วันเสาร์ที่ 5 ธันวาคม พ.ศ. 2558

สมุดประจำตัวนักเรียนสำหรับลดหย่อนค่าโดยสารรถไฟ (ก่อนจะเลือนหายไปจากความทรงจำ ตอนที่ ๙๖) MO Memoir : Saturday 5 December 2558

เนื่องในโอกาสที่วันนี้เป็นวันพ่อ ก็เลยต้องเอาเรื่องราวเกี่ยวกับคุณพ่อมาลงสักหน่อย

สมุดเล่มนี้คุณพ่อเก็บเอารวมเอาไว้กับเอกสารเก่า ๆ ในห้องนอน ผมเข้าไปรื้อมาสแกนเก็บเอาไว้เล่น ๆ ตอนที่ต้องเข้าไปเปลี่ยนหลอดไฟและซ่อมแซมห้องน้ำ อันที่จริงคุณพ่อยังเก็บเอกสารเก่า ๆ สมัยที่ยังเรียนหนังสืออยู่อีกหลายฉบับ ถ้ามีเวลาจะค่อย ๆ นำมาลงบันทึกเอาไว้ สมุดเล่มที่เอามาให้ดูในวันนี้เข้าใจว่าเป็นสมุดประจำตัวนักเรียนสำหรับลดหย่อนค่าโดยสารรถไฟ คงใช้เวลาเดินทางกลับบ้านที่สงขลา ปีพ.ศ. ที่ออกสมุดประจำตัวเล่มนี้คือพ.ศ. ๒๔๙๖ หรือเมื่อ ๖๒ ปีที่แล้ว สืบดูจากประวัติโรงเรียนเตรียมอุดมศึกษาแล้ว ลายมือชื่ออาจารย์ใหญ่ในภาพคงเป็นของ นายสงวน เล็กสกุล ที่เป็นผู้อำนวยการโรงเรียนอยู่ในช่วงปีพ.ศ. ๒๔๙๓ ถึง ๒๕๐๕

แนวความคิดการวางเส้นทางเดินทางทางบกของไทยแต่เดิมนั้นจะใช้ทางรถไฟเป็นเส้นทางหลักสำหรับการเดินทางไปยังเมืองต่าง ๆ โดยมีถนนเป็นเส้นทางรองรับการเดินทางออกจากสถานีรถไฟอีกที ซึ่งจะว่าไปแล้วแนวความคิดนี้ก็ดูเหมาะสมกับยุคสมัยนั้น เพราะคนไม่ค่อยมีรถยนต์ใช้กัน และรถไฟก็วิ่งได้ด้วยการใช้ไม้ฟืนที่ตัดเอาจากป่าต่าง ๆ ตามเส้นทางที่นำมากองไว้ตามสถานีต่าง ๆ ไม่จำเป็นต้องใช้น้ำมันเชื้อเพลิงที่ต้องนำเข้าจากต่างประเทศ แต่พอช่วงหลังปีพ.ศ. ๒๕๑๐ ได้ไม่นาน ก็มีการเปลี่ยนแปลงนโยบายกลายเป็นใช้การเดินทางทางรถยนต์เป็นหลัก ส่งผลให้เส้นทางรถไฟที่มีการวางแผนเอาไว้เดิมที่มีการสร้างไปบ้างแล้วต้องหยุดการสร้าง (เช่นสายไปภูเก็ตผ่านทางคีรีรัฐนิคม สายใต้ขึ้นตรงไปเหนือผ่านทางสุพรรณบุรี) หรือสายที่คิดว่าจะต่อขยายไปก็ถูกยกเลิก (เช่น สายไปแม่สอดจากทางสวรรคโลก สายไปเชียงรายผ่านทางเด่นชัย การเชื่อมเส้นทางรถไฟสายแม่กลองเข้ากับสายใต้ที่ตลิ่งชัน)
 
แต่ก่อนการเดินทางจากภาคกลางไปใต้นั้นถ้าเป็นฝั่งจังหวัดที่อยู่ทางฝั่งอ่าวไทย (ภาคใต้ฝั่งตะวันออก) ก็สามารถเดินทางไปทางเรือ หรือไม่ก็โดยรถไฟ แต่ถ้าเป็นทางด้านอันดามัน (ภาคใต้ฝั่งตะวันตก) ก็ต้องอาศัยเส้นทางรถยนต์ที่แยกออกจากจังหวัดชุมพรไปยังระนอง ก่อนมุ่งลงใต้มายังพังงา ซึ่งที่ตะกั่วป่าจะมีถนน (สาย ๔๐๑ ในปัจจุบัน) แยกออกไปยังสุราษฎร์ธานี จากพังงาลงใต้ไปอีกจนถึงตรังก็จะวกมาทางตะวันออกมายังพัทลุง เส้นทางถนนเส้นนี้ก็คือถนนเพชรเกษมในปัจจุบัน
 
จะว่าไปแล้วการเดินทางทางรถยนต์สมัยนั้นคงจะลำบากน่าดู เพราะเคยอ่านบันทึกของข้าราชการไทยที่ไปตรวจราชการที่ภูเก็ต วิธีการเดินทางของเขาคือนั่งรถไฟลงใต้ไปยังปีนังหรือลังกาวีก่อน จากนั้นจึงค่อยนั่งเรือย้อนมาที่ภูเก็ต (จำไม่ได้ว่าอ่านเจอจากที่ไหน แต่น่าจะเป็นก่อนที่จะมีรถไฟไปกันตัง) ไม่เหมือนยุคปัจจุบันนี้ที่นั่งเครื่องบินกันเป็นว่าเล่น

Memoir ฉบับนี้คงไม่มีอะไรมากนอกจากเอาเอกสารเก่า ๆ เมื่อกว่า ๖๐ ปีที่แล้วมาบันทึกให้คนรุ่นหลังได้รู้ได้เห็น ก่อนที่มันจะเสื่อมสภาพไปตามเวลา

รูปที่ ๑ สมุดประจำตัวนักเรียนสำหรับโดยสารรถไฟ ปกด้านนอก
 
รูปที่ ๒ สมุดประจำตัวนักเรียนสำหรับโดยสารรถไฟ ด้านใน

รูปที่ ๓ แผนที่จังหวัดสงขลาสมัยปีพ.ศ. ๒๕๐๘ ในช่วงเวลานั้นยังไม่มีถนนตัดตรงจากชุมพรมายังพัทลุง การเดินทางทางรถยนต์ลงใต้พอมาถึงชุมพรต้องอ้อมไปทางระนองและขับรถลงมาถึงตรัง จากนั้นจึงค่อยมุ่งตะวันออกมายังพัทลุงก่อนจะสามารถมุ่งลงใต้มายังสงขลาได้ แต่ถ้าเป็นรถไฟจะวิ่งตรงจากชุมพรลงใต้มาได้เลย

ไม่มีความคิดเห็น: