วันอาทิตย์ที่ 7 ตุลาคม พ.ศ. 2561

อาจารย์คะ หนูคิดจะย้ายที่ปรึกษาค่ะ MO Memoir : Friday 5 October 2561


"ในฐานะที่เป็นอาจารย์ ผมเองก็ไม่เคยคิดว่าตนเอง "รัก" นิสิตในที่ปรึกษาทุกคนเท่ากันหรอกครับ
แต่สิ่งที่คิดอยู่เสมอว่าต้องทำในการปฏิบัติหน้าที่เป็นอาจารย์ก็คือการให้ "ความเป็นธรรม" ที่เท่าเทียมกันกับนิสิตในที่ปรึกษาทุกคน
ซึ่งเป็นสิ่งที่พยายามจะทำให้ดีที่สุด
เพราะการหลงในความ "รัก" นั้น มันนำไปสู่การให้ "สิทธิพิเศษ" ในหน้าที่การงานให้กับใครบางคน ซึ่งจะนำไปสู่ความแตกแยกภายใน
และนั่นก็เป็นสิ่งที่ทำให้เกิดปัญหาในการเรียนระดับบัณฑิตศึกษาของภาควิชาเรามาตลอด แม้กระทั่งปัจจุบัน
ผมเชื่อว่าสิ่งที่หลายคนได้เรียนไปจากผมนั้น ไม่ใช่สิ่งที่เขียนลง blog (เพราะปรกติก็ไม่เห็นจะอ่านกันเลยสักคน)
แต่เป็นสิ่งที่ไม่ได้เขียนลง blog ที่ปรากฏข้อความ "เอกสารฉบับนี้แจกจ่ายเป็นการภายใน ไม่นำเนื้อหาลง blog"
เพราะมันเป็นบันทึกปัญหาที่เกิด การพิจารณาหาสาเหตุ และแนวทางการแก้ไข
ด้วยเหตุนี้ เวลาที่เราเจอปัญหาแต่ละที แล้วเราข่วยกันแก้ไขจนผ่านมันไปได้
ผมจึงมักจะโดนนิสิตถามเป็นประจำว่า อาจารย์จะออก Memoir ไหม
แสดงว่าตอนบอกให้ฟังคงไม่ค่อยสนใจ หรือรับฟังได้ไม่หมด แต่ก็ยังดีที่เอาสิ่งที่เขียนให้ไปอ่าน :) :) :)
ปล. ทำไมถึงมีโพสนี้โผล่มาก็อย่าไปสนใจอะไรเลยนะครับ ถือเสียว่าผมเขียนเอาไว้เตือนใจตนเองก็แล้วกัน นาน ๆ ครั้งถึงจะคุยโทรศัพท์แต่ละครั้งนานเกิน ๒ นาที วันนี้ล่อเข้าไปเกือบชั่วโมง (ปรกติก็ใช้โควต้า ๑๐๐ นาทีต่อเดือนไม่หมดอยู่แล้ว) :) :) :)"
 
ข้างบนคือข้อความที่ผมโพสไว้บนหน้า facebook เมื่อวันอาทิตย์ที่ ๑๓ พฤษภาคมที่ผ่านมาที่อาจทำให้พวกคุณสงสัยว่ามันมีเรื่องอะไรเกิดขึ้น แต่ก็เชื่อว่าตอนนั้นพวกคุณก็คงพอจะเดากันได้อยู่

ณ วันเวลานี้ เหตุการณ์นั้นก็จบสิ้นไปได้ด้วยดีแล้ว โดยที่พวกคุณที่เข้ารับพระราชทานปริญญาในวันนี้ก็มีส่วนให้ความช่วยเหลือให้เหตุการณ์ดังกล่าวลงเอยด้วยดี ทั้งทางตรงและทางอ้อม โดยที่พวกคุณอาจจะไม่รู้ตัวก็ตาม
 
ผมเองเชื่อว่าคงไม่มีอาจารย์ที่ปรึกษาวิทยานิพนธ์คนไหนที่เป็นที่ชื่นชอบของนิสิตที่ตัวเองสอนทุกคน และในทางกลับกันก็คงไมมีใครที่เป็นที่ไม่ชอบของนิสิตในที่ปรึกษาทุกคนด้วย ด้วยเหตุนี้ตอนที่ผมจะรับนิสิตใหม่ในแต่ละปี ผมจึงมักจะย้ำให้พวกเขาต้องหาโอกาสคุยกับคนที่กำลังเรียนอยู่ โดยเฉพาะกับคนที่มีผมเป็นอาจารย์ที่ปรึกษา
 
แต่สำหรับพวกคุณทั้ง ๔ คนที่เข้ารับพระราชทานปริญญาบัตรในวันนี้ดูเหมือนว่าผมเป็นคนเลือกพวกคุณเองโดยที่พวกคุณต่างก็ไม่มีข้อมูลอะไรเกี่ยวกับผมมาก่อน :) :) :)
 
ส่วนสาเหตุที่ผมรับพวกคุณก็เพราะอาจารย์คนอื่นในกลุ่มเขาไม่สนใจพวกคุณ 55555
 
แต่สำหรับนิสิตปี ๑ และปี ๒ ทั้ง ๕ คนที่กำลังเรียนอยู่ตอนนี้ ๔ คนเป็นเด็กฝาก เด็กที่รุ่นพี่ที่เรียนกับกลุ่มอื่นพามาขอให้ผมช่วยรับเอาไว้ มีเพียงคนเดียวที่เลือกผมเพราะเห็นรูปรุ่นพี่เขาปรากฏในแผ่นพับประชาสัมพันธ์กลุ่มของเรา
 
แสดงว่าเอกสารประชาสัมพันธ์ของเรามันใช้ไม่ได้ผล :( :( :(
 


สภาพแวดล้อมทางสังคมของบ้านเรามันส่งผลต่อระบบการศึกษาในโรงเรียน กล่าวคือทำให้ผู้เรียนไม่กล้าที่จะถามคำถามกับผู้สอนในสิ่งที่ตัวเองไม่รู้ การเรียนการสอนที่จำเป็นต้องมีการถกเถียงหาข้อโต้แย้งจึงมีปัญหา สิ่งแรกที่ผมต้องพยายามทำให้ได้กับสมาชิกใหม่ของกลุ่มก็คือทำอย่างไรเขาจึงกล้าที่จะปรึกษาและรายงานปัญหาต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นในระหว่างการทำงาน แทนที่จะเก็บเงียบงำเอาไว้เหมือนกับมันไม่มีอะไร และทำอย่างไรจึงจะสามารถชี้ให้เห็น "จุดอ่อน" หรือ "จุดบกพร่อง" ของงานที่ได้ทำไปแล้วนั้น (รวมทั้งการแอบสั่งงานเพิ่มด้วยโดยไม่ให้พวกคุณรู้ตัว) โดยไม่ทำให้ผู้ทำงานเสียกำลังใจหรือเสียความรู้สึก สิ่งเหล่านี้เป็นการกระทำทื่ใช้เวลาและต้องหาโอกาสที่เหมาะสม ไม่มีสูตรสำเร็จและไม่สามารถเร่งรัดให้เกิดขึ้นได้อย่างรวดเร็ว


ดังนั้นจึงไม่ใช่เรื่องแปลกที่จะเห็นว่ากลุ่มของเราเมื่อใดก็ตามที่มีการประชุมความก้าวหน้าของงานนั้น ในเวลาประชุม ๖๐ นาทีหรือมากกว่า จะมีเรื่องงานอยู่เพียงแค่ ๑๐ ถึง ๑๕ นาที ส่วนที่เหลือมักจะเป็นการคุยเรื่องไร้สาระ เสียมากกว่า (ถ้ามองในแง่เรียกประชุมเพื่อคุยเรื่องความก้าวหน้าของงาน)
 
แต่จะว่าไปก็เป็นส่วนที่เป็นส่วนที่เป็นการคุยเรื่องไร้สาระเหล่านี้ไม่ใช่หรือ ที่ทำให้ทางกลุ่มของเราเองมีความสนิทสนมกัน สร้างความสัมพันธ์ระหว่างพวกคุณด้วยกันเองที่ต่างคนต่างมาจากแหล่งต่างกันเพื่อมาพบหน้ากัน ณ ที่นี้ ให้เป็นความสัมพันธ์ฉันเพื่อนที่ยืนยาวตลอดไป แม้ว่าหลังจากสำเร็จการศึกษาแล้วต่างคนต่างจะแยกย้ายไปตามทางของตนเอง (ซึ่งจะว่าไปแล้วเชื่อว่าจะเป็นเช่นนี้ เพราะดูแววแล้วพวกคุณที่เข้ารับพระราชทานปริญญาบัตรในวันนี้ คงไม่มีการจับคู่แต่งงานด้วยกันแน่นอน)

สอบวิทยานิพนธ์ วันพฤหัสบดีที่ ๗ ธันวาคม ๒๕๖๐

สอบวิทยานิพนธ์ วันศุกร์ที่ ๘ ธันวาคม ๒๕๖๐

".... ผมตั้งข้อความนี้ให้มีเฉพาะคุณที่เห็นได้
จากเวลานี้ไปจนถึงวันอังคาร คุณยังมีเวลาที่จะทบทวนความคิดของคุณ รวมทั้งสิ่งที่ผมได้บอกคุณไป
สิ่งที่ควรทำก็คือการปรึกษาผู้อื่น เผื่อจะได้มีมุมมองที่แตกต่างออกไปในการแก้ปัญหา และข้อดีข้อเสียของแนวทางการแก้ปัญหาแต่ละแนวทาง
สิ่งที่ต้องระวังเวลานี้ก็คือ แนวความคิดที่ตรงกับที่คุณปักใจเชื่ออยู่ เพราะมันจะทำให้คุณปฏิเสธมุมมองอื่นจนอาจทำให้คุณสูญเสียทางเลือกที่อาจดีกว่าไปได้
สิ่งที่คุณกำลังประสบนั้น เป็นปัญหาที่เกิดมาอย่างต่อเนื่องในภาควิชาเรา มีมาเยอะแล้ว แต่ก็ยังเกิดขึ้นอยู่เรื่อย ๆ รุ่นก่อนหน้าคุณหลายต่อรายคน (โดยเฉพาะนิสิตในแลปเดียวกับผม) ก็เคยมาปรับทุกข์กับผมเรื่องนี้
เงื่อนไขหนึ่งในการสำเร็จการศึกษาระดับป.โท ก็คือ การมีการเผยแพร่ผลงาน
แต่ตรงนี้แม้จะไม่มีข้อกำหนดชัดเจน แต่ก็เป็นธรรมเนียมปฏิบัติที่ว่าควรต้องมีส่วนเกี่ยวข้องกับงานวิจัยที่ตนเองทำ
ผมเองไม่เคยได้ยินว่าสามารถใช้งานเผยแพร่ที่แตกต่างไปคนละเรื่องกับวิทยานิพนธ์ในการขอจบได้
นิสิตในแลปแคตรายหนึ่งก็เคยคิดแบบคุณ ผมได้ยินว่าเขาไปติดต่อขอเอกสารย้ายอาจารย์ที่ปรึกษาจากธุรการ
ผมไม่รู้ว่าเรื่องราวเป็นอย่างไร เพราะผมไม่เคยคุยกับเขาในเรื่องนี้ แต่ดูเหมือนว่าหลังจากคุยกับอาจารย์ที่ปรึกษาของเขาแล้วเหตุการณ์ก็เปลี่ยนไปในทางที่ดีขึ้น (หน่อย) แม้ว่าคงเป็นการยากเหมือนกันที่เขาจะจบในภาคการศึกษานี้
ผมเองมาทราบเรื่องหลังจากเรื่องจบไปแล้ว
ในบางเรื่อง (ย้ำนะ เพียงแค่บางเรื่อง โดยเฉพาะเรื่องที่ไม่ทำให้เกิดความเสียหายต่อผู้อื่น) คนเป็นพ่อแม่อาจไม่ได้พูดความจริงกับลูกทุกครั้งเสมอไป
แต่ถ้าการโกหกลูกนั้นมันทำให้ลูกมีความสุขและรู้สึกดีขึ้นมาได้ เขาก็จะทำ (ผมเองบางครั้งก็เป็นเช่นนั้น) ..."

