วันพฤหัสบดีที่ 7 มิถุนายน พ.ศ. 2561

ทำความรู้จัก Equipment schedule (๑) Compressor และ Pump MO Memoir : Wednesday 6 June 2561


เวลาใครสักคนได้ยินคำว่า "Schedule" เชื่อว่าส่วนใหญ่คงนึกถึงความหมายที่เกี่ยวข้องกับ "เวลา" เช่นกำหนดการต่าง ๆ แต่อันที่จริงคำนี้ยังมีอีกความหมายคือ "รายการ" (รูปที่ ๑) ซึ่งในงานวิศวกรรมก็มีการใช้คำนี้ในความหมายหลังนี้ในคำว่า "Equipment schedule" ซึ่งหมายถึงรายการอุปกรณ์




รูปที่ ๑ ความหมายของคำว่า Schedule ในฐานะที่เป็นคำนาม (จาก Oxford Advanced Learner's Dictionary 4th ed. ฉบับพิมพ์ปีค.ศ. ๑๙๙๑)

Equipment schedule ในที่นี้เป็นรายการอุปกรณ์สำหรับโรงงานหรือหน่วยผลิตหนึ่ง ว่าประกอบด้วยอุปกรณ์อะไรบ้าง จำนวนเท่าใด ทำหน้าที่อะไร โดยมีรายละเอียดกำหนดคร่าว ๆ ซึ่งไม่เหมือนกับ specification ที่เป็นการกำหนดเจาะลึกรายละเอียดตัวอุปกรณ์ว่าแต่ละชิ้นส่วนต้องมีลักษณะเป็นไปตามเงื่อนไขอย่างไรบ้างเพื่อให้ตรงกับการใช้งานจริง
 
ตัวอย่างเช่นในการเลือกซื้อปั๊ม ถ้าเป็น specification ก็จะมีการกำหนดรายละเอียดต่าง ๆ ที่จำเป็น เช่น รูปแบบการทำงาน (centrifugal หรือ reciprocating) วัสดุที่ใช้สร้างชิ้นส่วนต่าง ๆ ระบบป้องกันการรั่วซึม (sealing) ชนิดของอุปกรณ์ขับเคลื่อน (driver) ความเร็วรอบการหมุนของอุปกรณ์ขับเคลื่อน ฯลฯ ดังนั้นปั๊มตัวไหนที่เข้าเกณฑ์ที่กำหนดไว้ใน specification ก็สามารถนำมาใช้งานได้ แต่พอเป็น schedule ก็อาจมีการระบุในส่วนของ น้ำหนักและ/หรือมิติ (ข้อมูลสำหรับการเคลื่อนย้าย) ผู้ผลิต/ผู้จัดจำหน่าย ที่จะระบุได้หลังจากเลือกซื้อแล้ว หรือจะมองว่า specification นั้นเป็นตัวกำหนดว่าอุปกรณ์แต่ละชิ้นสำหรับแต่ละงานนั้นต้องมีคุณสมบัติอย่างไร Equipment schedule ก็จะเป็นตัวบอกว่าสำหรับแต่ละกระบวนการผลิตนั้นมีอุปกรณ์อะไรอยู่บ้างและเป็นจำนวนเท่าใด และข้อมูลบางอย่างก็อาจปรากฏอยู่ทั้ง specification และ schedule ก็ได้
 
บทความชุดนี้คงมีหลายตอน ในตอนแรกนี้จะขอยกกรณีของ compressor และ pump มาให้ดูเป็น "ตัวอย่าง" ก่อน (ซึ่งแปลว่าสามารถเอาไปดัดแปลงให้เหมาะสมกับงานของแต่ละคนได้)
 
ตารางที่ ๑ เป็นตัวอย่างรายละเอียด Equipment schedule สำหรับ compressor เราลองมาไล่ดูทีละหัวข้อไปเรื่อย ๆ ก็แล้วกัน
 
"Item no." คือรหัสชื่ออุปกรณ์ เช่น C-100, C-212 ที่ปรกติก็จะประกอบด้วยตัวอักษรนำหน้าที่บ่งบอกว่าเป็นอุปกรณ์อะไร และตัวเลขตามหลังที่บ่งบอกว่าใช้กับหน่วยผลิตใด
 
"Service name" คือใช้ทำหน้าที่อะไร เช่นอาจเป็น Recyle gas blower, 2nd stage compressor เป็นต้น
 
"No. required" คือให้บ่งบอกจำนวน เช่นในกรณีที่เป็น compressor ชนิดเดียวกัน ทำหน้าที่เดียวกัน 3 ตัว เช่นสมมุติว่าโรงงานมี compressure อัดอากาศสำหรับใช้งานทั่วไปในโรงงาน (plant air) การตั้งชื่ออุปกรณ์ (Item no.) ก็อาจเป็น C-701A, C-701B และ C-701C แต่การกรอกข้อมูลในส่วนของ Item no. ก็จะเป็น C-701 แต่พอจำนวนจะกรอกเป็น 3
 
"Compressor of Blower" ตรงช่อง Type ให้ระบุว่าเป็น Compressor หรือ Blower ส่วนช่อง Shaft power ก็ให้ระบุกำลังที่ต้องใช้ในการขับเคลื่อน
 
ช่อง "Gas" ให้ระบุชนิดแก๊สและน้ำหนักโมเลกุลของแก๊สที่ทำการอัด (ข้อมูลสำคัญสำหรับการทำงานของทั้ง Blower และ Compressor)
 
"Suction" คือเงื่อนไขแก๊สด้านขาเข้า ว่ามีความดันและอุณหภูมิเท่าใด การระบุความดันตรงนี้ต้องดูด้วยว่าให้ระบุเป็นควานดันเกจ (gauge ที่ย่อว่า g) หรือความดันสัมบูรณ์ (absolute ที่ย่อว่า a)
 
"Discharge" คือเงื่อนไขแก๊สด้านขาออก ว่ามีความดันและอุณหภูมิเท่าใด และเช่นเดียวกันกับด้านขาเข้า การระบุความดันด้านขาออกนี้ต้องดูด้วยว่าให้ระบุเป็นควานดันเกจ (gauge ที่ย่อว่า g) หรือความดันสัมบูรณ์ (absolute ที่ย่อว่า a)
 
"Flow rate" คืออัตราการไหล เนื่องจากแก๊สนั้นปริมาตรเปลี่ยนไปตามอุณหภูมิและความดัน ดังนั้นอัตราการไหลโดยปริมาตรด้านขาเข้าและขาออกจึงแตกต่างกัน แต่อัตราการไหลโดยน้ำหนัก (In weight) จะเท่ากัน และถ้าเป็นการระบุอัตราการไหลโดยปริมาตร (เช่นด้านขาเข้าดังตัวอย่างที่ยกมา) ก็ต้องระบุให้ชัดเจนด้วยว่าอัตราการไหลโดยปริมาตรนั้นเป็นปริมาณ ณ อุณหภูมิและความดันของแก๊สที่ไหลเข้า compressor (At suction (m3/hr)) หรือเป็นค่าที่ปรับแก้มาเป็นค่าที่ Normal Temperature and Pressure (NTP) แล้ว (At NTP (Nm3/hr)) แต่ทั้งนี้ควรต้องมีการตรวจสอบให้ชัดเจนด้วยว่า "NTP" นั้นกำหนดค่าที่ความดันและอุณหภูมิเท่าใด (เพราะมันมีนิยามที่แตกต่างกันอยู่)
 
"Material & Construction" คือให้ระบุชนิดวัสดุที่ใช้ทำตัวอุปกรณ์ เช่นตัวเรือน (Casing) ตัวใบพัด (Impeller) ในกรณีของชนิด centrifugal หรือลูกสูบ (Piston) ในกรณีของชนิด reciprocating ชนิดของวิธีการป้องกันการรั่วซึม (seal) ว่าเป็นชนิดใดเช่น mechanical seal, labyrinth, carbon ring, gland packing เป็นต้น
 
"Driver" หรืออุปกรณ์ขับเคลื่อน ให้ระบุชนิด (Type) เช่นเป็น มอเตอร์ไฟฟ้า ใช้อากาศอัดความดัน ระบบไอน้ำ เครื่องยนต์ดีเซล เป็นต้น กำลังขับเคลื่อน (Output (kW)) และรอบการหมุนของอุปกรณ์ขับเคลื่อน (ในกรณีของพวก centrifugal รอบการหมุนของอุปกรณ์ขับเคลื่อนไม่จำเป็นต้องเท่ากับตัว impeller เพราะอาจมีการใช้สายพานหรือเฟืองทดรอบได้ และในกรณีของชนิด reciprocating นั้นรอบการหมุนของมอเตอร์อาจคงที่ แต่ไปปรับที่ระยะช่วงชักของลูกสูบเพื่อปรับอัตราการไหลได้)
 
"Approx weight" คือน้ำหนักโดยประมาณ ซึ่งเป็นข้อมูลสำคัญสำหรับการขนส่ง ในกรณีของพวกที่ใช้มอเตอร์ไฟฟ้าหรือเครื่องยนต์ดีเซล ตัว compressor และอุปกรณ์ขับเคลื่อนก็อาจรวมมาเป็นอุปกรณ์ชิ้นเดียวกันก็ได้
 
"Supplier" คือผู้ผลิตอุปกรณ์ แม้ว่าคำนี้ถ้าแปลออกมามันจะแปลว่าผู้ขายก็ได้ แต่ควรจะบันทึกว่าใครเป็นผู้ที่ผลิตอุปกรณ์นั้นจะดีกว่า เพราะเป็นเรื่องปรกติที่ผู้ขายอุปกรณ์ก็ไม่ได้เป็นผู้ผลิตอุปกรณ์นั้นเสมอไป
 
"Remarks" คือหมายเหตุ คือมีอะไรเป็นพิเศษที่ไม่ตรงกับช่องที่มีอยู่ ก็ให้มาเขียนไว้ที่นี่
 

ตารางที่ ๑ ตัวอย่าง Equipment schedule สำหรับ compressor
 

ตารางที่ ๒ เป็นตัวอย่างรายละเอียด Equipment schedule สำหรับ pump ซึ่งมีบางจุดก็คล้ายกับของ compressor เราลองมาไล่ดูทีละหัวข้อไปเรื่อย ๆ ก็แล้วกัน
 

"Item no." คือรหัสชื่ออุปกรณ์ เช่น P-501, P-701 ที่ปรกติก็จะประกอบด้วยตัวอักษรนำหน้าที่บ่งบอกว่าเป็นอุปกรณ์อะไร และตัวเลขตามหลังที่บ่งบอกว่าใช้กับหน่วยผลิตใด
 

"Service name" คือใช้ทำหน้าที่อะไร เช่นอาจเป็น Reflux pump, Fuel oil feed pump เป็นต้น
 

"No. required" คือให้บ่งบอกจำนวน และเช่นเดียวกันในกรณีของ compressor ถ้าหากมีปั๊มชนิดเดียวกัน ทำหน้าที่เดียวกัน 2 ตัว ซึ่งอันนี้เป็นเรื่องปรกติของปั๊มที่ทำงานต่อเนื่อง 24 ชั่วโมง ที่ต้องมีตัวสำรองเสมอ การตั้งชื่ออุปกรณ์ (Item no.) ก็อาจเป็น P-501A และ P-501B แต่การกรอกข้อมูลในส่วนของ Item no. ก็จะเป็น P-501 แต่พอจำนวนจะกรอกเป็น 2
 

"Type" คือชนิดของปั๊ม เช่น centrifugal, plunger (ลูกสูบ), diaphragm, gear, rotary ฯลฯ
 

ช่อง "Fluid name" ก็ให้กรอกของเหลวที่ปั๊มสูบ เช่น boiler feed water (BFW), caustic, seal oil ฯลฯ

ถัดไปคือ "Operating condition" หรือสภาวะการทำงานที่ประกอบด้วย อุณหภูมิ (Temperature), อัตราการไหล (Flow rate), ความหนาแน่น (Density), ความหนืด (Viscosity), มีของแข็งแขวนลอยหรือเป็น Slurry หรือไม่, ความดันด้านขาเข้า (Suction pressure) และความดันด้านขาออก (Discharge pressure) ที่เป็นความดันด้านขาออกในขณะทำงานที่สภาวะปรกติ
 

ช่อง "Total head as liquid column" ที่มีหน่วยเป็นระยะทาง (เช่น m ในตัวอย่างที่ยกมา) หมายถึงความดันสูงสุดด้านขาออก (ในกรณีของ centrifugal pump ก็จะเป็นค่าที่เมื่ออัตราการไหลเป็นศูนย์หรือวาล์วด้านขาออกปิด) ว่าเทียบเท่ากับความดันของของเหลวที่สูงกี่เมตร นิยามต้องนี้บางครั้งต้องระวังให้ดี โดยเฉพาะ "ของเหลว" นั้นหมายถึง "น้ำ" หรือของเหลวที่ปั๊มนั้นทำงานด้วยจริง เพราะความหนาแน่นมันต่างกัน และเป็นค่าที่อุณหภูมิเท่าใดด้วย เพราะของเหลวที่ร้อนจะมีความหนาแน่นต่ำกว่าาของเหลวที่เย็นกว่า 
  

ช่อง "NPSH" คือ Net Positive Suction Head นั่นเอง ว่าในระบบนั้นมีให้เท่าใด (AVA - Available) และในการทำงานจริงนั้นปั๊มต้องการเท่าใด (REQD - Required)
 

ช่อง "Design" ตรงนี้เป็นค่าของอุณหภูมิและความดันที่ใช้ในการออกแบบปั๊ม
 

"Material & Construction" เป็นข้อมูลเกี่ยวกับวัสดุที่ใช้ทำและโครงสร้าง (ว่ามีอะไรเป็นพิเศษหรือไม่) เช่นในส่วนของตัวเรือน (casing), ใบพัด (impeller), เพลา (shaft)
 

การป้องกันการรั่วซึมระหว่างเพลากับตัวเรือน (ช่อง "shaft seal") ว่าใช้ระบบใด เช่น double mechanical seal, gland packing เป็นต้น
 

"Flushing" คือการใช้ของเหลว (ที่สะอาด) ชะเข้าไปตรงบริเวณที่ติดตั้ง mechanical seal ซึ่งอาจทำไปเพื่อระบายความร้อน (ด้วยการอัดของเหลวที่เย็นกว่า process fluid เข้าไป) ป้องกันไม่ให้ของแข็งที่มากับ process fluid นั้นเข้ามาสะสมและก่อความเสียหายให้กับ mechanical seal เป็นต้น ของเหลวที่นำมาใช้ในการ flushing นี้อาจมาจากแหล่งภายนอกที่มีระบบจ่ายต่างหาก หรือนำเอา process fluid ด้านขาออก (ที่มีความดันสูง) มากรองเอาของแข็งออกและ/หรือลดอุณหภูมิให้ต่ำลงมาใช้เป็นของเหลวสำหรับ flushing ก็ได้
 

"Insulation" เป็นการถามความต้องการว่าต้องหุ้มฉนวน (ร้อนหรือเย็น) ให้กับตัวปั๊มด้วยหรือไม่
 

ช่อง "Driver : Type & Output" ให้ระบุอุปกรณ์ขับเคลื่อนว่าเป็นอะไร เช่น มอเตอร์ไฟฟ้า ไอน้ำ เครื่องยนต์ดีเซล (เช่นในกรณีของปั๊มน้ำดับเพลิง) และกำลังของหน่วยขับเคลื่อน ตัวปั๊มที่เพลามอเตอร์กับเพลาของ impeller นั้นเป็นคนละท่อนกัน เมื่อได้มาแล้วก็ควรต้องมีการตรวจสอบการเชื่อมต่อตรง coupling ด้วยว่าต่อเพลาไว้ตรงแนวกันหรือไม่
 

"Approx weight" คือน้ำหนักโดยประมาณ 
  

"Supplier" คือผู้ผลิตอุปกรณ์ 
  

"Remarks" คือหมายเหตุ คือมีอะไรเป็นพิเศษที่ไม่ตรงกับช่องที่มีอยู่ ก็ให้มาเขียนไว้ที่นี่



สำหรับตอนที่ ๑ คงจะจบเพียงแค่นี้ก่อน
 

ตารางที่ ๒ ตัวอย่าง Equipment schedule สำหรับ pump

ไม่มีความคิดเห็น: