เรื่องมันเริ่มจากการที่ผมนั่งฟังบรรยายวิชาสัมมนา
แล้วผู้ที่บรรยายเขากล่าวถึงปฏิกิริยา
sulphonation
(การเติมหมู่
-SO3H)
ไปยังวงแหวนของสารประกอบตัวหนึ่งที่เขาใช้ในการทดลอง
เพื่อทำให้โมเลกุลพอลิเมอร์ของเขามีหมู่ฟังก์ชันที่เป็นขั้ว
โมเลกุลที่เขาต้องการทำปฏิกิริยาsulfonation
คือโมเลกุลในรูปที่
๑ ข้างล่าง
โดยเขากล่าวว่าปฏิกิริยาเกิดขึ้นที่ตำแหน่งที่ลูกศร
1
ชี้
แต่ผมรู้สึกแปลก ๆ
ก็เลยถามเขากลับไปว่าทำไมมันไม่เกิดตรงตำแหน่งที่ลูกศร
2
ชี้
รูปที่
๑ โมเลกุลสารตั้งต้นที่เป็นที่มาของปัญหา
และตำแหน่งเข้าทำปฏิกิริยา
sulfonation
ที่เป็นที่มาของคำถาม
วงแหวนเบนซีน
(C6H6)
นั้นมี
π
อิเล็กตรอนวิ่งวนไปรอบวงแหวน
สารที่จะเข้าทำปฏิกิริยากับวงแหวนเบนซีนได้นั้นจะต้องเข้ามาดึงอิเล็กตรอนเหล่านี้ไปสร้างพันธะ
ปฏิกิริยาที่วงแหวนเบนซีนจึงเรียกว่าปฏิกิริยา
electrophilic
substitution (การแทนที่ด้วยสารที่ชอบอิเล็กตรอน)
แต่เนื่องจาก
π
อิเล็กตรอนของวงแหวนเบนซีนนั้นมีเสถียรภาพมากกว่า
π
อิเล็กตรอนของพันธะคู่
C=C
การเข้าทำปฏิกิริยากับ
π
อิเล็กตรอนของวงแหวนเบนซีนจึงยากกว่า
จึงไม่แปลกที่ว่าสารที่เข้าทำปฏิกิริยาได้ง่ายกับ
π
อิเล็กตรอนของพันธะคู่
C=C
พอเอามาทำปฏิกิริยากับ
π
อิเล็กตรอนของวงแหวนเบนซีน
(ในภาวะการทำปฏิกิริยาเดียวกัน)
จะไม่ทำปฏิกิริยาหรือเกิดปฏิกิริยาได้ยาก
จำเป็นต้องมีตัวเร่งปฏิกิริยาช่วยหรือใช้ภาวะการทำปฏิกิริยาที่รุนแรงกว่า
แต่ก็มีการสังเกตเหมือนกันว่าถ้าหากเราแทนที่อะตอม
H
อะตอมใดอะตอมหนึ่งของวงแหวนด้วยหมู่อื่นก่อน
การแทนที่อะตอม H
อะตอมที่สองนั้นอาจเกิดได้ง่ายกว่าหรือยากมากกว่าเมื่อเทียบกับการแทนที่อะตอม
H
อะตอมแรก
และตำแหน่งอะตอม H
ตัวที่สองที่จะถูกแทนที่นั้นขึ้นอยู่กับหมู่ที่เข้ามาแทนที่อะตอม
H
อะตอมแรกด้วย
ตัวอย่างเช่นถ้าหากเราแทนที่อะตอม
H
อะตอมแรกด้วยหมู่อัลคิล
(-CnH2n+1)
ทำให้เบนซีน
(C6H6)
กลายเป็นอัลคิลเบนซีน
(C6H5-CnH2n+1
) และถ้าเราเอาอัลคิลเบนซีนนี้มาทำปฏิกิริยาแทนที่อะตอม
H
อะตอมที่สองของวงแหวนเบนซีนด้วยหมู่อื่นเช่น
-SO3H
(ด้วยปฏิกิริยา
sulfonation)
การแทนที่ครั้งที่สองจะเกิดได้ง่ายขึ้นเมื่อเทียบกับการแทนที่อะตอม
H
ครั้งแรก
และการแทนที่ครั้งที่สองจะเกิดที่ตำแหน่ง
ortho
หรือ
para
เมื่อเทียบกับหมู่อัลคิล
(ส่วนจะเกิดที่ตำแหน่ง
ortho
หรือ
para
มากกว่ากันนั้นจะมีเรื่องขนาดของหมู่แรกและหมู่ที่สองเข้ามาเกี่ยวข้องด้วย)
แต่ถ้าหากเราแทนที่อะตอม
H
อะตอมแรกของวงแหวนเบนซีนด้วยหมู่
-SO3H
(ด้วยปฏิกิริยา
sulfonation)
ก่อน
จากนั้นจึงค่อยเอาสารประกอบ
C6H5-SO3H
มาแทนที่อะตอม
H
อะตอมที่สองของวงแหวนเบนซีนด้วยหมู่อัลคิล
จะพบว่าการเติมหมู่อัลคิลเข้าไปยังวงแหวนจะเกิดยากมากขึ้นเมื่อเทียบกับการเติมหมู่อัลคิลเข้าไปเป็นหมู่แรก
และหมู่อัลคิลที่เติมเข้าไปนั้นจะอยู่ที่ตำแหน่ง
meta
เมื่อเทียบกับตำแหน่งหมู่
-SO3H
รูปที่
๒ ถ้าเราแทนที่อะตอม H
อะตอมแรกของวงแหวนเบนซีนด้วยหมู่
-CH3
ก่อน
จากนั้นจึงนำสารประกอบ
C6H5-CH3
มาทำปฏิกิริยา
sulfonation
หมู่
-SO3H
ที่เติมเข้าไปทีหลังจะอยู่ที่ตำแหน่ง
ortho
(ได้โมเลกุลรูปซ้าย)
หรือตำแหน่ง
para
(ได้โมเลกุลรูปกลาง)
แต่ถ้าเราแทนที่อะตอม
H
อะตอมแรกของวงแหวนเบนซีนด้วยหมู่
-SO3H
ก่อน
(ด้วยปฏิกิริยา
sulfonation)
จากนั้นจึงนำสารประกอบC6H5-SO3H
มาแทนที่อะตอม
H
อะตอมที่สองของวงแหวนเบนซีนด้วยหมู่
-CH3
หมู่
-CH3
ที่เติมเข้าไปทีหลังจะไปอยู่ที่ตำแหน่ง
meta
(ได้โมเลกุลในรูปขวา)
ในระหว่างการเกิดปฏิกิริยา
electrophilic
substitution ที่มีการแทนที่อะตอม
H
ของวงแหวนเบนซีนนั้น
หมู่ใหม่ที่เข้ามาจะต้องมีความเป็นบวกมากพอที่จะสร้างพันธะกับ
π
อิเล็กตรอนของวงแหวนได้
เกิดเป็นสารมัธยันต์
carbocation
ที่มีประจุบวก
ถ้าหากหมู่แรกที่เข้ามาเกาะอยู่ก่อนนั้นสามารถทำให้
carbocation
ที่เกิดขึ้นนั้นมีเสถียรภาพ
ไม่ว่าจะโดยการทำให้ประจุบวกที่เกิดขึ้นเกิดการ
resonance
หรือจ่ายอิเล็กตรอนลงมาให้กับวงแหวน
carbocation
นั้นก็จะเกิดปฏิกิริยาไปข้างหน้าต่อไปได้
การทำแทนที่ด้วยหมู่ที่สองก็จะง่ายขึ้น
และจะเกิดที่ตำแหน่ง ortho
หรือ
para
รูปที่
๓ ตัวอย่างหมู่ที่เป็น
ring
activation และ
deactivating
และ
ortho-,
