Memoir
ฉบับนี้เป็นการนำเสนอการทดลองการสกัดเอทานอลด้วยตัวทำละลายในเบดนิ่งเพื่อทำประชาพิจารณ์
โดยมีรายละเอียดการทดลองพร้อมภาพชุดทดลองประกอบ
คาดว่าถ้ามีการปรับหลักสูตรอีกครั้งจะลองเสนอให้แทรกการทดลองดังกล่าวลงไปในวิชาปฏิบัติการเฉพาะหน่วย
(ไม่รู้ว่าจะผ่านความเห็นชอบหรือเปล่า)
การไหลของของเหลว/แก๊สผ่านชั้นของแข็งที่มีรูพรุน
เป็นปรากฏการณ์หนึ่งที่พบได้ทั่วไปในในโรงงานอุตสาหกรรมและการขุดเจาะน้ำมัน
แก๊สธรรมชาติ และน้ำบาดาล
ในโรงงานอุตสาหกรรมนั้นเหตุการณ์นี้คือสิ่งที่เกิดขึ้นใน
packed
bed และ
packed
column ต่าง
ๆ โดยของไหลที่ไหลผ่านเบดเหล่านั้นอาจเป็นเพียงแค่
แก๊ส หรือของเหลว
หรือมีทั้งแก๊สและของเหลวอยู่ด้วยกัน
(กรณีของ
trickle-bed
reactor)
ส่วนในวงการขุดเจาะน้ำมันนั้นคือสิ่งที่เกิดขึ้นภายในหลุมขุดเจาะ
ที่แก๊ส น้ำมัน น้ำ
ที่อยู่ใต้ดินต้องซึมผ่านชั้นหิน/ทรายออกมายังบ่อที่เจาะเอาไว้
ก่อนที่จะทำการสูบขึ้นมา
สมการที่ใช้ในการคำนวณค่าความดันลดของการไหลผ่านเบดเหล่านี้ก็มี
Ergun
equation และ
Kozeny-Carman
equation
McCabe
และคณะ
(1985)(๑)
ให้สมการ
Ergun
equation ในรูปที่มีค่าความเป็นทรงกลม
(sphericity)
ปรากฏร่วมอยู่ในสมการ
แต่สมการที่ให้นั้นเป็นรูปแบบเก่าคือมีค่า
gc
(ใครที่ได้เคยเรียนหน่วยระบบอังกฤษคงเคยปวดหัวกับค่านี้มาแล้ว)
ปรากฏอยู่ด้วย
และในส่วนของ Kozeny-Carman
equation ได้ระบุไว้ว่าสมการดังกล่าวใช้ได้กับการไหลแบบ
lamina
เมื่อค่า
Reynolds
number มีค่าประมาณไม่เกิน
1.0
ส่วน
Bird
และคณะ
(1960)(๒)
กล่าวไว้ว่า
Ergun
equation นั้นใช้ได้ดีกับแก๊สโดยใช้ค่าความหนาแน่นเฉลี่ย
(ค่าเฉลี่ยเลขคณิต)
ที่ความดันที่ปลายสองข้างของเบด
สมการทั้งสองมีหน้าตาดังแสดงข้างล่าง
ส่วนนิยามของแต่ละเทอมนั้นคืออะไรขอความกรุณาไปค้นเอาเอง
(ดูใน
wikipedia
ก็ได้
มีทั้งสมการและนิยามของเทอมต่าง
ๆ เรียบร้อย แม้ว่ารูปแบบสมการจะดูแตกต่างกันไป
แต่เป็นสมการเดียวกัน)
หมายเหตุ
(๑)
McCabe W.L., Smith, J.C., and Harriott, P., "Unit operations of
chemical engineering 4th ed.", McGraw Hill, 1985. (หน้า
137-138
ในหนังสือ)
(๒)
Bird, R.B., Stewart, W.E., and Lightfoot, E.N., "Transport
phenomena", John Wiley & Son, 1960. (หน้า
200
ในหนังสือ)
ตอนนี้เราก็ได้ทบทวนความรู้เกี่ยวกับเบดนิ่งไปบ้างแล้ว
ต่อไปก็จะเป็นการแนะนำอุปกรณ์
วิธีการทดลอง และรายงานผลการทดลอง
“การสกัดเอทานอลด้วยตัวทำละลายในเบดนิ่ง”
๑.
อุปกรณ์และชุดทดลอง
"อุ"
เป็นเครื่องดื่มชนิดหนึ่งของชนท้องถิ่นในภูมิภาคนี้
(ของประเทศไทยน่าจะเป็นช่วงบริเวณภาคเหนือต่อกับทางภาคอีสาน)
เรียกให้เข้าใจง่าย
ๆ ก็คือ "เหล้าพื้นบ้าน"
นั่นเอง
ลักษณะที่ถูกต้องของมันนั้นต้องมาในรูปของ
"ไห"
ปิดฝามาเรียบร้อย
(ที่ผมได้มาเขาปิดพลาสติกก่อน
แล้วใช้ปูนซีเมนต์โบกทับอีกที)
ส่วนไหจะมีขนานไหนนั้นไม่ได้มีการกำหนด
ไหที่แสดงในรูปข้างล่างผมได้มาเมื่อเดือนที่แล้ว
(ของฝากจากคนกลับเยี่ยมบ้านที่ปากช่อง)
ก่อนเข้าพรรษา
แต่เพิ่งจะมาได้โอกาสเปิดดื่มเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมาหลังผ่านวันเข้าพรรษาไปแล้ว
(วันนั้นมีคนบอกว่า
เข้าพรรษาให้งดกินเหล้า
ค่อยกินใหม่ตอนออกพรรษา
แสดงว่าในหนึ่งปีกินเหล้า
๙ เดือน ไม่กิน ๓ เดือน
แต่ถ้าเปลี่ยนเป็นออกพรรษาไม่กินเหล้า
ค่อยกินใหม่ตอนเข้าพรรษา
แสดงว่าในหนึ่งปีกินเหล้า
๓ เดือน ไม่กิน ๙ เดือน
น่าจะเป็นการดีกว่า)
รูปที่
๑ ไหอุที่เป็นต้นเรื่องในวันนี้
มาพร้อมกับไม้ซางสำหรับดื่มอีก
๒ อัน
ไหอุที่ได้มานั้นใส่มาในชะลอมสานจากพลาสติกเรียบร้อย
หิ้วไปไหนมาไหนได้สะดวก
แถมเหน็บไม้ซางได้ด้วย
(สิ่งสำคัญสำหรับการบริโภคที่ขาดไม่ได้)
ผมลองเอามาถามใครต่อใครหลายคนในแลป
ปรากฏว่าส่วนใหญ่ไม่รู้จักกัน
พอเห็นไหก็มักจะบอกว่าปลาร้าทุกที
สำหรับการทดลองในกลุ่มที่มีสมาชิก
๓-๔
คน ขนาดของไหในภาพที่สูงประมาณ
20
เซนติเมตรนั้นก็เพียงพอแล้ว
๒.
วิธีการทดลอง
การบริโภคนั้นเริ่มจากเปิดฝา
จะเห็นแกลบอยู่ข้างใน
ตอนแรกนึกว่ามีน้ำบรรจุอยู่แล้ว
แต่ปรากฏว่าไม่มีน้ำบรรจุอยู่
ก็เลยต้องเทน้ำลงไปให้มันซึมผ่านชั้นแกลบนั้น
(น้ำที่เทจะเป็นน้ำอะไรก็ได้ที่สามารถบริโภคได้
จะเป็น น้ำเปล่า น้ำแร่
น้ำอัดลม เหล้าขาว ไวน์ เบียร์
ฯลฯ ได้ทั้งนั้น
ขั้นตอนนี้เป็นขั้นตอนการสกัด)
ในวันนั้นผมทดลองใช้น้ำแร่
(ที่ได้เป็นของแถมจากการเติมน้ำมัน)
จากขนาดไหที่เห็นในภาพปรากฏว่าเติมน้ำเข้าไปได้ราว
ๆ สามในสี่ลิตร
การเทนั้นต้องค่อย
ๆ เท เพราะน้ำต้องใช้เวลาซึม
(ผ่านชั้นของแข็งมีพรุน)
น้ำที่เทเข้าไปนั้นจะเข้าไปละลาย/สกัดสารที่บรรจุอยู่ในไหอุ
(มีอะไรบ้างผมก็ไม่รู้เหมือนกัน)
หลังจากเทลงไปจนเต็มแล้วก็ให้รอสักพัก
เพื่อให้น้ำนั้นละลายสารที่บรรจุอยู่ในไหออกมา
จากนั้นก็เริ่มการเก็บตัวอย่าง
(บริโภค)
ได้เลย
ตรงนี้เราอาจทดลองปรับเปลี่ยนพารามิเตอร์ต่าง
ๆ ที่ใช้ในการทดลอง เช่น
-
เปลี่ยนชนิดตัวทำละลายที่ใช้ในการสกัด
เช่นจากน้ำแร่ เป็น น้ำเปล่า
เบียร์ ไวน์ เหล้าขาว ฯลฯ
-
เปลี่ยนอัตราการเทตัวทำละลาย
เช่น เทช้า เทเร็ว เทต่อเนื่อง
เทเป็นชุด ๆ ฯลฯ
-
เปลี่ยนรูปแบบการเทตัวทำละลาย
เช่น เทที่ตำแหน่งเดิม
เทวนไปรอบ ๆ ปากไห เป็นต้น
๓.
การเก็บตัวอย่าง
การดื่มอุนั้นต้องใช้ไม้ซางปักลงไปให้ถึงก้นไห
ใช้หลอดกาแฟไม่ได้เพราะมันไม่สามารถแทงผ่านแกลบได้
ไม้ซางที่ใช้นั้นปลายด้านหนึ่งจะตัดเปิด
ด้านนี้เป็นด้านดูด
ส่วนปลายอีกด้านหนึ่งจะตัดเอาข้อเอาไว้
และเจาะรูเล็ก ๆ รูหนึ่งทางด้านข้างแทน
ด้านที่มีข้อเหลือนี้เป็นด้านปัก
(ดูรูปที่
๒)
เหตุที่ต้องเหลือข้อและเจาะรูด้านข้างก็เพื่อเวลาที่แทงลงไปในไห
จะได้ไม่มีแกลบเข้ามาอุดตันไม้ซางได้
ซึ่งทำให้เสียความรู้สึกในการบริโภคได้มาก
รูปที่
๒ ไม้ซางที่ใช้สำหรับบริโภค
"อุ"
รูปซ้ายเป็นปลายด้านดูด
รูปขวาเป็นปลายด้านปัก
จะเห็นรูที่เจาะไว้ด้านข้าง
พอดูดไปสักพักน้ำที่อยู่บริเวณรอบ
ๆ ปลายไม้ซางก็จะหมด
(ดูดต่อไม่ได้)
ต้องรอสักพักให้น้ำมันไหลเข้ามาท่วมบริเวณนั้นก่อน
จึงจะดูดต่อได้อีก
บางทีก็ต้องช่วยด้วยการ
"กระซวก"
(ดึงไม้ซางขึ้นและปักลงไปใหม่)
ทำให้บริเวณรอบ
ๆ ไม้ซางมีที่ว่างมากขึ้น
จะได้สะสมของเหลวได้มากขึ้น
หลังจากที่ดูดจนน้ำแรกหมดแล้ว
(หรือไม่ต้องหมดก็ได้)
ก็สามารถเทตัวทำละลายเพิ่มเติมลงไปได้อีก
จำนวนครั้งการเทตัวทำละลายเพิ่มเติมลงไปนั้นขึ้นอยู่กับว่ายังมีรสชาติเหลืออยู่หรือเปล่า
ถ้าไม่มีรสชาติเหลือแล้ว
(เหลือแต่รสชาติตัวทำละลาย)
ก็แสดงว่าทำการสกัดเอทานอลจากเบดจนหมดสิ้นแล้ว
ตัวทำละลายที่เติมลงไปเพิ่มแต่ละครั้งไม่จำเป็นต้องเหมือนครั้งก่อนหน้า
จะเป็นตัวทำละลายอะไรก็ได้ที่สามารถบริโภคได้อย่างปลอดภัย
ปรกติเวลาที่เราใช้หลอดกาแฟดูดน้ำจากแก้วหรือขวดน้ำนั้น
การดูดของเราจะทำให้เกิดสุญญาศในหลอด
ความดันอากาศภายนอกที่อยู่เหนือผิวของเหลว
(ซึ่งเท่ากับความดันบรรยากาศและคงที่เสมอ)
