ระหว่างจัดหนังสือก็ค้นเจอตำราเก่า
ๆ ที่เคยใช้สมัยเรียนปี ๑
ก็เลยขอเอาบางส่วนมาให้ดูกัน
เพื่อที่จะได้เห็นว่าในยุคสมัยหนึ่งนั้นบางสิ่งมันเป็นเรื่องที่เขาสอนให้ปฏิบัติกันเป็นเรื่องปรกติ
แต่ต่อมาภายหลังก็มีการเปลี่ยนแปลงว่าเป็นวิธีการปฏิบัติที่ไม่ปลอดภัย
และห้ามกระทำกัน นั่นคือการ
"ปาก"
ดูดปิเปต
ตอนเรียนมัธยมปลายยังมีโอกาสทำการทดลองภาคปฏิบัติทั้งวิชา
ฟิสิกส์ เคมี และชีววิทยา
(เจอทั้งผ่ากบและผ่ากระต่าย)
พอเข้ามหาวิทยาลัยก็เลยพอมีพื้นฐานในการทำการทดลองอยู่บ้าง
การใช้ปากดูดปิเปตในยุคสมัยนั้นก็ถือได้ว่าเป็นเรื่องปรกติที่มีการสอนให้ทำกัน
วิธีการก็คือให้เอานิ้วชี้อุดปลายปิดเปตข้างที่จะดูดเอาไว้
จากนั้นก็เอาปากอมทั้งนิ้วชี้ทั้งปลายปิเปต
เปิดนิ้วที่อุดปลายปิเปตเล็กน้อย
แล้วค่อย ๆ ดูดของเหลวให้ไหลเข้าปิเปต
ตาก็ต้องคอยมองดูด้วยว่าของเหลวไหลขึ้นมาเกินระดับขีดบอกปริมาตรหรือยัง
ถ้าเห็นว่ามันขึ้นมาสูงเกินแล้วก็ให้หยุดการดูด
แล้วใช้การเปิด-ปิดปลายนิ้วชี้ในการปรับปริมาตรของเหลวในปิเปตให้ถูกต้อง
แต่ก็อย่างว่า
ขีดบอกปริมาตรที่ถูกต้องมันอยู่ใกล้ปากดูด
มันก็เลยมองยาก
ดังนั้นอุบัติหตุประเภทดูดสารละลายเกินเข้ามาในปากจึงเกิดขึ้นได้ไม่ยาก
ส่วนอาคารที่เคยเป็นห้องเรียนแลปเคมีเดิม
ตอนนี้กลายเป็นอาคารศิลปวัฒนธรรมไปแล้ว
(ภาพข้างล่าง)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น