para-directing และ
meta-directing
ที่เลือกรูปนี้มาก็เพราะเขาเรียงลำดับความแรงเอาไว้ให้ด้วย
แต่ถ้าหมู่แรกที่มาเกาะกับวงแหวนเบนซีนนั้นดึงอิเล็กตรอนออกจากวงแหวนเบนซีน
จะทำให้ความหนาแน่นของ π
อิเล็กตรอนในวงแหวนเบนซีนลดลง
หมู่ที่สองที่จะมาสร้างพันธะกับวงแหวนก็จะทำปฏิกิริยาได้ยากขึ้น
การแทนที่ก็จะเกิดที่ตำแหน่ง
meta
หมู่เช่น
-NH2
หรือ
-OH
หรือ
-Cl
นั้น
แม้ว่าอะตอม N
หรือ
O
ที่เกาะกับวงแหวนโดยตรงนั้นจะมีค่า
electronegativity
สูงกว่าอะตอม
C
กล่าวคืออะตอม
N
หรือ
O
หรือ
Cl
จะดึงอิเล็กตรอนออกจากอะตอม
C
แต่ทั้ง
N
และ
O
และ
Cl
นั้นต่างมีอิเล็กตรอนคู่โดดเดี่ยว
(lone
pair) ที่สามารถจ่ายให้กับวงแหวน
ผลลัพท์ที่ได้จะขึ้นอยู่กับว่าปรากฏการณ์ไหนโดยเด่นกว่ากัน
ในกรณีของ -NH2
หรือ
-OH
นั้นการจ่ายอิเล็กตรอนคู่โดยเดี่ยวให้กับวงแหวนนั้นโดดเด่นกว่าการดึงอิเล็กตรอนออก
ผลก็คือเมื่อมีหมู่ -NH2
หรือ
-OH
มาเกาะจะทำให้วงแหวนว่องไวเพิ่มมากขึ้น
แต่ในกรณีของฮาโลเจนเช่น
-Cl
นั้นผลของการดึงอิเล็กตรอนออกจากวงแหวนโดดเด่นกว่าการจ่ายคู่อิเล็กตรอนให้กับวงแหวน
ผลก็คือเมื่อมีหมู่ฮาโลเจนมาเกาะจะทำให้วงแหวงมีความว่องไวลดน้อยลง
เรื่อง
electrophilic
substitution
ของวงแหวนเบนซีนโดยเฉพาะการแทนที่ตำแหน่งที่สองนี้ผมจั่วหัวข้อไว้ตั้งนานแล้ว
แต่ยังไม่ได้ลงมือเขียนสักที
แต่ก็ดันมีเรื่องมาให้เขียนเรื่องการแทนที่ตำแหน่งที่สามขึ้นมาก่อน
ส่วนที่ว่าหมู่ไหนทำให้วงแหวนวงไวมากขึ้นหรือเฉื่อยมากขึ้น
หรือทำให้เกิดการแทนที่ครั้งที่สองที่ตำแหน่งใดนั้นก็ดูข้อมูลในรูปที่
๓ เองเองก็แล้วกัน
ทีนี้ถ้าหากวงแหวนเบนซีนมีการแทนที่อะตอม
H
แล้ว
2
ตำแหน่ง
เมื่อนำมาทำปฏิกิริยาแทนที่อะตอม
H
ตำแหน่งที่สาม
ก็จะเกิดคำถามขึ้นมาว่าจะเกิดปฏิกิริยาตรงไหน
โดยหลักก็คือหมู่ที่เข้ามาแทนที่ก่อนหน้าทั้งสองหมู่จะส่งผลต่อการแทนที่ตำแหน่งที่สาม
ถ้าหากตำแหน่งแทนที่ตำแหน่งที่สามนั้นสอดคล้องกับอิทธิพลของหมู่ที่อยู่ก่อนหน้านั้นสองหมู่
ก็จะทำนายตำแหน่งการแทนที่ตำแหน่งที่สามได้ง่าย
แต่ถ้าหมู่ที่เกาะอยู่ก่อนสองหมู่นั้นส่งอิทธิพลต่อการแทนที่ตำแหน่งที่สามที่แตกต่างกัน
การทำนายตำแหน่งที่จะเกิดการแทนที่ตำแหน่งที่สามก็จะยากขึ้น
ในกรณีนี้จำเป็นต้องมีการเปรียบเทียบว่าหมู่ไหนมีอิทธิพลมากกว่ากัน
ตรงนี้ลองดูตัวอย่างในรูปที่
๔ ประกอบโดยจะเริ่มจากกรณีของ
o-cresol
และ
m-cresol
ก่อน
รูปที่
๔
ตำแหน่งที่ว่างสำหรับการแทนที่ครั้งที่สามบนวงแหวนเบนซีนของโมเลกุล
o-cresol
และ
m-cresol
ทั้ง
-CH3
และ
-OH
ต่างเป็นหมู่
ortho-,
para-directing group ถ้าเราพิจารณาโมเลกุล
o-cresol
ว่าถ้านำมาทำปฏิกิริยาแทนที่ครั้งที่สามแล้วจะเกิดปฏิกิริยาที่ตำแหน่งใดนั้นจะพบว่า
ตำแหน่ง
(1)
เป็นตำแหน่ง
ortho
ของ
-CH3
แต่เป็นตำแหน่ง
meta
ของ
-OH
ตำแหน่ง
(2)
เป็นตำแหน่ง
meta
ของ
-CH3
แต่เป็นตำแหน่ง
para
ของ
-OH
ตำแหน่ง
(3)
เป็นตำแหน่ง
para
ของ
-CH3
แต่เป็นตำแหน่ง
meta
ของ
-OH
ตำแหน่ง
(4)
เป็นตำแหน่ง
meta
ของ
-CH3
แต่เป็นตำแหน่ง
ortho
ของ
-OH
จะเห็นว่าไม่ว่าจะเกิดการแทนที่ที่ตำแหน่งใดนั้น
จะมีความขัดแย้งกันระหว่างหมู่
-CH3
กับ
-OH
กล่าวคือถ้าเป็นตำแหน่ง
ortho
หรือ
para
เมื่อเทียบกับ
-CH3
มันจะเป็นตำแหน่ง
meta
เมื่อเทียบกับ
-OH
แต่ถ้าเป็นตำแหน่ง
ortho
หรือ
para
เมื่อเทียบกับ
-OH
มันจะเป็นตำแหน่ง
meta
เมื่อเทียบกับ
-CH3
ในกรณีเช่นนี้ก็ต้องมาพิจารณาว่าหมู่ใดมีอิทธิพลมากกว่ากัน
จากข้อมูลในรูปที่ ๓
จะเห็นว่าหมู่ -OH
มีอิทธิพลมากกว่าหมู่
-CH3
ดังนั้นจึงน่าจะคาดการณ์ได้ว่าการแทนที่ตำแหน่งที่สามควรเกิดที่ตำแหน่ง
(2)
หรือ
(4)
เป็นหลัก
ที่นี้ถ้าเรามาพิจารณาโมเลกุล
m-cresol
ดูบ้างจะพบว่า
ตำแหน่ง
(5)
เป็นตำแหน่ง
ortho
ของ
-CH3
และเป็นตำแหน่ง
ortho
ของ
-OH
ด้วย
ตำแหน่ง
(6)
เป็นตำแหน่ง
ortho
ของ
-CH3
และเป็นตำแหน่ง
para
ของ
-OH
ด้วย
ตำแหน่ง
(7)
เป็นตำแหน่ง
meta
ของ
-CH3
และเป็นตำแหน่ง
meta
ของ
-OH
ด้วย
ตำแหน่ง
(8)
เป็นตำแหน่ง
para
ของ
-CH3
และเป็นตำแหน่ง
ortho
ของ
-OH
ด้วย
จะเห็นว่าการแทนที่ที่ตำแหน่ง
(5)
(6) และ
(8)
นั้นเป็นไปตามอิทธิพลของหมู่
-CH3
และ
-OH
กล่าวอีกนัยหนึ่งคือหมู่ทั้งสองส่งอิทธิพลเสริมกันในการแทนที่ที่ตำแหน่งดังกล่าว
ส่วนการแทนที่ที่ตำแหน่ง
(7)
นั้นเป็นตำแหน่งที่ขัดแย้งกับอิทธิพลของหมู่
-CH3
และ
-OH
ดังนั้นการแทนที่ที่ตำแหน่ง
(7)
จึงไม่น่าจะเกิด
อีกตัวอย่างที่จะขอยกมาคือกรณีของ
nitrotoluene
ในรูปที่
๕
รูปที่
๕
ตำแหน่งที่ว่างสำหรับการแทนที่ครั้งที่สามบนวงแหวนเบนซีนของโมเลกุล
2-nitrotoluene
และ
4-nitrotoluene
หมู่
-CH3
เป็น
ring
activating group และเป็น
ortho-,
para-directing group ส่วน
-NO2
เป็น
ring
deactivating group และเป็น
meta-directing
group ในกรณีของ
2-nitrotoluene
จะพบว่า
ตำแหน่ง
(1)
เป็นตำแหน่ง
ortho
ของ
-CH3
และเป็นตำแหน่ง
meta
ของ
-NO2
ด้วย
ตำแหน่ง
(2)
เป็นตำแหน่ง
meta
ของ
-CH3
แต่เป็นตำแหน่ง
para
ของ
-NO2
ตำแหน่ง
(3)
เป็นตำแหน่ง
para
ของ
-CH3
และเป็นตำแหน่ง
meta
ของ
-NO2
ด้วย
ตำแหน่ง
(4)
เป็นตำแหน่ง
meta
ของ
-CH3
แต่เป็นตำแหน่ง
ortho
ของ
-NO2
จะเห็นว่าตำแหน่งที่ถ้าเกิดการแทนที่ครั้งที่สามแล้วไม่ขัดแย้งกับอิทธิพลของหมู่
-CH3
และ
-NO2
ที่เกาะอยู่ก่อนคือตำแหน่งที่
(1)
และ
(3)
ที่นี้ถ้าเรามาลองพิจารณากรณีของ
3-nitrotoluene
ดูบ้าง
จะพบว่า
ตำแหน่ง
(5)
เป็นตำแหน่ง
ortho
ของ
-CH3
แต่เป็นตำแหน่ง
ortho
ของ
-NO2
ตำแหน่ง
(6)
เป็นตำแหน่ง
ortho
ของ
-CH3
แต่เป็นตำแหน่ง
para
ของ
-NO2
ตำแหน่ง
(7)
เป็นตำแหน่ง
meta
ของ
-CH3
แต่เป็นตำแหน่ง
meta
ของ
-NO2
ตำแหน่ง
(8)
เป็นตำแหน่ง
para
ของ
-CH3
แต่เป็นตำแหน่ง
ortho
ของ
-NO2
จะเห็นว่าไม่ว่าจะเกิดการแทนที่ที่ตำแหน่งใดนั้น
จะมีความขัดแย้งกันระหว่างหมู่
-CH3
กับ
-NO2
กล่าวคือถ้าเป็นตำแหน่ง
ortho
หรือ
para
เมื่อเทียบกับ
-CH3
มันจะเป็นตำแหน่ง
ortho
หรือ
para
เมื่อเทียบกับ
-NO2
แต่ถ้าเป็นตำแหน่ง
meta
เมื่อเทียบกับ
-NO2
มันจะเป็นตำแหน่ง
meta
เมื่อเทียบกับ
-CH3
(ตำแหน่ง
(7))
ในกรณีเช่นนี้ก็ต้องมาพิจารณาว่าหมู่ใดมีอิทธิพลมากกว่ากัน
แต่เนื่องจากหมู่ -NO2
มีอิทธิพลที่แรงกว่าหมู่
-CH3
ดังนั้นจึงคาดการณ์ว่าปฏิกิริยาการแทนที่ครั้งที่สามน่าจะเกิดที่ตำแหน่ง
(7)
เป็นหลัก
ที่กล่าวมาทั้งหมดข้างต้นยังไม่ได้พิจารณาถึงผลของรูปร่างโมเลกุลของหมู่ที่เกาะอยู่ก่อนหน้าและของหมู่ที่จะเข้ามาแทนที่
(steric
effect) นะ
เพราะในบางกรณีเมื่อนำเอารูปร่างโมเลกุลเข้ามาพิจารณาจะพบว่าการแทนที่บางตำแหน่งนั้นไม่น่าจะเกิดเพราะหมู่ที่จะเข้ามาแทนที่นั้นไม่สามารถเข้าถึงตำแหน่งนั้นได้เนื่องจากหมู่ที่เกาะอยู่ก่อนหน้าขวางทางเอาไว้
ถัดไปเราลองมาพิจารณากรณีของโมเลกุลที่มีรูปร่าง
(ดูเหมือน)
ซับซ้อนมากขึ้นดังเช่นโมเลกุลในรูปที่
๖ ข้างล่าง
รูปที่
๖ ปฏิกิริยา sulfonation
ที่ตำแหน่งวงแหวน
จากบทความเรื่อง "Highly
charged and stable cross-linked
4,4′-bis(4-aminophenoxy)biphenyl-3,3′-disulfonic acid
(BAPBDS)-sulfonated poly(ether sulfone) polymer electrolyte membranes
impervious to methanol" โดย
Bijay
P. Tripathi, Tina Chakrabartya and Vinod K. Shahi ในวารสาร
J.
Mater. Chem., ปีค.ศ.
2010, 20, หน้า
8036-8044
ในรูปที่
๖ ผู้เขียนบทความกล่าวถึงปฏิกิริยา
sulfonation
คือการเติมหมู่
-SO3H
เข้าไปยังวงแหวน
A
ที่อยู่ในกรอบสี่เหลี่ยมสีส้ม
วงแหวน A
นี้เราอาจเขียนย่อ
ๆ ได้เป็น Ar-(C6H4)-OAr
เมื่อ
Ar
คือหมู่
aryl
ในที่นี้หมู่
Ar-
และ
-OAr
คือหมู่สองหมู่แรกที่เข้ามาแทนที่อะตอม
H
ของวงแหวนเบนซีน
-SO3H
ที่เข้ามาทำปฏิกิริยานั้นจะเป็นหมู่ที่สามที่เข้ามาแทนที่
คำถามก็คือหมู่ -SO3H
ควรจะเข้าที่ตำแหน่ง
1
หรือ
2
หมู่
-Ar
และ
-OAr
ต่างเป็น
ring
activating group และเป็น
ortho-,
para- directing group ทั้งคู่
ตำแหน่ง 1
เป็นตำแหน่ง
ortho
ของหมู่
-OAr
แต่เป็นตำแหน่ง
meta
ของหมู่
-Ar
ส่วนตำแหน่ง
2
เป็นตำแหน่ง
ortho
ของหมู่
-Ar
แต่เป็นตำแหน่ง
meta
ของหมู่
-OAr
ในกรณีเช่นนี้ก็ต้องมาดูว่าระหว่างสองหมู่นี้หมู่ไหนมีอิทธิพลมากกว่ากัน
เนื่องจากหมู่ -OAr
มีอิทธิพลมากกว่าหมู่
-Ar
การเข้าแทนที่ของหมู่
-SO3H
จึงเกิดขึ้นที่ตำแหน่ง
1
ไม่เกิดที่ตำแหน่ง
2
สำหรับปฏิกิริยาในรูปที่
๖ นั้นตามความเห็นของผมมันไม่แปลกหรอกที่เขาจะบอกว่าหมู่
-SO3H
เข้าไปยังตำแหน่ง
1
(ตำแหน่ง
ortho
เมื่อเทียบกับหมู่
-OAr)
ที่ผมติดใจมากกว่าคือทำไมผู้เขียนบทความจึงคิดว่ามันไม่เข้าไปแทนที่อะตอม
H
ของวงแหวน
B
ในกรอบสีเขียว
วงแหวน
B
ในกรอบสีเขียวเราอาจเขียนย่อ
ๆ ได้เป็น H2N-(C6H4)-OAr
ทั้งหมู่
amino
H2N- และอีเทอร์
-OAr
นั้นต่างเป็นring
activating group และเป็น
ortho-,
para- directing group ทั้งคู่
แต่ในกรณีนี้หมู่ H2N-
เป็นหมู่ที่แรงกว่า
ดังนั้นการเข้าแทนที่อะตอม
H
ของวงแหวน
B
จึงควรเกิดที่ตำแหน่ง
4
(ตำแหน่ง
ortho
เมื่อเทียบกับหมู่
H2N-
แต่เป็น
meta
เมื่อเทียบกับหมู่
-OAr)
ไม่ใช่ตำแหน่ง
3
(ตำแหน่ง
ortho
เมื่อเทียบกับหมู่
-OAr
แต่เป็น
meta
เมื่อเทียบกับหมู่
H2N-)
นอกจากนี้ตำแหน่ง
4
ยังเปิดโล่งมากกว่าตำแหน่ง
1
และ
2
การเข้าแทนที่จึงควรจะง่ายกว่าด้วย
ณ
จุดนี้ถ้าลองกลับไปดูคำถามที่ผมถามเขาเมื่อวันศุกร์ที่แล้วที่ผมเขียนเอาไว้ในย่อหน้าแรกของ
Memoir
ฉบับนี้
พวกคุณก็คงจะมองเห็นแล้วว่าทำไปผมจึงรู้สึกแปลก
ๆ ตอนที่ได้ยินเขานำเสนอว่าปฏิกิริยา
sulfonation
ของเขานั้นเกิดขึ้นที่ตำแหน่งที่ลูกศร
1
ชี้
ผมไม่ทราบว่าเขาจะหาคำตอบของคำถามที่ผมถามเขาทิ้งเอาไว้ในวันศุกร์นั้นหรือเปล่า
และก็ไม่ทราบว่าจะมีกรรมการท่านใดถามเขาเรื่องนี้ในระหว่างการสอบของเขาที่กำลังจะเกิดขึ้นเร็ว
ๆ นี้หรือไม่
รู้แต่ว่าในวันนั้นมีผู้เข้าร่วมฟังการบรรยายบางรายสงสัยว่าผมถามเขาเรื่องอะไร
ผมก็เลยบอกเขาเหล่านั้นไปว่าแล้วจะเขียนอธิบายเรื่องราวทั้งหมดให้อ่านกัน
ซึ่งก็คือ Memoir
ฉบับนี้นั่นเอง
เวลาสอนหนังสือผมมักบอกนิสิตเสมอว่า
จะตั้งคำถามหรือออกข้อสอบให้นิสิตสอบตกนั้นไม่ยากหรอก
ถามคำถามพื้นฐานแค่นั้นแหละ
ได้ผลทุกที
หมายเหตุ : เหตุผลที่ว่าทำไมปฏิกิริยา sulphonation ในรูปที่ ๑ จึงเข้าที่ตำแหน่ง 1 นั้นอ่านเพิ่มเติมได้ที่ Memoir ฉบับวันเสาร์ที่ ๓๑ ตุลาคม ๒๕๕๘ เรื่อง "จาก Alkanes ไปเป็น Aramids"
หมายเหตุ : เหตุผลที่ว่าทำไมปฏิกิริยา sulphonation ในรูปที่ ๑ จึงเข้าที่ตำแหน่ง 1 นั้นอ่านเพิ่มเติมได้ที่ Memoir ฉบับวันเสาร์ที่ ๓๑ ตุลาคม ๒๕๕๘ เรื่อง "จาก Alkanes ไปเป็น Aramids"
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น