เมื่อผู้ติดตั้งสักแต่ว่าทำให้งานมันเสร็จ
ๆ ไป แถมผู้ใช้งานก็ไม่ได้แวะเข้ามาตรวจดูการติดตั้ง
อะไรต่อมิอะไรมันก็สามารถเกิดขึ้นได้
รูปที่เอามาให้ดูวันนี้ถ่ายเก็บเอาไว้เกือบ
๓ ปีแล้ว
หน่วยนี้เข้าใจว่าเป็นถังเก็บรวบรวมไอน้ำที่ควบแน่น
(steam
condensate) เพื่อนำกลับไปใช้งานใหม่
(จะได้ประหยัดน้ำที่ต้องนำมาเติมชดเชย)
ไม่แน่ใจเหมือนกันว่าหน่วยนี้มีอยู่ในแบบตอนเริ่มต้นหรือคิดทำการติดตั้งเพิ่มเติมภายหลัง
แต่ดูเหมือนว่าการติดตั้งนั้นเป็นแบบคิดรูปแบบกันเอาเองที่หน้างาน
ลองพิจารณาดูรูปเอาเองก่อนก็แล้วกันนะครับ
ตัวหนึ่งเป็นปั๊มใช้งานหลัก
อีกตัวเป็นปั๊มสำรอง
รูปที่
๑ ปั๊มสูบไอน้ำที่ควบแน่นจากถังเก็บเพื่อส่งกลับไปใช้งานใหม่
ดูเผิน ๆ
ก็จะเห็นว่าการจัดวางอุปกรณ์นั้นวางได้อย่างสมมาตรดีนะครับ
รูปที่
๒ เมื่อมองจากฝั่งตรงข้ามของรูปที่
๑ ลองนึกภาพว่าถ้าต้องเข้าไปเปิดหรือปิดวาล์วในกรอบสี่เหลี่ยม
คุณจะทำอย่างไร
รูปที่
๓ การติดตั้งเกจวัดความดัน
ที่ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าทำไมไม่ติดตั้งให้อ่านได้ง่าย
ๆ ด้วยการพลิกออกมาด้านนี้
กลับต้องใช้การมองเฉียง ๆ
จากฝั่งตรงข้าม
การติดตั้งปั๊มหอยโข่ง
(centrifugal
pump)
เพื่อใช้สูบของเหลวที่มีอุณหภูมิที่จุดเดือดหรือใกล้จุดเดือดนั้นต้องระวังการเกิด
cavitation
มากกว่าปรกติ
ดังนั้นเพื่อที่จะลดโอกาสเกิด
cavitation
ระดับท่อทางเข้าของปั๊มควรที่จะอยู่ต่ำกว่าระดับของเหลวที่ทำการสูบ
และจะดียิ่งขึ้นถ้าท่อด้านขาเข้านั้นมีค่าความดันลด
(pressure
drop) ต่ำด้วย
การเริ่มเดินเครื่องปั๊มหอยโข่งนั้น
สมมุติว่าเริ่มจากสภาพที่วาล์วทุกตัวปิดอยู่
ก็จะทำการเปิดวาล์วด้านขาเข้าเพื่อทำการเติมของเหลวให้เต็มตัวปั๊ม
ถ้าหากมีเส้นทาง minimum
flow line (หรือ
kick
back line) ก็ให้เปิดวาล์วเส้นทางนั้น
จากนั้นจึงเริ่มเดินเครื่องปั๊ม
(จ่ายไฟเข้ามอเตอร์)
แล้วจึงเปิดวาล์วด้านขาออก
ส่วนการหยุดเดินเครื่องนั้นเราก็เริ่มจากปิดปั๊ม
(ตัดการจ่ายไฟเข้ามอเตอร์)
ปิดวาล์วด้านขาออกและปิดวาล์วด้านขาเข้า
จากรูปที่
๑ และ ๒ คงมองเห็นได้ชัดนะครับ
ถ้าคุณต้องเข้าไปเริ่มเดินเครื่องปั๊มดังกล่าว
คุณมีที่ยืนหรือไม่สำหรับการเปิดและปิดวาล์ว
ย้ำนิดนึงนะครับว่าท่อที่เห็นนั้นเป็นท่อร้อน
คุณไม่สามารถยืนบนชั้นฉนวนความร้อนได้
และท่อก็ไม่ได้หุ้มฉนวนความร้อนเอาไว้ทุกส่วน
นอกจากนี้ลองพิจารณาดูรูปที่
๓ นะครับที่ตัดมาเฉพาะส่วนเกจวัดความดัน
ติดตั้งแบบนี้ก็ไม่รู้เหมือนกันว่า
รูปที่
๔ เป็นภาพมุมมองจากทางด้านบน
รูปซ้ายนั้นเป็นรูปแบบที่เป็นอย่างตามรูปที่
๑ และ ๒
ส่วนรูปขวานั้นเป็นรูปแบบที่ผมเห็นว่ามันเหมาะสมมากกว่า
เพราะทำให้มีช่องว่างระหว่างปั๊มสองตัว
ทำให้สะดวกกว่าที่จะเข้าไปทำงานกับวาล์วของปั๊มตัวที่อยู่ด้านใน
รูปที่
๔ ภาพเมื่อมองจากด้านบน
รูปซ้ายเป็นรูปแบบที่เป็นอยู่
ส่วนรูปขวาน่าจะเหมาะสมกว่าเพราะสะดวกในการเข้าไปทำงานกับวาล์วและยังลดโอกาสเกิด
cavitation
ด้วย
ในการสร้างโรงงานนั้น
ผู้ออกแบบมักจะไม่ใช่ผู้ก่อสร้าง
และผู้ก่อสร้างและควบคุมการก่อสร้างก็มักจะไม่ผู้ที่ต้องเข้ามาเดินเครื่อง
และผู้ที่ต้องทำหน้าที่เดินเครื่องนั้นก็มักจะไม่ได้เป็นผู้ออกแบบ
แต่สิ่งสำคัญสิ่งแรกก็คือผู้ออกแบบจำเป็นต้องมีความรู้เกี่ยวกับการทำงานของเครื่องจักรว่า
ในขั้นตอนการติดตั้ง
การเริ่มเดินเครื่อง
การหยุดเดินเครื่อง
และการซ่อมบำรุงนั้น
ต้องมีการปฏิบัติงานอะไรบ้าง
เพื่อที่จะได้ทำการติดตั้งท่อระบบสาธารณูปโภคต่าง
ๆ ที่จำเป็น (อาจต้องคำนึงถึงระบบระบายน้ำทิ้งด้วย)
และเว้นพื้นที่ทำงาน
(ทั้งสำหรับผู้เข้าไปทำงานและอุปกรณ์ช่วยยก)
แต่ทั้งนี้ในระหว่างการก่อสร้างเอง
ตัวผู้ที่ต้องเดินเครื่องเองก็ควรที่จะหาโอกาสเข้าไปตรวจสอบการติดตั้งอุปกรณ์
(เช่นพวกวาวล์ต่าง
ๆ)
ว่าอยู่ในตำแหน่งที่เข้าไปทำงานได้หรือไม่
เพราะการแก้ไขในขณะที่กำลังก่อสร้างอยู่นั้นมันง่ายกว่าหลังจากที่โรงงานสร้างเสร็จและพร้อมจะเดินเครื่องแล้ว
แต่สำหรับโรงงานที่เริ่มจากศูนย์
(คือไม่มีผู้มีประสบการณ์ช่วยกำกับดูแล)
เรื่องเหล่านี้ก็เป็นเรื่องที่น่าเห็นใจอยู่เหมือนกัน
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น