เริ่มเรียนดนตรีเมื่อใดก็จำไม่ได้แล้ว
แต่น่าจะเป็นช่วงเรียน ป.๔
ไม่ก็ ป.๕
เริ่มจากเรียนขับร้องก่อนแล้วจึงค่อยมาเรียนเป่า
recorder
ยังจำได้ว่าตอนเริ่มเรียนดนตรีนั้นเคยมีสมุดโน๊ต
๕ เส้นเอาไว้เขียนโน๊ตเพลง
และเวลาเรียนอาจารย์ก็จะแจกชีทเพลงมาให้ฝึกหัดร้องตามโน๊ต
เพลงที่เคยเรียนก็เป็นมีทั้งเพลงพระราชนิพนธ์
เพลงปลุกใจ (ตามยุคสมัยนั้น)
และเพลงสรรเสริญพระผู้เป็นเจ้า
(เพราะผมเรียนโรงเรียนคาทอลิกก็เลยได้เรียนร้องเพลงแบบนี้ด้วย
โน๊ตก็ยังมีอยู่บางเพลง
แต่จำไม่ได้ว่าร้องอย่างไร)
พอขึ้นชั้นมัธยมจึงสมัครเข้าวงดุริยางค์ของโรงเรียน
ก็ได้หัดเป่าทรัมเป็ตอยู่พักหนึ่ง
อยู่ร่วมวงจนจบขั้นมัธยม
จากนั้นก็ไม่ได้จับทรัมเป็ตอีกเลย
ที่น่าแปลกใจตัวเองก็คือทำไม่ยังอุตส่าห์เก็บชีทเพลงที่เรียนตั้งแต่สมัยเมื่อ
๔๐ ปีเอาไว้อีก
อย่างเช่นโน๊ตเพลงที่เอามาดูในวันนี้น่าจะเป็นสมบัติสมัยเรียน
ป.๔
(ปี
๒๕๑๘)
ไม่ก็
ป.๕
(ปี
๒๕๑๙)
ก็เรียกว่าร่วม
๔๐ ปีมาแล้ว กระดาษโน๊ตก็เหลืองกรอบมาก
ก็เลยถือโอกาสเอามาเขียนใหม่
เพลงแรกคือเพลงชาวดง
โน๊ตต้นฉบับเป็นบันไดเสียง
F
Major ผมเลยเอามาปรับนิดนึงให้เป็นบันได้เสียง
Eb
Major เพื่อยกเสียงโน๊ตตัวลาต่ำขึ้นมาเพื่อให้เป่าฟลุตได้
ประวัติของเพลงนี้ที่ค้นเจอมีผู้ใช้นามชื่อ
punnawatp
2013 เขียนไว้ว่าแต่งโดย
คุณวิมล จงวิไล ในปีพ.ศ.
๒๔๙๘
หรือเมื่อ ๖๐ ปีที่แล้ว
โดยมีคุณทิวา เด่นประภา
เป็นผู้ขับร้องเป็นคนแรก
แต่ที่ผมเห็นว่าแพร่หลายมากที่สุดเห็นจะเป็นเมื่อวงดิอิมพอสซิเบิลนำมาขับร้องใหม่โดยคุณเศรษฐา
ศิระฉายา
อีกเพลงหนึ่งคือเพลงชื่อ
"ชุมนุมลูกเสือไทย"
เพลงที่เป็นท่วงทำนองค่อนข้างเร็ว
นำไปเล่นในระหว่างการเดินแถวก็ได้
เห็นลูกไปเข้าค่ายลูกเสือ-เนตรนารีเดี๋ยวนี้เข้าค่ายก็เพียงแค่แบกถุงนอนไป
ตอนผมยังเด็ก ๆ
ก็ตื่นเต้นที่จะได้นอนเต็นท์กัน
ผ้าเต็นท์เป็นผ้าใบสองผืน
เวลาจะกางก็เอามาต่อกันเพราะมีกระดุมสำหรับกดติดประกบเข้าด้วยกัน
ก่อนจะเอาไปค่ายก็ต้องเอามาเคลือบไขกันน้ำก่อน
ไขที่ใช้ก็เป็นเทียนไข
เริ่มด้วยการเอาเทียนไขไปหลอมในขัน
พอมันหลอมเหลวก็เอาแปรงทาผ้าเต็นต์
เสาไม้กับเชือกขึงก็ต้องเตรียมไปกันเอง
ที่โรงเรียนมีให้ก็คือสมอบก
พอถึงที่กางเต็นท์ก็ต้องเก็บกวาดก้อนหินก่อน
ไม่นั้นมันทิ่มหลังเอา
เลือกที่ที่ไม่มีรังมด
พอกางเต็นท์เรียบร้อยก็จะขุดดินรอบ
ๆ มาโป๊ลงไปบนขอบผ้าเต็นท์ที่อยู่ที่พื้น
ทำเพื่อป้องกันไม่ให้ตัวอะไรมันเลื้อยเข้ามา
และร่องที่ขุดก็ยังหน้าที่เป็นรางระบายน้ำออกไปจากเต็นท์ถ้าหากมีฝนตก
(ซึ่งก็ไม่เคยเจอสักครั้ง)
ส่วนพื้นข้างในก็ปูผ้าพลาสติก
หมอนที่ใช้หนุนนอนก็คือเป้ที่แบกไปนั่นเอง
จะมาสบายหน่อยก็ตอนไปเข้าค่ายรด.
ที่เขาชนไก่
เพราะไม่ต้องแบกเต็นท์ไปเอง
ทางโน้นเขามีอุปกรณ์ให้ครบแล้ว
ได้เดินทางไปเป็นผลัดแรก
ก็เลยได้รับหน้าที่กางเต็นท์กัน
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น