนจะเลือนหายไปจากความทรงจำ ตอนที่ ๒๘ รถไฟหัตถกรรม (เหมืองแร่-ป่าไม้ ในภาคใต้)"
(๔)
ราชกิจจานุเบกษาตอนที่
๑๓ เล่ม ๖๖ วันที่ ๑ มีนาคม
๒๔๙๒
พระราชกฤษฎีกากำหนดเขตต์หวงห้ามที่ดินในท้องที่ตำบลบางนายสี
ตำบลบางม่วง และตำบลตำตัว
อำเภอตะกั่วป่า จังหวัดพังงา
พ.ศ.
๒๔๙๒
รูปที่
๑ ราชกิจจานุเบกษาเปลี่ยนชื่ออำเภอตลาดใหญ่เป็นอำเภอตะกั่วป่า
รูปที่
๓ แผนที่แนบท้ายพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตต์หวงห้ามที่ดิน
ปรากฏเส้นทางรถไฟจากทุ่งน้อย-ตลาดใหญ่
ซึ่งตรงกับเส้นทางรถไฟของบริษัทสะตูปูโลโนไลเอบิลิตี้ที่ได้รับอนุญาตให้สร้างและเดินรถไฟ
รูปที่
๔ ถ้านำแผนที่ในรูปที่ ๓
มาเทียบกับภาพถ่ายดาวเทียมในปัจจุบัน
แผนที่ดังกล่าวจะอยู่ในบริเวณกรอบสี่เหลี่ยมสีเขียว
โดยมุมล่างขวาของกรอบจะเป็นที่ตั้งของอำเภอตลาดใหญ่
เส้นทางรถไฟน่าจะอยู่ประมาณถนนสาย
พง ๗๐๑๕ (เส้นประสีเหลือง)
ที่ผ่านระหว่างภูเขาสองลูก
ในหนังสือ
"The
Railway Atlas of Thailand, Laos and Cambodia" ของ
B.R.
Whyteในหน้าที่
114-115
ได้ให้รายชื่อบริษัทที่เข้ามาทำเหมืองในภาคใต้ของประเทศไทย
และบริษัทที่น่าจะมีการสร้างทางรถไฟเพื่อไว้ลำเลียงสินแร่ออกจากเหมืองเพื่อส่งไปจำหน่ายด้วย
ในเขตตะกั่วป่าเองมีการระบุว่าน่าจะมีถึง
4
เหมืองที่มีการสร้างทางรถไฟ
โดยบริษัทสะตูปูโลโนไลเอบิลิตี้ก็เป็นบริษัทหนึ่งในจำนวนสี่บริษัทนั้น
แม้ว่าหนังสือนี้จะให้รายละเอียดที่เป็นข้อความของรถไฟบริษัททำเหมืองเอาไว้ดีมาก
แต่ก็ยังขาดแผนที่อยู่
Memoir
นี้จึงอาจเป็นส่วนหนึ่งที่ช่วยเติมเต็มส่วนที่กำลังจะเลือนหายไปของมุมหนึ่งของประวัติศาสตร์รถไฟไทย
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น