"เหตุเกิดขึ้นจริงเป็นอย่างไร ยังไม่ใครมีข้อมูลเลย และจะให้ไปพูดออกรายการได้อย่างไร"
กรกฎาคมปีที่แล้ว หลังเกิดการระเบิดที่โรงงานแห่งหนึ่งแถวกิ่งแก้วไม่กี่วัน มีคนติดต่อผมมาขอให้ไปร่วมรายการเสวนาเรื่องเกี่ยวกับอุบัติเหตุที่เพิ่งจะเกิดขึ้น ผมก็ตอบเขากลับไปด้วยประโยคข้างต้น
ในช่วงประมาณ ๓ ปีที่ผ่านมา อาจกล่าวได้ว่ามีอุบัติเหตุสำคัญที่เกี่ยวข้องกับวิศวกรรมเคมีอยู่ด้วยกัน ๒ เหตุการณ์คือ เหตุการณ์ท่อส่งแก๊สธรรมชาติระเบิด และการระเบิดในโรงงานผลิตโฟมพอลิสไตรีน และสิ่งที่เกิดขึ้นตามมา (แม้ว่าเหตุการณ์จะยังไม่ทันสงบ) ก็คือ จะมีคนจำนวนไม่น้อยแสดงตนว่าเป็นผู้รู้ว่าควรต้องเผชิญเหตุอย่างไร และสาเหตุนั้นเกิดจากอะไร ทั้ง ๆ ที่ตัวเองก็ไม่ได้อยู่ในเหตุการณ์หรือทราบข้อมูลมาจากผู้ที่อยู่ในเหตุการณ์จริง (ซึ่งเขาคงไม่ว่างมาให้สัมภาษณ์หรอก โดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้าเหตุการณ์นั้นมันยังไม่สงบ) แต่อาศัยข้อมูลที่มีการส่งต่อกันในโลกอินเทอร์เน็ต (ที่มักจะไม่มีการตรวจสอบความถูกต้องเสียด้วย) มาเขียนข้อความในทำนองเป็นผู้รู้ เพื่อให้มีการแชร์ข้อความดังกล่าวต่อ ๆ กันไป จากนั้นก็จะตามด้วยหน่วยงานต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นในส่วนของสถาบันการศึกษาหรือด้านวิชาชีพ ที่ต้องมีการจัดรายการเสวนา เพื่อให้ดูว่ามีผลงานหรือมีส่วนร่วมในการจัดการอุบัติเหตุนั้น ซึ่งสุดท้ายก็ไม่ได้มีอะไรเป็นชิ้นเป็นอันให้นำไปใช้ประโยชน์ต่อไป"
ข้อความข้างต้นเป็นส่วนหนึ่งของข้อความที่ผมเขียนไว้ในคำนำของ "MO Memoir รวมบทความชุดที่ ๒๗ อุบัติเหตุและความปลอดภัย (๔)" ที่ได้รวบรวมเอาบทความเรื่องราวเกี่ยวกับอุบัติเหตุและความปลอดภัยที่เขียนลง blog ไว้หลังจากที่ได้นำเรื่องราวที่เขียนไว้ก่อนหน้านี้ไปรวมไว้ใน "MO Memoir รวมบทความชุดที่ ๒๓ อุบัติเหตุและความปลอดภัย (๓)" ที่เผยแพร่ไปเมื่อเดือนมิถุนายน ๒๕๖๒
เมื่อเครือข่ายสังคมออนไลน์และอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ที่บันทึกภาพได้เป็นสิ่งที่คนจำนวนมากเข้าถึงได้และแทบจะมีติดมือทุกคนที่ไม่ได้อยู่ในบ้านตัวเอง ภาพการเกิดอุบัติเหตุต่าง ๆ จึงสามารถแพร่กระจายออกไปได้อย่างรวดเร็ว ตามด้วยความเห็นที่คนจำนวนหนึ่งแสดงออกมาเสมือนว่ารู้ดีกว่าควรต้องทำอย่างไร โดยที่ยังไม่รู้ว่าข้อเท็จจริงเป็นอย่างไร สิ่งเหล่านี้สร้างความสับสนให้กับคนในสังคมและความเข้าใจผิดที่ยากจะแก้ไข และในขณะเดียวกันก็มีหลายหน่วยงานที่พยายามจัดรายการเพื่อโหนกระแสเหตุการณ์ดังกล่าว เพื่อให้ได้ชื่อว่ามีผลงานและเป็นผู้รู้ในด้านนั้น
แต่ท้ายสุดแล้วสิ่งที่เกิดขึ้นจริงนั้นคืออะไร หน่วยงานที่ออกมาเกาะกระแสตนเกิดเรื่องก็ไม่ได้มีการติดตามต่อไป ได้แต่รอว่าเมื่อใดจะมีเรื่องใหม่ให้ออกมาโหนกระแสอีก
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น