วันอาทิตย์ที่ 26 มกราคม พ.ศ. 2557

รถรางสายปากลัด ที่พระประแดง (ก่อนจะเลือนหายไปจากความทรงจำ ตอนที่ ๕๖) MO Memoir : Sunday 26 January 2557

" ........ หรือถ้าจะไปทางลัดก็ต้องนั่งรถรางไปลงที่เทเวศน์แล้วข้ามเรือจ้างไปฝั่งธน จะมีสถานีรถยนต์รางของเจ้าคุณวรพงษ์วิ่งตัดสวนต่าง ๆ ไปออกทุ่งนาตรงไปตลาดบางบัวทอง รถรางของท่านเจ้าคุณท่านนี้สร้างตัวรถแบบเดียวกับรถยนต์รางที่ปากลัดพระประแดง คือไม่มีฝาไม่มีตัวถัง รถเปิดโปร่ง มีม้านั่งเป็นแถว ๆ ไป เวลานี้เขาเลิกเสียหมดแล้ว ผมยังนึกเสียดายอยู่ ........"



ข้อความข้างบนผมนำมาจากนิยายเรื่อง "ชีวิตคุณย่า" เขียนโดย เหม เวชกร ที่สำนักพิมพ์วิริยะมานำตีพิมพ์ใหม่ในหนังสือชุด "ภูติ ผี ปิศาจ ไทย ๑๐๐ ปี เหม เวชกร" ตอนใครอยู่ในอากาศ พิมพ์ครั้งที่ ๑ ตุลาคม ๒๕๔๗ และได้เคยนำมาลงแล้วครั้งหนึ่งตอนที่เขียนเรื่องกับรถไฟสายบางบัวทอง() นิยายเรื่องนี้ทำให้ทราบว่าตู้โดยสารของรถยนต์รางที่พระประแดงนั้นมีลักษณะเดียวกันของรถไฟสายบางบัวทอง 
   

พระราชดำรัสตอบพระบรมวงศานุวงษ์ของรัชกาลที่ ๕ (รูปที่ ๑) ทำให้ทราบว่ารถรางสายนี้เปิดดำเนินการในปีพ.ศ. ๒๔๕๑ ประกาศของกระทรวงนครบาล (รูปที่ ๒) ทำให้ทราบว่ารถรางสายนี้เก็บค่าโดยสาร ๖ สตางค์สำหรับที่นั่งชั้นธรรมดา และเก็บเพิ่มเป็นสองเท่าสำหรับที่นั่งชัน ๑ และในหนังสือ "The Railway Atlas of Thailand,Laos and Cambodia" ของ B.R. Whyte กล่าวไว้ว่ารถไฟสายนี้หยุดกิจการในปีพ.ศ. ๒๔๘๔ ก่อนที่สงครามโลกครั้งที่ ๒ จะเริ่มขึ้นในประเทศไทย



บริเวณพื้นที่ราบลุ่มที่เกิดจากการทับถมของตะกอนที่แม่น้ำพัดพามา แม่น้ำที่อยู่ในบริเวณนี้มักมีลักษณะคดเคี้ยวไปมา เช่นบริเวณที่ราบลุ่มภาคกลางของประเทศไทยที่มีแม่น้ำท่าจีนอยู่ทางตะวันตก แม่น้ำเจ้าพระยาอยู่บริเวณตอนกลาง และแม่น้ำบางปะกงอยู่ทางตะวันออก (รูปที่ ๓) 
  

สำหรับการเดินทางทางน้ำแล้วลักษณะลำน้ำที่คดเคี้ยวนี้ทำให้เสียเวลาในการเดินทาง แต่สำหรับผู้ที่ประกอบอาชีพทางการเกษตรเช่นปลูกพืชต่าง ๆ ลักษณะลำน้ำที่คดเคี้ยวก็มีส่วนช่วยป้องกันไม่ให้น้ำทะเลไหลย้อนลึกเข้ามาในพื้นดินในช่วงที่เวลาน้ำลง (ส่วนของแม่น้ำที่อยู่ใกล้ทะเล เช่นแม่น้ำเจ้าพระยาช่วงที่ไหลผ่านกรุงเทพ เวลาที่น้ำลงน้ำในแม่น้ำจะไหลออกทะเล แต่เวลาที่น้ำขึ้นจะเห็นน้ำในแม่น้ำไหลย้อนกลับมา ซึ่งน้ำที่ไหลย้อนเข้ามานี้จะพาน้ำเค็มเข้ามาด้วย) 
   

ในบริเวณที่อยู่ทางจากทะเลและไม่ได้รับอิทธิพลจากน้ำขึ้น-น้ำลงที่ทำให้มีน้ำเค็มไหลย้อนเข้ามาในแผ่นดิน ส่วนไหนของแม่น้ำที่คดเคี้ยวก็มักจะมีการขุดคลองตรงบริเวณคอคอดเพื่อย่นระยะทางในการเดินทางด้วยเรือ แต่เมื่อเข้ามาสู่บริเวณใกล้ทะเลแล้ว ปัจจัยเรื่องน้ำเค็มไหลย้อนจะส่งผลมากกว่า ดังนั้นในอดีตนั้นตัวแม่น้ำเจ้าพระยาเองจึงมีการขุดคลองลัดบริเวณคอคอดต่าง ๆ เพื่อย่นระยะทางในการเดินทาง ซึ่งคลองหลายคลองที่ขุดนั้นได้กว้างขึ้นจนกลายเป็นแม่น้ำ ส่วนลำแม่น้ำเดิมก็ตื้นเขินแคบลงจนกลายเป็นคลองไป คลองขุดในอดีตเดิมที่อยู่ใกล้ทะเลมากที่สุดปัจจุบันคือแม่น้ำเจ้าพระยาช่วงปากคลองบางกอกน้อย (ตรงสถานีรถไฟธนบุรีหรือมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ท่าพระจันทร์) ไปจนถึงปากคลองบางกอกใหญ่ (บริเวณพระราชวังเดิมหรือวัดกัลยาณมิตร) ส่วนแม่น้ำเจ้าพระยาสายเดิมก็กลายเป็นคลองบางกอกน้อยและคลองบางกอกใหญ่



จะมีเว้นอยู่ที่หนึ่งก็คือบริเวณนครเขื่อนขันธ์หรือพระประแดงในปัจจุบัน


   

รูปที่ ๑ "พระราชดำรัสตอบพระบรมวงศานุวงษ์ ข้าทูลลอองธุรีพระบาทฝ่ายหน้า" ของรัชกาลที่ ๕ ประกาศในราชกิจจานุเบกษาเล่ม ๒๕ หน้า ๗๔๙-๗๕๓ วันที่ ๒๗ กันยายน พ.ศ. ๒๔๕๑ (ร.ศ. ๑๒๗)





รูปที่ ๒ ประกาศกระทรวงนครบาล ประกาศในราชกิจจานุเบกษา เล่ม ๒๖ หน้า ๑๘๒๒ วันที่ ๑๔ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๔๕๒ (ร.ศ. ๑๒๘) ประกาศนี้ทำให้ทราบว่ารถรางโดยสารนั้นมีที่นั่งโดยสารสองชั้น และค่าโดยสารที่จัดเก็บ





รูปที่ ๓ แผนที่แม่น้ำท่าจีน (ซ้าย) แม่น้ำเจ้าพระยา (กลาง) และแม่น้ำบางปะกง (ขวา) จะเห็นว่าแม่น้ำเจ้าพระยามีความคดเคี้ยวน้อยกว่าแม่น้ำอีกสองสาย ทั้งนี้เป็นเพราะมีการขุดคลองลัดบริเวณที่คดเคี้ยวหลายตำแหน่งเพื่อให้ลำน้ำตรงขึ้น เมื่อเวลาผ่านไปคลองที่ขุดเหล่านี้ก็กว้างขยายขึ้นกลายเป็นลำแม่น้ำขึ้นมาแทน ในขณะที่ลำแม่น้ำเดิมก็หดแคบลงและถูกลดฐานะลงไปเป็นคลองแทน จะมีเว้นก็แต่บริเวณพระประแดงที่มีการปล่อยเอาไว้เช่นนั้น (แม้ว่าจะมีคลองให้เรือขนาดเล็กผ่านได้) ทั้งนี้ด้วยเหตุผลทางด้านความมั่นคงและป้องกันไม่ให้น้ำเค็มไหลย้อนเข้ามาในบริเวณพื้นที่เกษตรกรรมได้มากเกินไป (แต่ในปัจจุบันมีการขุดคลองลัดโพธิ์ที่เป็นคลองขนาดใหญ่ช่วยในการระบายน้ำ แต่ก็ยังต้องมีระบบประตูน้ำคอยควบคุม)





รูปที่ ๔ แผนที่แนบท้ายพระราชกฤษฎีกาจัดตั้งเทศบาลเมืองพระประแดง จังหวัดสมุทรปราการ พ.ศ. ๒๔๘๐ ประกาศในราชกิจจานุเบกษา เล่ม ๕๔ หน้า ๑๘๗๘-๑๘๘๑ เส้นทางรถรางที่เชื่อมสองฝั่งของแม่น้ำเจ้าพระยาอยู่ในกรอบสีน้ำเงิน



บริเวณนี้มีคลองลัดหลวง (รูปที่ ๔) สำหรับให้เรือขนาดเล็กผ่านได้ แต่ไม่ให้เรือขนาดใหญ่ผ่าน สาเหตุที่ต้องเก็บบริเวณนี้เอาไว้ก็เพราะไม่เพียงแต่การมีคลองขนาดใหญ่จะทำให้น้ำเค็มไหลย้อนเข้าไปในแผ่นดินได้ลึกและรวดเร็วในช่วงน้ำลง (ทำให้พืชผลทางการเกษตรเสียหายได้ และยังทำให้มีปัญหาเรื่องนำบริโภคได้) แต่ยังทำให้เรือรบข้าศึกเข้าประชิดพระนครได้รวดเร็วขึ้น ดังนั้นถ้ามองจากแง่ชัยภูมิทางทหารแล้ว การตั้งป้อมปืนบนฝั่งบริเวณคอคอดนี้เพื่อรับมือกับกองเรือรบข้าศึกที่มาตามลำแม่น้ำจะทำให้รับมือกับข้าศึกได้ถึงสองครั้ง คือครั้งแรกที่ข้าศึกแล่นเข้ามา และครั้งที่สองถ้าข้าศึกนั้นผ่านไปได้ ข้าศึกนั้นจะต้องกลับมาโผล่อีกทางฝั่ง
  

อันที่จริงตรงพระประแดงนี้ก็มีแผนการขุดคลองลัดพร้อมระบบประตูน้ำควบคุม (คงเพื่อช่วยในการระบายน้ำออกทะเล) มานานก่อนไทยเข้าสู่สงครามโลกครั้งที่สอง แต่ก็ไม่ได้ทำสักทีจนกระทั่งเมื่อไม่นานนี้ที่มีคลองลัดโพธิ์เกิดขึ้น)
  


รูปที่ ๕ ส่วนขยายของแผนที่ในกรอบสีน้ำเงินของรูปที่ ๔ ระบุว่าปลายทางด้านบนอยู่ตรง "ท่าตรงข้ามถนนตก" ส่วนปลายทางด้านล่างอยู่บริเวณที่ว่าการอำเภอพระประแดง





รูปที่ ๖ แผนที่กรุงเทพมหานครจัดทำโดยกองทัพอังกฤษในช่วงระหว่างสงครามโลกครั้งที่ ๒ ในแผนที่ฉบับนี้ปรากฏเส้นทางรถรางปลายทางด้านทิศเหนืออยู่ในกรอบสี่เหลี่ยมสี่แดงด้านล่างของรูป



รถยนต์รางที่ปากลัด พระประแดงนี้ เป็นรถรางสายสั้น ๆ ความยาวประมาณ ๑๙๐๐ เมตร แต่ช่วยย่นระยะทางการเดินทางทางเรือระหว่างสองฟากฝั่งสถานีรถรางที่ยาวถึง ๒๐ กิโลเมตร หนังสือของ B.R. Whyte ในแผนที่ 29 ท้ายเล่มให้แนวเส้นทางรถไฟดังกล่าวเอาไว้คร่าว ๆ แต่แนวเส้นทางเทียบสถานที่จริงนั้นไปค้นเจอจากแผนที่แนบท้ายราชกิจจานุเบกษาที่ประกาศตั้งเทศบาลเมืองพระประแดส (รูปที่ ๔ และ ๕) และแผนที่บริเวณกรุงเทพมหานคร จัดทำโดยกองทัพอังกฤษ()



ที่เสียดายก็คือยังไม่พบว่ามีรูปถ่ายของรถรางดังกล่าวปรากฏให้เห็นเหมือนของรถไฟสายบางบัวทองหรือสายพระพุทธบาท

  

รูปที่ ๗ แผนที่กรุงเทพมหานครจัดทำโดยกองทัพอังกฤษในช่วงระหว่างสงครามโลกครั้งที่ ๒ เป็นส่วนต่อด้านล่างของแผนที่ในรูปที่ ๖ ในแผนที่ฉบับนี้ปรากฏส่วนที่เหลือของเส้นทางต่อจากรูปที่ ๖ ในกรอบสี่เหลี่ยมสี่แดงด้านบนของรูป และทางรถไฟสายปากน้ำทางด้านขวา (ที่เขียนในแผนที่ว่า SIAM STATE RAILWAY)



หมายเหตุ

(๑) Memoir ปีที่ ๕ ฉบับที่ ๕๙๘ วันพฤหัสบดีที่ ๒๘ มีนาคม ๒๕๕๖ เรื่อง "รถไฟสายบางบัวทอง (ก่อนจะเลือนหายไปจากความทรงจำ ตอนที่ ๓๘)"

(๒) รายละเอียดของแผนที่ชุดนี้เคยให้ไว้แล้วใน Memoir ปีที่ ๖ ฉบับที่ ๗๒๗ วันพฤหัสบดีที่ ๙ มกราคม ๒๕๕๗ เรื่อง "รถไฟเล็กลากไม้สายตะวันออก (ศรีราชา) ภาค ๖ (ก่อนจะเลือนหายไปจากความทรงจำ ตอนที่ ๕๔)"




รูปที่ ๘ (บน) ภาพขยายในกรอบสีแดงของรูปที่ ๖ (ล่าง) ภาพขยายในกรอบสีแดงของรูปที่ ๗ ลูกศรสีแดงชี้แนวเส้นทางรถราง

ไม่มีความคิดเห็น: