เรื่องไร้สาระในวันที่ตื่นเช้ามาพบว่ากระต่ายตัวสุดท้ายที่เหลืออยู่
(เจ้าโกโก้)
นอนตายอยู่ในกรง
แต่บนต้นมะเฟืองมีนกแก้วมาเยือนพร้อมกัน
๒ ตัว
ตอนแรกที่ได้ยินเสียงของตกกระทบกับหลังคาและพื้นดินยังนึกว่าเป็นเสียงหยดน้ำฝน
เพราะเห็นเมฆเริ่มตั้งเค้า
แต่พอฟังดี ๆ พบว่าไม่ใช่
กลายเป็นเสียงของเศษลูกมะเฟืองตกกระทบหลังคาไม่ก็ตกกระทบพื้น
พอมองตามทิศทางที่เศษมะเฟืองตกลงมาก็พบว่ามีนกแก้ว
๒ ตัวมาเก็บมะเฟืองกิน
ต่างตัวต่างกินอยู่กันคนละมุมของต้น
ไม่แย่งกัน
ปีที่แล้วก็ราว
ๆ ช่วงเวลานี้ที่มีนกแก้วมาแวะกินมะเฟือง
และได้เขียนเรื่อง
"นกแก้วกินมะเฟือง"
เอาไว้เป็นครั้งแรก
มะเฟืองต้นนี้ออกลูกดกเป็นประจำ
แต่ที่บ้านไม่มีใครกิน
ปล่อยให้มันร่วงหล่นเอง
กระรอกก็ไม่เก็บกิน
(เจ้าตัวนี้มันเน้นไปที่มะม่วง
มะละกอ และกล้วย
เรียกว่าถ้าปล่อยให้สุกคาต้นเมื่อใดเป็นอันเสร็จเจ้ากระรอกทุกที)
และไม่เห็นนกอะไรจะมากินด้วย
จะมีก็แต่นกแก้วเท่านั้นที่เห็นมาเก็บกินอยู่เรื่อย
อีกไม่นานแถวบ้านก็จะมีทั้งระบบรถไฟขนส่งมวลชน
และระบบทางด่วนมาผ่านใกล้
ๆ แล้ว สวนต่าง ๆ
ที่เคยไปซื้อต้นไม้มาปลูกก็แปรสภาพเป็นหมู่บ้านจัดสรรไปเกือบหมดแล้ว
หมู่บ้านจัดสรรที่สร้างขึ้นใหม่ก็มักจะปลูกบ้านกันเต็มพื้นที่ไม่เหลือที่ให้ปลูกไม้ใหญ่
ก็ไม่รู้เหมือนกันว่าเหล่านกพวกนี้จะมีที่พักอาศัยและแหล่งอาหารให้กินไปอีกนานเท่าใด
ที่เขียนเรื่องนี้ก็เพื่อเป็นการบันทึกไว้ว่าในปีนี้ก็ยังเห็นนกแก้วบินเล่นอยู่
ตอนมาอยู่ใหม่ ๆ
เมื่อเกือบสามสิบปีที่แล้วก็ยังมีนกหัวขวานบินมาเจาะต้นไม้ให้เห็น
แต่ก็หายหน้าหายตาไปนานแล้ว
รูปที่
๑ แขกสองตัวผู้มาเยือนตั้งแต่เช้าตรู่
สีขนกลมกลืนกับใบและกิ่งมะเฟืองมาก
มีส่วนปากที่เห็นเด่นชัด
รูปที่
๒ ตัวที่อยู่มุมด้านซ้ายของรูปที่
๑
รูปที่
๔ เศษซากมะเฟืองที่เหลือจากการแทะกินของนกแก้วทั้งสองตัว
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น