ถัง
(Tank)
เก็บของเหลวใบหนึ่งมีระดับเก็บของเหลวสูงสุด
H1
ถ้าหากถังนี้มีรูที่ผนังด้านข้าง
(เช่นอาจเกิดจากการระเบิดของหน่วยอื่น
และมีเศษชิ้นส่วนปลิวมาเจาะทะลุผนังด้านข้าง)
ของเหลวที่ฉีดพุ่งออกมาทางรูด้านข้างนั้นจะพุ่งไปได้ไกลสุดเป็นระยะทางเท่าใด
บทความเรื่อง
"A
new approach to the layout of storage tank" ในวารสาร
Loss
Prevention Bulletin vol. 20 เดือนเมษายน
ปีค.ศ.
๑๙๗๘
(พ.ศ.
๒๕๒๑)
(ไม่ปรากฏชื่อผู้เขียน)
ได้ยกหัวข้อนี้มาเป็นประเด็นในการพิจารณาการออกแบบระยะห่าง
(x)
ของกำแพงกั้นของเหลว
(bund
wall หรือ
dyke
wall) ในการออกแบบ
tank
farm
(ความสูงของกำแพงถูกหนดโดยขนาดพื้นที่ที่กำแพงล้อมรอบและปริมาตรของเหลวใน
tank
ที่กำแพงนั้นล้อมรอบเอาไว้)
รูปที่
๑ ระยะทางในแนวราบ x
ที่ของเหลวที่พุ่งออกจากรูข้างถังเดินทางไปได้ขึ้นอยู่กับระดับความสูงของตำแหน่งรู
ถ้าหากรูดังกล่าวอยู่สูง
(เช่นเส้น
ก)
ความเร็วในการฉีดพุ่งออกมาจะต่ำ
เพราะแรงดันของเหลวเหนือระดับรูมีไม่มาก
และแม้ว่าระยะเวลาการเดินทางก่อนตกถึงพื้นมีมาก
ของเหลวก็จะพุ่งไปได้ไม่ไกล
ในทางตรงกันข้ามถ้าหากรูนั้นอยู่ที่ตำแหน่งต่ำเกินไป
(เช่นเส้น
ค)
แม้ว่าความเร็วในการฉีดพุ่งออกมาจะสูง
เพราะแรงดันของเหลวเหนือระดับรูมีมาก
แต่ระยะเวลาการเดินทางก่อนตกถึงพื้นมีน้อย
ของเหลวก็จะพุ่งไปได้ไม่ไกลเช่นกัน
ลองพิจารณาถังในรูปที่
๑ ที่เก็บของเหลวไว้เต็มถัง
โดยระดับความสูงของเหลวในถังคือ
H1
เราจะลองคำนวณดูว่าถ้าหากมีรูข้างถังที่ตำแหน่ง
h
ต่ำลงมาจากผิวของเหลว
ของเหลวนั้นจะฉีดพุ่งไปได้ไกลเท่าใด
ถ้าเราให้
v
คือความเร็วของของเหลวที่ฉีดพุ่งออกมาจากถัง
จากความรู้ในวิชาฟิสิกส์เบื้องต้นเราจะได้ว่า
ระยะทางการเคลื่อนที่ในแนวราบ
x
= vt (1)
ระยะทางการเคลื่อนที่ในแนวดิ่ง
y
= (1/2)gt2 (2)
เมื่อ
g
คือค่าความเร่งเนื่องจากแรงดึงดูดของโลก
(9.81
m/s2) และ
t
คือระยะเวลาการเคลื่อนที่ก่อนตกถึงพื้น
จากสมการที่สองเราจะได้ว่าเวลา
(t)
ที่ของเหลวใช้ในการเคลื่อนที่ก่อนตกถึงพื้นมีค่าเป็น
t
= (2y/g)0.5 (3)
แทนค่าจากสมการที่
(3)
กลับเข้าไปในสมการที่
(2)
จะได้ว่า
x
= v.(2y/g)0.5 (4)
ในกรณีของของเหลวที่ไหลผ่านรูรั่วข้างถัง
ถ้าไม่คิดความเสียดทานในการไหลเข้ารูดังกล่าว
ความเร็วของของเหลวที่ฉีดพุ่งออกมาจะคำนวณได้จากสมการ
v
= (2.ΔP/ρ)0.5
(5)
เมื่อ
ΔP
คือผลต่างความดันระหว่างด้านขาเข้าและขาออก
ซึ่งในที่นี้คือความดันเนื่องจากระดับความสูงของของเหลวซึ่งเท่ากับ
ρgh
โดยที่
ρ
คือความหนาแน่นของของเหลว
ดังนั้นเมื่อแทนค่า ΔP
เข้าไปในสมการที่
(5)
ก็จะได้ว่า
v
= (2gh)0.5 (6)
(หมายเหตุ
:
ที่มาของสมการที่
(5)
นั้นสามารถอ่านได้ใน
Memoir
ปีที่
๙ ฉบับที่ ๑๒๐๙ วันอังคารที่
๒๖ กรกฎาคม ๒๕๕๙ เรื่อง
"เรื่องของ Flow coefficient (Cv)")
ค่า
v
ที่คำนวณได้จากสมการที่
(6)
เป็นค่าสูงสุดในทางทฤษฏี
เพราะในความเป็นจริงนั้น
การไหลเข้า-ออกรูจะมีการสูญเสียพลังงานเนื่องจากความเสียดทานและการไหลปั่นป่วน
ขนาดการสูญเสียนี้ขึ้นอยู่กับรูปร่างของรู
(เช่นขอบเรียบ
ขอบไม่เรียบ)
ค่าความสูญเสียนี้แทนด้วยค่า
discharge
coefficient หรือ
Cd
ซึ่งเมื่อแทนเข้าไปในสมการที่
(6)
ก็จะได้ว่า
v
= Cd.(2gh)0.5 (7)
แทนค่า
v
ที่ได้จากสมการที่
(7)
และค่า
y
= H1 - h ลงไปในสมการที่
(4)
ก็จะได้ว่า
x
= 2Cd.(H1h - h2)0.5
(8)
การหาค่า
x
ที่มากที่สุดทำได้ด้วยการหาค่าอนุพันธุ์ของสมการที่
(8)
(dx/dh) และให้มีค่าเท่ากับศูนย์
dx/dh
= 0 = Cd.(H1 - 2h)/(H1h -
h2)-0.5 (9)
หรือ h
= H1/2 (10)
ดังนั้นตำแหน่งรูที่ทำให้ของเหลวฉีดพุ่งไปได้ไกลที่สุดก็คือตำแหน่งตรงกึ่งกลางความสูงนั่นเอง
พึงสังเกตว่าตำแหน่งนี้ไม่ขึ้นอยู่กับรูปร่างและขนาดของรู
แต่อัตราการรั่วไหลออกขึ้นอยู่กับรูปร่างและขนาดของรู
ซึ่งในบทความให้ข้อมูลไว้ว่าในกรณีของรูที่เกิดจากของแข็งปลิวมาเจาะทะลุหรือการกัดกร่อน
ผิวรูจะไม่เรียบและการไหลจะเป็นแบบปั่นป่วน
Cd
ของรูดังกล่าวจะมีค่าประมาณ
0.6
แทนค่า
h
จากสมการที่
(10)
และค่า
Cd
= 0.6 ลงไปในสมการที่
(8)
จะได้ระยะทางที่ของเหลวฉีดพุ่งไปได้ไกลสุดคือ
x
= 0.6H1 (11)
ดังนั้น
สมมุติว่าเป็นกรณีของถังที่มีความสูง
6
เมตร
ตัวกำแพงกั้น (bund
wall) ก็ควรอยู่ห่างจากถังอย่างน้อย
3.6
เมตร
เพื่อให้มั่นใจว่าถ้าหากมีรูรั่วที่ข้างถัง
ของเหลวที่ฉีดพุ่งออกมานั้นจะยังคงอยู่ทางด้านในของกำแพง
ค่าที่คำนวณได้นี้เป็นเพียงแค่แนวปฏิบัติหนึ่งเท่านั้นในการป้องกันไม่ให้ของเหลวที่รั่วออกมาจากถังนั้นหลุดออกไปนอกบริเวณกักเก็บ
ส่วนที่ว่าในความเป็นจริงนั้นควรมีค่าเป็นเท่าใดก็คงต้องไปดูข้อกำหนดของแต่ละท้องถิ่นว่ากล่าวไว้ว่าอย่างไร
เช่นอาจมีการกำหนดระยะห่างที่น้อยที่สุดระหว่างถังกับ
bund
wall ความสูงที่น้อยและมากที่สุดของ
bund
wall (เช่นเพิ่มความสูงกำแพง
โดยยอมให้ของเหลวพุ่งกระทบผิวกำแพงด้านในแทนที่จะพุ่งข้ามไป)
ตัวอย่างเช่นในเอกสาร
HSG176
(2nd ed. 2015) Storage of flammable liquids in tanks ในย่อหน้า
161
ได้ให้คำแนะนำว่าสำหรับถังที่มีความจุไม่เกิน
100
m3 ควรมีระยะห่างอย่างน้อย
1
เมตร
และถังที่มีความจุตั้งแต่
100
m3 ขึ้นไปควรมีระยะห่างอย่างน้อย
2
เมตร
รูปที่
๒ บางส่วนของข้อความจากเอกสาร
HSG176
(2nd ed. 2015) Storage of flammable liquids in tanks ที่จัดทำโดย
Health
and Safety Executive (HSE) ประเทศอังกฤษ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น