"ถ้าพร้อมก็จัด
ถ้าไม่พร้อมก็ไม่ต้องจัด
มันไม่ได้มีข้อกำหนดว่าต้องจัดทุก
๓ ปี"
นั่นคือประโยคหนึ่งที่รุ่นพี่กล่าวเอาไว้ก่อนที่รุ่นผมจะขึ้นปี
๔ เกี่ยวกับการจัดงานนิทรรศการวิชาการทางวิศวกรรมครั้งที่
๘ ที่จะจัดขึ้นในปลายปีพ.ศ.
๒๕๓๐
ตอนนั้นเหตุผลเดียวที่บอกว่าควรต้องจัดทุก
๓ ปีก็เพราะอย่างน้อยจะได้มีนิสิต
๑ รุ่นใน ๔
ชั้นปีนั้นได้เคยเห็นการจัดงานครั้งก่อนหน้านั้น
ทำนองว่าถ้าเข้ามาจังหวะที่มีการจัดงานตอนปี
๑ ก็ควรที่จะจัดอีกครั้งตอนปี
๔ เพื่อที่ให้รุ่นน้องปี
๑-๓
จะได้มีประสบการณ์การทำงาน
เกียร์ยิ้มฉบับนี้ไม่มีคำว่า
"เกียร์ยิ้ม"
ปรากฏให้เห็น
เสียดายที่มันไม่มีการระบุว่าจัดพิมพ์เมื่อใด
แต่ดูจากเนื้อหาแล้วคิดว่าน่าจะออกมาก่อนฉบับเดือนกันยายน
๒๕๓๐ ที่เคยเอามาให้ดูก่อนหน้า
(ฉบับเดือนกันยายน
๒๕๓๐ มีทั้งคำว่า "เกียร์ยิ้ม"
และ
"Sense
of Engineer")
เพราะฉบับนี้มีการพูดถึงเหตุการณ์ควันหลงหลังการประกาศผลเอนทรานซ์
และเป็นการเปิดตัวโลโก้งานนิทรรศการวิชาการทางวิศวกรรมครั้งที่
๘ ดังนั้นมันไม่ควรจะออกก่อนฉบับเดือนกันยายนแน่
เพราะนั่นมันใกล้จะเปิดงานอยู่แล้ว
เกียร์ยิ้มฉบับนี้มีรูปบรรยากาศการดูผลสอบที่บอร์ดประกาศด้วย
แม้ว่าจะเป็นรูปเล็ก ๆ
แต่ก็แสดงให้เห็นบรรยากาศการดูผลสอบเข้ามหาวิทยาลัยในช่วงเวลานั้น
ซึ่งเป็นเวลาก่อนที่จะมีการนำเอาเทคโนโลยีการสื่อสารมาใช้ประกาศผลการสอบ
นอกจากนี้บุคคลหนึ่งที่มีรูปปรากฏในเกียร์ยิ้มฉบับนี้
(ไม่บอกว่าเป็นใคร
เดาเอาเองก็แล้วกัน)
เคยไปทำงานบริษัทเอกชนมาก่อน
ก่อนที่จะกลายมาเป็นผู้ช่วยอธิการบดีของมหาวิทยาลัยของเราในสมัยหนึ่ง
เรื่องหนึ่งที่แนะนำให้อ่านให้เกียร์ยิ้มฉบับนี้คือ
"หลีอย่างไร?
ถึงไม่หลี"
ลองดูซิครับว่าวิธีการจีบสาวเมื่อเกือบ
๓๐ ปีที่แล้ว
ยังนำมาประยุกต์ใช้ได้ในปัจจุบันหรือไม่
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น