หลายครั้งที่ทางผมเองมีนิสิตที่อยู่กับอาจารย์ที่ปรึกษาท่านอื่นมาขอคำปรึกษา ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการทำวิจัยหรือความเครียดจากงานวิจัย หรือบ่อยครั้งที่พวกคุณก็คงจะเคยเห็นที่เขาแวะมานั่งคุยกับกลุ่มของเรา นั่นคงเป็นเพราะเขาคงต้องการพักผ่อนจากความเครียดในการทำการทดลอง จะว่าไปกลุ่มของเราก็แปลกนะ เรานั่งคุยกันเองโดยมีอาจารย์นั่งอยู่ด้วย แต่นิสิตกลุ่มอื่นก็ไม่นึกกลัวที่จะเข้ามานั่งร่วมวงสนทนา ไม่เหมือนกลุ่มอื่นเขาที่ถ้าหากมีอาจารย์นั่งอยู่ด้วย ก็จะไม่มีนิสิตกลุ่มอื่นเฉียดกรายเข้าไปแถวนั้นนะ
 
หรือที่จริงเป็นเพราะว่าที่ประจำของการนั่งสนทนาของกลุ่มเรา คือสามแยก SCR มันตั้งอยู่ ณ ตำแหน่งที่ขวางทางเดินเข้า-ออกที่มีอยู่เส้นทางเดียวของห้องแลปนั้น :) :) :)


สอบวิทยานิพนธ์ วันพฤหัสบดีที่ ๒๔ พฤษภาคม ๒๕๖๑

สอบวิทยานิพนธ์ วันจันทร์ที่ ๒๘ พฤษภาคม ๒๕๖๑

สอบวิทยานิพนธ์ วันพฤหัสบดีที่ ๗ ธันวาคม ๒๕๖๐ หวังว่าอีก ๒ คนในรูปคงจะได้สอบภายในปีการศึกษานี้


สามแยก SCR ณ วันศุกร์ที่ ๒๘ กันยายน ๒๕๖๑ สถานที่ยินดีต้อนรับทุกรายที่ประสงค์ต้องการพักผ่อนจากการทำการทดลองหรือการประชุมกลุ่ม รวมทั้งอัปเดตข่าวคาว (ไม่มี "ร" นะครับ) ต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นในแลป :) :) :) โต๊ะทำงานมุมนี้ก็สอนให้เรารู้ว่าความหรูหราของสถานที่นั้นไม่ใช่สิ่งสำคัญเหนือสิ่งอื่นใด ความจริงใจของผู้ร่วมสนทนานั้นคือสิ่งที่สำคัญยิ่งกว่าในการสร้างบรรยากาศการสนทนา

วันศุกร์ที่ ๕ ตุลาคม ๒๕๖๑ นิสิตป.โทปี ๑ และปี ๒ ของกลุ่ม


วันอังคารที่ ๒๓ พฤษภาคม ๒๕๖๐ ประชุมเขียนวิทยานิพนธ์ ห้องสมุดคณะวิศวกรรมศาสตร์

Memoir ฉบับนี้ที่เป็นฉบับสุดท้ายที่จะส่งให้พวกคุณที่เข้ารับพระราชทานปริญญาบัตรในวันนี้ ผมเขียนเอาไว้หลายวันแล้ว เหลือแต่รอเพียงแค่รูปภาพสุดท้ายที่จะนำมาลงปิดท้ายบันทึกฉบับนี้ ด้วยหน้าที่การงานผมก็จำเป็นต้องสอนและฝึกพวกคุณตามบทบาทที่ได้รับมอบหมาย แต่สิ่งสำคัญที่อยากให้พวกคุณได้ไปก็คือ การได้รู้ว่าตัวเองนั้นชอบที่จะเป็นอะไร จะทำงานในสายวิชาชีพนี้ต่อหรือจะเปลี่ยนเส้นทาง และหวังว่าสิ่งสำคัญที่พวกคุณได้รับไปในระหว่างการที่พวกเราได้อยู่ร่วมกันนั้น คือความสัมพันธ์ที่ดีระหว่างกันในหมู่พวกคุณด้วยกันเอง ที่ควรค่าแก่การรักษาเอาไว้ให้คงอยู่ตลอดไป ท้ายสุดนี้ก็ขอให้ทุกคนประสบแต่ความสุขความสำเร็จในชีวิตตลอดไป

วันศุกร์ที่ ๕ ตุลาคม ๒๕๖๑ ก่อนเข้ารับพระราชทานปริญญาบัตร

หมายเหตุปิดท้าย : ขอบคุณมากครับสำหรับของขวัญ คงต้องหาโอกาสเหมาะ ๆ สักวันเพื่อนำมาใช้ครับ :) :) :)

ไม่มีความคิดเห็น: