วันอาทิตย์ที่ 4 พฤษภาคม พ.ศ. 2557

เกียร์ยิ้ม ๒๕๓๐ ฉบับเดือนกันยายน (ก่อนจะเลือนหายไปจากความทรงจำ ตอนที่ ๖๖) MO Memoir : Sunday 4 May 2557

"๒๕๓๐ ปีแห่งความทรงจำ"

หลายต่อหลายเหตุการณ์ต่างประดังเข้ามาในปีนี้ ทั้งในระดับ ภาควิชา คณะ และมหาวิทยาลัย ไม่ว่าจะเป็นเรื่อง สุข เศร้า ความเครียด เหน็ดเหนื่อย รอยยิ้ม และความรัก
  
ต้นปีพ.ศ. ๒๕๓๐ ก่อนปิดภาคเรียนฤดูร้อน เรื่องใหญ่ที่ Intania 68 ที่จะกลายเป็นนิสิตปี ๔ ในปีการศึกษาหน้าต้องตัดสินใจคือ จะจัดงานนิทรรศการวิชาการทางวิศวกรรมครั้งที่ ๘ หรือไม่
  
คั่นปีการศึกษาด้วยการฝึกงานภาคฤดูร้อนและการหาแหล่งทุนสำหรับการจัดงาน

ปีการศึกษา ๒๕๓๐ เรียกว่าเป็นปีแห่งการสูญเสียของคณะก็ว่าได้ ไม่ว่าจะเป็น
   
การสูญเสียอดีตคณบดี ได้แก่พระเจริญวิศวกรรม
การสูญเสียอาจารย์ภาควิชาวิศวกรรมเครื่องกล ด้วยสาเหตุที่ทำให้ใครต่างงุนงงทั้ง ๆ ที่ท่านเป็นนักกีฬา
การสูญเสียนิสิตปี ๓ ภาควิชาวิศวกรรมเคมี ณ เหตุการณ์ที่ ก้นอ่าว จังหวัดระยอง
การสูญเสียนิสิตปี ๔ ภาควิชาวิศวกรรมเครื่องกล ด้วยเหตุผลที่เพื่อนฝูงยังคงไม่เข้าใจจนถึงทุกวันนี้

ในขณะเดียวกันก็จัดได้ว่าเป็นปีแห่งความทรงจำสำหรับผู้ที่มีโอกาสใช้ชีวิตอยู่ในมหาวิทยาลัยในช่วงเวลาดังกล่าว
   
การเปลี่ยนพื้นที่ขนาดสนามฟุตบอลหนึ่งสนามหน้าเสาธง เพื่อใช้เป็นพื้นที่สำหรับสร้างพระบรมรูปสองรัชกาล
   
การเสด็จเยือนมหาวิทยาลัยโดยองค์ในหลวงของเรา เพื่อทรงเปิดพระบรมรูปสองรัชกาล งานจุฬาวิชาการ และทรงเสด็จเยี่ยมชมงานนิทรรศการวิชาการทางวิศวกรรมครั้งที่ ๘ ที่คณะของเรา
   
พระองค์ท่านเสด็จมาถึงในช่วงเวลาเย็น รถยนต์พระที่นั่งจอด ณ บริเวณหอนาฬิกาหน้าตึกจักรพงษ์ ทรงเยี่ยมชมนิทรรศการบริเวณดังกล่าว (ศาลาโครงเหล็กที่อยู่บริเวณนั้น และอิฐตัวหนอนที่ปูพื้นอยู่ ต่างสร้างขึ้นเพื่อการจัดนิทรรศการครั้งนั้น) นิทรรศการ ณ ศูนย์คอมพิวเตอร์ของคณะ ณ บริเวณศูนย์คอมพิวเตอร์ชั้นล่างของตึก ๓ จากนั้นจึงเสด็จพระราชดำเนินทอดพระเนตรงานนิทรรศการต่อมาจนถึงลานที่ว่างด้านในคณะที่อยู่ระหว่างตึก ๓ ตึกกิจการนิสิต และ workshop ที่ใช้เป็นโรงฝึกงานของนิสิตปี ๑ (คือบริเวณที่เป็นลานเกียร์ในปัจจุบัน) ก่อนเสด็จพระราชดำเนินกลับ

การทำกิจกรรมสมัยนั้น ไม่มีเสื้อหรือบัตรชมการแสดงแจกให้คนมาช่วยทำ ไม่มีนักร้องนักแสดงมาแสดงเพื่อดึงคนมาร่วมงาน ไม่มี activity transcript สำหรับใส่ในแฟ้มผลงานเพื่อใช้เป็นหลักฐานว่าได้เข้าร่วมกิจกรรม ฯลฯ รู้แต่ว่าสำหรับเพื่อนฝูงแล้ว เหนื่อยก็เหนื่อยด้วยกัน สุขก็สุขด้วยกัน งานส่วนที่เราได้รับมอบหมายทำเสร็จแล้ว แต่ของเพื่อนยังไม่เสร็จ เราก็ย้ายไปทำงานนั้นต่อ

ผมเชื่อว่าภาพเหตุการณ์เกี่ยวกับงานนิทรรศฯในครั้งนั้น ยังคงอยู่ในความทรงจำของนิสิตทั้ง ๔ ชั้นปีที่มีโอกาสได้เข้าร่วมทำงานดังกล่าว






























ไม่มีความคิดเห็น: