เมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมาเห็นข่าวราคาที่ดินแถวจังหวัดเชียงรายเพิ่มขึ้นเนื่องจากการเก็งกำไร
อันเป็นผลจากข่าวที่ว่าจะมีการสร้างทางรถไฟแยกออกจาก
จ.
แพร่
ไปยัง จ.
เชียงราย
มุ่งไปยังพรมแดนไทย-พม่า
และไทย-ลาว
อันที่จริงแผนการนี้ไม่ใช่แผนการใหม่
แต่เป็นแผนการณ์ที่มีมานานแล้ว
(ก่อนสงครามโลกครั้งที่
๒ ด้วยซ้ำ)
แต่ด้วยสถานการณ์ทางการเมืองก็เลยทำให้มันไม่เกิดซะที
คำตอบกระทู้ถามของสมาชิกสภาผู้แทน
กระทู้ถามที่ ว.
๗๒/๒๔๙๓
ของนายบุญช่วย ศรีสวัสดิ์
สมาชิกสภาผู้แทนเชียงราย
เรื่องการสร้างทางรถไฟ
ที่เผยแพร่ในราชกิจจานุเบกษาตอนที่
๓๗ เล่ม ๖๗ วันที่ ๔ กรกฎาคม
๒๔๙๓ (รูปที่
๑)ทำให้ทราบว่ารัฐบาลของจอมพล
ป.
พิบูลสงคราม
ในช่วงก่อนสงครามโลกครั้งที่สองราว
ๆ ปีพ.ศ.
๒๔๘๓
ได้มีโครงการที่จะสร้างทางรถไฟจาก
เด่นชัย-แพร่-น่าน
ไป เชียงคำ-เทิง-เชียงราย
ซึ่งเป็นเส้นทางโฉบไปยังพรมแดนระหว่างไทยกับอินโดจีนฝรั่งเศส
(ในขณะนั้น
หรือลาวในปัจจุบัน)
และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมก็ได้ให้คำตอบว่าเส้นทางสายดังกล่าวอยู่ในแผนการณ์แล้ว
แต่เส้นทางดังกล่าวก็ไม่เกิดขึ้น
ช่วงปีพ.ศ.
๒๕๑๐
ประเทศไทยมีโครงการขยายเส้นทางรถไฟอย่างกว้างขวาง
เห็นได้จากการมีการออกพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดินในบริเวณที่ที่จะเวนคืน
ในหลายท้องที่
(เช่นเส้นเชื่อมสายใต้ไปสายเหนือผ่านสุพรรณบุรี
เส้นจากสุราษฎร์ธานีไปยังพังงาและภูเก็ต
เส้นเชื่อมรถไฟสายมหาชัย-แม่กลอง
เข้ากับสายใต้ที่ปากท่อ
เส้นเชื่อมสายใต้จากตลิ่งชันเข้ากับเส้นทางสายมหาชัย
เส้นทางสายฉะเชิงเทราไปสัตหีบ)
และเส้นทางแยกจากสายเหนือที่
อ.
เด่นชัย
จ.
แพร่
ไปยัง จ.
เชียงราย
ก็เป็นหนึ่งในเส้นทางที่วางแผนจะขยายออกไปด้วย
แต่แนวเส้นทางนี้แตกต่างไปจากเส้นทางที่มีการกล่าวถึงในปีพ.ศ.
๒๔๙๓
คือแนวเส้นทางใหม่นี้ไม่ได้โฉบเข้าหาพรมแดน
โดยตรงมาทางฝั่ง จ.
ลำปาง
โฉบทางด้านทิศตะวันออกของ
อ.
งาว
เข้าสู่ อ.
พะเยา
ก่อนมุ่งสู่ จ.
เชียงราย
(รูปที่
๒)
แต่สุดท้ายเส้นทางสายนี้ก็ไม่ได้สร้าง
ส่วนเส้นทางที่มีการก่อสร้างไปแล้วบางส่วน
(เช่นสายสุพรรณบุรี
สายคีรีรัฐนิคม)
ก็ยุติการก่อสร้างลงแค่นั้น
ปีพ.ศ.
๒๕๔๔
โครงการสร้างทางรถไฟไปเชียงรายก็ฟื้นคืนชีพมาใหม่อีกครั้ง
แนวเส้นทางยังคงคล้ายแนวที่วางแผนไว้ในปีพ.ศ.
๒๕๑๐
จะมีแตกต่างบ้างบางจุดเช่นแทนที่จะผ่านไปทางด้านตะวันออกของ
อ.
งาว
ก็กลายเป็นวิ่งเข้า อ.
งาวเสียเลย
(รูปที่
๓
และรูปที่ ๔)
แต่สุดท้ายก็เงียบหายไปเช่นเดิม
ภูมิประเทศทางภาคเหนือนั้นแนวเขาวางตัวในแนวเหนือ-ใต้
จากประสบการณ์ที่เคยขับรถในบริเวณดังกล่าวมาบ้างทำให้ทราบว่าถ้าเป็นการเดินทางในแนวเหนือ-ใต้ไม่ค่อยจะมีปัญหาเท่าใดนัก
แต่ถ้าเป็นแนวตะวันออก-ตะวันตกจะใช้เวลามากกว่าเพราะต้องข้ามแนวเขา
ภูมิประเทศแบบนี้ยากที่จะสร้างทางรถไฟให้อยู่ในแนวตรงได้
รัศมีความโค้งของเส้นทางก็เป็นปัจจัยหนึ่งที่กำหนดความร็วสูงสุดของรถไฟที่จะทำได้
ถ้าหากให้รถไฟวิ่งเร็วได้
รัศมีความโค้งก็ต้องมาก
ถ้าเป็นพื้นที่ราบก็ไม่ค่อยมีปัญหาเท่าใด
แต่ถ้าภูมิประเทศเป็นภูเขาจะมีปัญหาเรื่องการก่อสร้างมากกว่า
ถ้านับจากแผนการณ์สมัยรัฐบาลจอมพล
ป.
พิบูลสงคราม
ที่จะสร้างทางรถไฟไปเชียงรายในปีพ.ศ.
๒๔๘๓
มาจนวันนี้ ก็เรียกว่าผ่านไปถึง
๗๖ ปีแล้วก็ยังไม่เกิดขึ้น
งานนี้ก็ต้องดูกันต่อไปว่าโครงการดังกล่าวจะได้เกิดเสียทีหรือมีอันต้องพับเก็บไปอย่างเช่นที่เคยเกิดมาหลายครั้งแล้วในอดีต
รูปที่
๑ กระทู้ถามที่ ว.
๗๒/๒๔๙๓
ของนายบุญช่วย ศรีสวัสดิ์
สมาชิกสภาผู้แทนเชียงราย
เรื่องการสร้างทางรถไฟ
เผยแพร่ในราชกิจจานุเบกษาตอนที่
๓๗ เล่ม ๖๗ วันที่ ๔ กรกฎาคม
๒๔๙๓
รูปที่
๒
แผนที่แนบท้ายพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดินในบริเวณที่ที่จะเวนคืน
ในท้องที่อำเภอเด่นชัย
อำเภอสูงเม่น อำเภอเมืองแพร่
อำเภอร้องกวาง อำเภอสอง
จังหวัดแพร่ และอำเภอปง
อำเภอดอกคำใต้ อำเภอพะเยา
อำเภอเทิง อำเภอพาน
อำเภอเมืองเชียงราย
จังหวัดเชียงราย พ.ศ.
๒๕๑๐
ประกาศในราชกิจจานุเบกษา
เล่ม ๘๔ ตอนที่ ๑๑๙ วันที่ ๕
ธันวามคม ๒๕๑๐ หน้า ๙๙๘-๑๐๐๐
รูปที่
๓ก แผนที่แนบท้ายพระราชกฤษฎีกา
กำหนดเขตที่ดินในบริเวณที่ที่จะเวนคืน
เพื่อสร้างทางรถไฟสายเด่นชัย-เชียงราย
พ.ศ.
๒๕๔๔
ประกาศในราชกิจจานุเบกษา
เล่ม ๑๑๘ ตอนที่ ๘๖ ก วันที่
๒๘ กันยายน ๒๕๔๔ หน้า ๖-๗
(แผนที่แผ่นที่
๑)
รูปที่
๔ก แผนที่แนบท้ายพระราชกฤษฎีกา
กำหนดเขตที่ดินในบริเวณที่ที่จะเวนคืน
เพื่อสร้างทางรถไฟสายเด่นชัย-เชียงราย
พ.ศ.
๒๕๔๔
ประกาศในราชกิจจานุเบกษา
เล่ม ๑๑๘ ตอนที่ ๘๖ ก วันที่
๒๘ กันยายน ๒๕๔๔ หน้า ๖-๗
(แผนที่แผ่นที่
๒)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น