จะดันของเหลวเข้าไปในหลอดได้อย่างต่อเนื่อง
ทำให้เราดูดของเหลวได้ต่อเนื่อง
แต่การดูดสารสกัดผ่านชั้นเบดนิ่งนี้
การดูดของเราไม่เพียงแต่จะดึงเอาของเหลวเข้ามาในท่อดูด
แต่ยังทำให้เกิดสุญญากาศขึ้นบางส่วนที่ปลายไม้ซางด้วย
เพราะของเหลวต้องใช้เวลามากขึ้นในการไหลซึมไปที่ปลายท่อดูดเนื่องจากต้องค่อย
ๆ ซึมผ่านช่องว่างระหว่าง
packing
ที่บรรจุอยู่ในเบด
(ตรงนี้แนะนำให้อ่าน
Memoir
ปีที่
๒ ฉบับที่ ๑๒๘ วันพฤหัสบดีที่
๔ มีนาคม ๒๕๕๓ เรื่อง
“ฝึกงานภาคฤดูร้อน ๒๕๕๓
(ตอนที่
๘)
Net Positive Suction Head (NPSH)” ประกอบด้วย)
ในส่วนนี้เราสามารถทดลองปรับเปลี่ยนวิธีเก็บตัวอย่างได้หลายอย่างเช่น
-
เปลี่ยนขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางของอุปกรณ์ที่ใช้เก็บตัวอย่าง
-
เปลี่ยนขนาดรูที่ปลายท่ออุปกรณ์ที่ใช้เก็บตัวอย่าง
-
เปลี่ยนจำนวนรูที่ปลายท่ออุปกรณ์ที่ใช้เก็บตัวอย่าง
-
เปลี่ยนตำแหน่งเก็บตัวอย่างเพื่อดูความสม่ำเสมอของสารสกัด
-
เปลี่ยนเวลาการเก็บตัวอย่าเพื่อดูผลของระยะเวลาต่อความเข้มข้นสารสกัดที่ได้
๔.
การบันทึกผลการทดลองและการวิเคราะห์ผล
เนื่องจากตัวอย่างที่เก็บได้นั้นอาจส่งผลต่อความสามารถของผู้ทดลองในการเขียนบันทึก
การพูด การมอง การฟัง การทรงตัว
หรือการรับรู้ใด ๆ
รวมทั้งการรู้สึกผิดชอบชั่วดี
ดังนั้นเพื่อให้การทดลองแต่ละครั้งสูญเปล่าจึงควรมีกล้องวีดีโอหรือกล้องวงจรปิดที่สามารถบันทึกได้ทั้งภาพและเสียงเพื่อบันทึกผลการทดลองเอาไว้ดูภายหลัง
และทางที่ดีควรมีการตั้งกล้องเอาไว้หลาย
ๆ มุมเพื่อให้ได้ข้อมูลชัดเจนด้วย
ตัวอย่างของพารามิเตอร์ที่ควรจะศึกษามีดังนี้
-
ระยะเวลาที่ใช้ในการสกัด
(ช่วงเวลาระหว่างการเทสารละลายเสร็จสิ้นจนถึงเวลาที่เริ่มเก็บตัวอย่าง)
ต่อความเข้มข้นของเอทานอลที่สกัดได้
-
อัตราการเก็บตัวอย่างสารละลายในไหส่งผลต่อพฤติกรรมผู้ทำการทดลองอย่างไรบ้าง
-
ชนิดของตัวทำละลายที่ใช้ในการสกัดว่ามีผลต่ออัตราการเก็บตัวอย่างหรือไม่
-
ผลของปัจจัยข้างเคียง
(เช่น
กับแกล้ม ผู้ช่วยประคองไหหรือประคองท่อเก็บตัวอย่าง)
ต่ออัตราการเก็บตัวอย่างและพฤติกรรมผู้ทำการทดลอง
-
ประสบการณ์ของผู้ที่ทำการเก็บตัวอย่างส่งผลหรือไม่
อย่างไรบ้าง
-
อุณหภูมิการสกัด
(ตรงนี้คงยากสักหน่อย
เพราะอุปกรณ์ไม่ได้ออกแบบมาเพื่อให้ปรับอุณหภูมิได้
ปรกติจะทำการสกัดกันที่อุณหภูมิห้อง)
-
ความเข้มข้นของเอทานอลที่ได้จากการสกัดแต่ละครั้ง
-
ช่วงเวลาของวันที่ใช้ในการสกัด
(เช้า
เที่ยง เย็น หัวค่ำ หรือดึก
ๆ)
ต่อความสามารถในการเก็บตัวอย่าง
และเมื่อทำการวิเคราะห์ข้อมูลเสร็จสิ้นแล้ว
ขอแนะนำให้ทำการทำลายสื่อเก็บข้อมูลทิ้งทั้งหมด
ชนิดที่ไม่สามารถกู้คืนกลับได้
เพราะหลักฐานในนั้นอาจมีผลกระทบข้างเคียงต่อภาพลักษณ์ของผู้ทำการทดลองได้
รูปที่
๓ ภายในไห
หลังจากที่ควักแกลบออกมาได้สักหนึ่งในสามของไห
ปรากฏว่ามีน้ำเหลืออยู่
ไม่รู้เหมือนกันว่าเป็นของเดิมหรือเป็นน้ำฝนที่ตกลงไป
(วางทิ้งไว้นอกอาคารทั้งคืน
แถมฝนตกอีก)
แต่กลิ่นนั้นเหมือนกับของน้ำแรก
รูปที่
๔ ในกระถางคือสิ่งที่บรรจุอยู่ในไห
ไม่รู้เหมือนกันว่านอกจากแกลบแล้วมีอะไรอยู่อีกบ้าง
(ดูไม่ออก)
ส่วนน้ำที่เหลืออยู่พอทิ้งให้ตกตะกอนก็เป็นดังรูปขวา
๕.
คำถามท้ายการทดลอง
คำถามต่อไปนี้ตอบในใจก็พอ
ไม่ต้องเขียนส่งหรือพูดออกมา
๕.๑
มีผู้กล่าวว่า
"พระเจ้าสร้างเหล้ามาเพื่อให้ผู้หญิงไม่สวยได้มีโอกาส"
ท่านเห็นด้วยกับคำกล่าวนี้หรือไม่
อย่างไร ให้เหตุผลประกอบ
๕.๒
จากท่อนหนึ่งของบทเพลงที่ร้องโดยวิศวกรดังแสดงข้างล่าง
สาปแล้วความรัก
ไม่ขอปองใจ
ขอเพียงแต่
ความรักเมรัย เท่านี้ก็สุขกมล
อุทิศเงินตรา
ให้กับสุรา เพื่อปลอบใจตน
ฝากชีวิต
วิศวะจน ๆ ไว้กับคนที่ขายสุรา
ในฐานะที่ท่านเป็น/จะเป็นวิศวกร
ท่านรู้สึกอย่างไรกับบทเพลงท่อนนี้
(เช่น
โดนใจ แทงใจดำ แทนคำพูดเป็นล้าน
ๆ คำ ขออย่าให้เกิดเหตุการณ์นั้นเลย
ฯลฯ)
ให้บรรยายความรู้สึกออกมาโดยละเอียด
ดูเนื้อเพลงฉบับเต็มได้ใน
Memoir
ปีที่
๓ ฉบับที่ ๒๕๒ วันอังคารที่
๑ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๔ เรื่อง
"ก่อนจะเลือนหายไปจากความทรงจำ
ตอนที่ ๑ ฝากชีวิตวิศวจน ๆ
ไว้กับคนที่ขายสุรา"
หรือที่
http://www.tamagozzilla.blogspot.com/2011/02/mo-memoir-tuesday-1-february-2554.html
ข้าพเจ้าไม่ได้ชมชอบในรสชาติของสุรา
แต่ชมชอบในบรรยากาศการร่ำสุรา
(ยืมคำโกวเล้งมาอีกที)