วันจันทร์ที่ 6 กรกฎาคม พ.ศ. 2563

สถานีรถไฟชุมทางบางบำหรุ MO Memoir : Monday 6 July 2563

เขียนเรื่องไกลบ้านมาเยอะแล้ว วันนี้มาเขียนเรื่องใกล้บ้านตัวเองบ้าง ถือว่าเป็นการเล่าเรื่องด้วยรูปก็แล้วกัน
 
แรก ๆ ที่ได้รู้จักสถานีนี้ (ก็เกือบสี่สิบปีแล้ว) ก็รู้สึกแปลกอยู่เหมือนกัน ว่าทำไมมันถึงเป็นชุมทางและมันมีทางแยกไปไหน ทั้ง ๆ ที่สถานีที่อยู่ถัดไปทั้งสองด้านนั้นมันก็เป็นชุมทาง (คือตลิ่งชันที่แยกไปยังสถานีธนบุรี และบางซื่อที่เป็นจุดแยกลงใต้) แถมตั้งอยู่ในตำแหน่งที่เข้าถึงไม่ง่ายอีก คืออยู่ในถนนดินเล็ก ๆ แยกออกมาจากถนนเทอดพระเกียรติ แต่เป็นสถานีใหญ่ตรงที่มีรางให้รถไฟจอดได้ตั้ง ๖ หรือ ๗ ราง มารู้เอาทีหลังว่าเดิมเป็นชุมทางสำหรับรถไฟขนถ่านหินไปป้อนที่โรงไฟฟ้าที่ตั้งอยู่เชิงสะพานพระราม ๖ ซึ่งก็คือโรงจักรพระนครเหนือในปัจจุบัน
 
รถไฟขนถ่านหินเลิกวิ่งไปเมื่อใดก็ไม่รู้ รู้แต่ว่าเลิกไปตอนที่เขาเปลี่ยนจากการใช้ถ่านหินมาเป็นน้ำมันเตา (ที่ขนมาทางเรือ - อันนี้คุณหน้าข้างบ้านที่เคยทำงานที่โรงไฟฟ้าดังกล่าวเล่าให้ฟัง) และเปลี่ยนมาเป็นใช้แก๊สธรรมชาติที่เดินท่อมาตามแนวทางรถไฟสายใต้นี้แทนในปัจจุบัน
 
ช่วงก่อนสงครามโลกครั้งที่ ๒ สิ้นสุด สถานีบางบำหรุนี้ก็เป็นจุดตัดของรถไฟสายบางบัวทองของเจ้าพระยาวรพงศ์พิพัฒน์ที่แนวทางรถไฟสายนี้เดิมน่าจะเป็นแนว ซอยสิรินธร ๔ กับถนนเทอดพระเกียรติในปัจจุบัน เดิมสองฝั่งทางรถไฟสายใต้ช่วงนี้ก็ไม่มีอะไร เป็นแค่คูน้ำหญ้าขึ้นรก จนกระทั่งเริ่มมีการก่อสร้างเส้นทางรถไฟฟ้าที่มาจากสถานีบางซื่อ (สร้างมาตั้งกว่า ๑๐ ปีแล้วแต่ยังไม่ได้เปิดใช้เสียที) จากนั้นก็ตามด้วยการสร้างทางด่วนคร่อมทางรถไฟสายใต้ที่เริ่มวางแผนการก่อสร้างหลังน้ำท่วมใหญ่ปี ๒๕๕๔ ทางด่วนมาทีหลัง แต่สร้างเสร็จก่อน และเปิดให้ใช้บริการก่อนด้วย สถานีนี้เดิมรถไฟสายใต้ที่วิ่งทางไกลก็ไม่จอด เพิ่งจะเริ่มมาจอดก็น่าจะเป็นตอนที่มีการก่อสร้างถนนสิรินธรและบรมราชชนนี ทำให้การเดินทางเข้าถึงพื้นที่บริเวณนี้ทำได้ง่ายขึ้น (ซึ่งแต่ก่อนต้องใช้เส้นทางถนนบางกรวย-ไทรน้อย ก็ต้องเข้ามาทางถนนบางขุนนนท์ หรือซอยร่วมพัฒนา)
 
แนวทางรถไฟสายใต้ช่วงจากสะพานพระราม ๖ มาเรื่อย ๆ (อย่างน้อยก็มาจนจรดคลองบางกอกน้อย) เป็นเส้นแบ่งเขตระหว่างกรุงเทพและนนทบุรี ตัวทางรถไฟเองยังเป็นเสมือนคันกั้นน้ำให้กับทางฝั่งกรุงเทพเมื่อคราวน้ำท่วมปี ๒๕๓๘ ซึ่งตอนนั้นฝั่งทางด้านบางกรวยน้ำท่วมหนัก แต่ฝั่งทางด้านบางพลัดยังป้องกันได้อยู่ (อันที่จริงบางพลัดฝั่งริมแม่น้ำมาจนถึงเกาะกลางถนนจรัญสนิทวงศ์โดนน้ำท่วมหนัก เพราะเขาใช้เกาะกลางถนนเป็นคันกั้นน้ำ) จะมาประสบปัญหาก็เมื่อคราวน้ำท่วมปี ๒๕๕๔ ที่ตอนนั้นน้ำที่เอ่อล้นมาจากทางบางกรวยมีระดับที่สูงมากจนล้นข้ามทางรถไฟ สูงท่วมรางจนทำให้รถไฟสายใต้ไม่สามารถเดินได้ แต่พอระดับน้ำเริ่มลดลงต่ำกว่าระดับทางรถไฟ ทางฝั่งบางพลัดก็เริ่มทำการสูบน้ำออก ทำให้ทางฝั่งบางพลัดแห้งก่อนทางฝั่งบางกรวย

Memoir ฉบับนี้คงเป็นฉบับส่งท้ายปีที่ ๑๒ นับตั้งแต่เริ่มเขียนมา ฉบับนี้ก็เป็นฉบับที่ ๑๘๒๕ แล้ว รวม ๘๕๑๔ หน้า เฉพาะส่วนปีที่ ๑๒ ที่ผ่านมาก็เขียนไปทั้งหมด ๑๐๙ เรื่อง รวม ๔๗๗ หน้า เรียกว่าทั้งจำนวนเรื่องและจำนวนหน้าลดลงกว่าปีที่แล้วมาก และคาดว่าปีที่ ๑๓ ก็คงจะมีแนวโน้มเช่นนี้ เหตุผลก็ไม่ใช่อะไรหรอก เพราะเรื่องราวสาระวิชาการต่าง ๆ ที่มีเก็บสะสมเอาไว้ก็ได้รีบเขียนออกไปจนหมดแล้ว ก่อนที่จะไม่มีโอกาสได้เขียน ซึ่งเราก็บอกไม่ได้ว่าจะเกิดขึ้นเมื่อใด รู้แต่ว่าถ้ามีโอกาสได้ลงมือทำก็ให้ลงมือทำเลย อย่ารั้งรอ จะได้ไม่มาเสียใจภายหลัง และไม่ค่อยมีเวลาได้ไปเสาะหาเรื่องราวใหม่ ๆ มาเขียน

แล้วพบกันในฉบับถัดไปต้อนรับปีที่ ๑๓ ครับ :) :) :)
 

รูปที่ ๑ แผนที่แนบท้ายประกาศคณะปฏิวัติฉบับที่ ๕๔ ลงวันที่ ๑๙ มกราคม ๒๕๐๒ ประกาศในราชกิจจานุเบกษาเล่มที่ ๗๖ ตอนที่ ๑๒ ฉบับพิเศษหน้า ๑-๒ ตัวเลขที่ปรากฏในแผนที่คือที่ดินที่ถูกเวนคืนจากเจ้าของ
  
รูปที่ ๒ แผนที่แนบท้ายพระราชกฤษฎีกา กำหนดเขตที่ดินในบริเวณที่จะเวนคืน ในท้องที่อำเภอบางกรวย จังหวัดนนทบุรี และเขตดุสิต เขตบางกอกน้อย กรุงเทพมหานคร ประกาศในราชกิจจานุเบกษาฉบับพิเศษ หน้า ๒๐-๒๑ เล่ม ๑๐๑ ตอนที่ ๑๙๔ วันที่ ๒๗ ธันวาคม ๒๕๒๗ เป็นการเวนคืนเพื่อการก่อสร้างสะพานพระราม ๗ ในแผนที่นี้ปรากฏแนวเส้นทางรถไฟเข้าไปยังโรงไฟฟ้า ซึ่งปัจจุบันด้านนอกโรงไฟฟ้าไม่เหลือร่องรอยให้เห็นแล้ว
  
รูปที่ ๓ รูปนี้ถ่ายไว้เมื่อเดือนธันวาคม ๒๕๔๘ บนชานชลาที่ ๓ เป็นรูปลูกสาวคนเล็กตอนอายุได้ ๒ ขวบเศษไปส่งคุณย่าที่สถานีบางบำหรุ เป็นรูปที่เห็นตัวอาคารสถานีเก่า
  
รูปที่ ๔ ถ่ายในวันเดียวกันกับรูปที่ ๓ เป็นการมองย้อนไปทางเส้นทางที่มาจากสะพานพระราม ๖ ในรูปนี้จะเห็นว่าตัวสถานีมีรางแยกให้รถไฟจอดได้ ๖ หรือ ๗ ราง

รูปที่ ๕ ถ่ายไว้เมื่อเดือนเมษายน ๒๕๕๓ จากสะพานข้ามทางรถไฟซอยจรัญสนิทวงศ์ ๗๕ (ที่ถูกริ้อไปแล้ว) เป็นการมองย้อนกลับไปทางเส้นทางที่มาจากสะพานพระราม ๖ เป็นช่วงที่เริ่มก่อสร้างทางรถไฟฟ้าที่มาจากสถานีกลางบางซื่อ
  
รูปที่ ๖ ถ่ายไว้เมื่อเดือนพฤศจิกายน ๒๕๕๔ ในช่วงเหตุการณ์น้ำท่วมใหญ่ หลังจากที่น้ำลดระดับลงไปจากระดับสูงสุดประมาณ ๖๐ เซนติเมตร จากบริเวณเลยจุดกลับรถตัดทางรถไฟมาหน่อย เป็นภาพที่มองไปยังสถานีรถไฟบางบำหรุ
  
รูปที่ ๗ ภาพนี้ถ่ายจากสะพานลอยข้ามทางรถไฟ ที่เชื่อมระหว่างซอยจรัญสนิทวงศ์ ๗๕ กับหมู่บ้านฝั่งบางกรวย เป็นการมองไปยังทิศทางสถานีรถไฟบางบำหรุ จะเห็นวัดเพลง (บางพลัด) อยู่ทางด้านซ้ายของรูป

รูปที่ ๘ ถ่ายในวันเดียวกับรูปที่ ๗ แต่เป็นการมองย้อนกลับไปยังเส้นทางที่มาจากสะพานพระราม ๖ ตอนนี้มีทางด่วนคร่อมทางรถไฟแล้ว

ไม่มีความคิดเห็น: