"รถไฟสายแม่กลองตอนนั้นก็เหลือกำลังจริง
ๆ ฝนตกหนัก ๆ พ่อไม่แล่นเสียเฉย
ๆ หัวรถจักรนั้นวิ่งเต็มสตีมแต่ล้อขบวนไม่เคลื่อนเพราะความลื่น
แต่เดี๋ยวนี้การรถไฟแก้ไขเรียบร้อยรถวิ่งได้รวดเร็วดีมาก
..."
จากเรื่อง
"เจ้าที่ในโรงหนังที่บ้านแหลม"
โดย
สง่า อารัมภีร ในหนังสือ
"ผีกระสือที่บางกระสอ"
พิมพ์ครั้งที่
๓ สำนักพิมพ์ดอกหญ้า พ.ศ.
๒๕๓๙
ถ้าจะซื้ออาหารทะเลสดก็คงต้องเป็นที่มหาชัย
แต่ถ้าจะกินปลาทูก็คงต้องเป็นที่แม่กลอง
ซึ่งผมก็ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมจึงต้องเป็นปลาทูแม่กลอง
แต่สำหรับนักท่องเที่ยวต่างประเทศ
(และคนไทยไม่น้อยในปัจจุบัน)
ถ้ากล่าวถึงสถานีรถไฟแม่กลองก็คงนึกถึงแต่เพียงแค่ตลาดหุบร่มหรือตลาดร่มหุบ
(แล้วแต่จะเรียก)
Memoir
ฉบับนี้เป็นฉบับปิดการเดินทางด้วยรถไฟไปยังแม่กลองในเดือนที่แล้ว
แต่ก็มีภาพบางส่วนที่ถ่ายเก็บเอาไว้ตั้งแต่ปลายเดือนธันวาคม
๒๕๕๖ ซึ่งเป็นเวลาก่อนที่เขาจะมีการปิดปรับปรุงเส้นทาง
(ตอนนั้นเดินทางด้วยรถยนต์ตรงไปยังแม่กลอง)
ก็เลยนำเอาภาพบางส่วนจากช่วงเวลานั้นมาลงไว้ด้วยเพื่อให้เห็นว่าหลังการปรับปรุงแล้วมีการเปลี่ยนแปลงอะไรเกิดขึ้นบ้าง
และก็เช่นเคย
ถือว่าวันนี้ก็ยังคงเป็นการเล่าเรื่องด้วยรูปเหมือนเดิม
รูปที่
๑ แผนที่สมุทรสงคราม
จัดทำโดยกองทัพอังกฤษในเดือนกันยายนปีค.ศ.
๑๙๔๕
(พ.ศ.
๒๔๘๘)
หรือหลังสงครามโลกครั้งที่
๒ เพิ่งสิ้นสุด (ภาพจาก
National
Library of Australia http://www.nla.gov.au)
ภาพนี้ตัดมาเฉพาะส่วนเส้นทางรถไฟจากบางโทรัดไปจนถึงแม่กลอง
พึงสังเกตแอ่งน้ำขนาดใหญ่อยู่เหนือทางรถไฟบริเวณลาดใหญ่
ซึ่งถ้าดูจาก google
map ในปัจจุบันจะไม่เห็นแอ่งน้ำนั้นแล้ว
รูปที่
๓ สถานีลาดใหญ่เป็นสถานีสุดท้ายที่รถไฟจอด
ก่อนถึงสถานีแม่กลอง
สถานีนี้เลยมีทัวร์นำนักท่องเที่ยวมารอขึ้นรถไฟเต็มไปหมด
เพื่อนั่งรถไฟไปชมตลาดหุบร่มหรือตลาดร่มหุบที่สถานีแม่กลอง
(เรียกว่าใช้บริการเพียงสถานีเดียว)
รูปที่
๓-๕
ถ่ายด้วยโทรศัพท์มือถือ
(กล้องแบตหมด
เปลี่ยนแบตไม่ทัน)
เลยไม่มีวันที่บันทึกไว้
แต่เป็นการถ่ายรูปต่อเนื่องจากรูปที่
๒
รูปที่
๕ มองไปทางด้านท้ายขบวน
ปรากฏกองขยะกองใหญ่อยู่ข้างหลังชานชาลา
ถ้ารักษาความสะอาดเสียหน่อยคงจะดูดีกว่านี้มาก
เพราะสถานีที่มีนักท่องเที่ยวมาใช้บริการมากอย่างนี้ควรจะถือว่าเป็นหน้าตาของประเทศที่ควรต้องจัดการให้อยู่ในสภาพที่ดูดีด้วย
รูปที่
๖ รูปนี้ถ่ายไว้ตอนต้นเดือน
สุดทางรถไฟที่แม่น้ำแม่กลองมีการเปลี่ยนแปลงไปจากเดิม
ส่วนสภาพเดิมเป็นยังไงนั้นไปดูได้ที่
Memoir
ปีที่
๖ ฉบับที่ ๘๒๖ วันพุธที่ ๒
กรกฎาคม ๒๕๕๗ เรื่อง
"ประวัติศาสตร์บนเหล็กรางรถไฟ"
รูปที่
๗ สภาพภายในสถานีแม่กลองปัจจุบัน
ถ่ายจากตู้รถไฟมองไปยังสุดทางที่แม่น้ำแม่กลอง
จะเห็นว่ามีการจัดทำรางเพิ่มอีกราง
และจะเห็นว่าระดับรางนั้นอยู่สูงจากระดับพื้นสถานีเดิม
จนต้องมีการนำแผ่นคอนกรีตมาวางซ้อนเป็นขั้นบันได้เพื่อให้สามารถเดินจากระดับชานชาลาขึ้นบันไดรถไฟได้
รูปที่
๘ รูปนี้ถ่ายเอาไว้เมื่อธันวาคม
๒๕๕๖ เป็นสถานีแม่กลองก่อนการปรับปรุง
เป็นการมองออกไปยังสุดทางที่แม่น้ำ
จะเห็นว่าตอนนี้มีรางให้ใช้แค่รางเดียว
ระดับรางอยู่ระดับเดียวกับพื้นชานชาลาโดยแทบจะจมลงไปในพื้นดินแบบมองไม่เห็นไม้หมอนแล้ว
รางหลีกด้านข้างเป็นที่ตั้งของร้านค้าต่าง
ๆ
รูปที่
๙ รูปนี้ถ่ายเอาไว้เมื่อเดือนธันวาคม
๒๕๕๖ เช่นกัน
เป็นมองจากด้านปลายสถานีไปยังตัวสถานี
จากพื้นชานชาลาจะสามารถเดินขึ้นบันได้รถได้เลย
รูปที่
๑๐ สภาพเส้นทางในตลาดร่มหุบ
ตอนนั้นเรียกว่าระดับพื้นร้านค้ากับระดับรางรถไฟอยู่ในระดับเดียวกัน
ปลาทูทางด้านขวาเข่งหนึ่งมี
๒ ตัว ราคา ๑๐ บาท
รูปที่
๑๒ ตัวตู้รถไฟในปัจจุบันเป็นแบบสีเรียบ
ๆ สดใสแบบธรรมดา ไม่มีลวดลายอะไร
รูปนี้ถ่ายตอนต้นเดือนกรกฎาคม
ตอนไปสำรวจเส้นทางครั้งแรก
รูปที่
๑๓ แผนที่ทหาร
L509
ที่ใช้ข้อมูลปีค.ศ.
๑๙๕๘
หรือพ.ศ.
๒๕๐๑
ในการประมวลผล
จะเห็นว่าถ้าจะเดินทางด้วยรถยนต์มายังสมุทรสงครามนั้น
ต้องใช้เส้นทางถนนเพชรเกษม
(เส้นสีแดงทางด้านซ้าย)
มาจนถึงราชบุรีและปากท่อ
จากนั้นจึงเลี้ยวซ้ายมุ่งตะวันออกมายังสมุทรสงคราม
ถ้าเทียบกับการโดยสารรถไฟที่ต้องมาเปลี่ยนขบวนที่บ้านแหลม
ก็เรียกว่าเส้นทางรถไฟนั้นเดินทางสั้นกว่า
ส่วนคลิปที่แนบมาก็เป็นขณะขบวนรถไฟเข้าจอดที่สถานีเขตเมือง
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น