วันเสาร์ที่ 16 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556

การทิ้งระเบิดสะพานรถไฟข้ามแม่น้ำยมที่จังหวัดแพร่ (ก่อนจะเลือนหายไปจากความทรงจำ ตอนที่ ๕๐) MO Memoir : Satruday 16 November 2556

เมื่อสุดสัปดาห์ที่แล้ว (ศุกร์ ๘ - เสาร์ ๙ พฤศจิกายน) มีการจัดงานที่จังหวัดแพร่ในชื่อ "ป๊ะไปแป้ แห่ระเบิด" หรือ "แอ่วเมืองแป้ แห่ระเบิด" (เห็นมีโปสเตอร์อยู่สองแบบ) ส่วนที่ว่าทำไมถึงมีคนถึงเรียกว่า "เมืองแพร่ แห่ระเบิด" ก็เห็นมีคนกล่าวเอาไว้เยอะแล้วในอินเทอร์เน็ต แต่ก็เห็นเป็นข้อความเดียวกัน (คงมีต้นตอมาจากที่เดียว แต่ลอก ๆ กันต่อมาจนไม่รู้ว่าต้นเรื่องนั้นอยู่ที่ไหน) Memoir ฉบับนี้ก็เลยขอเอารูปสมัยสงครามโลกครั้งสองที่ค้นเจอจาก www.fold3.com ซึ่งเป็นภาพเหตุการณ์ที่อาจจะเกี่ยวข้องกับการ "แห่ระเบิด" ที่จังหวัดแพร่มาให้ดูกัน


รูปที่ ๑ โปสเตอร์จัดงาน "ป๊ะไปแป้ แห่ระเบิด" ที่จัดไปเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว

ในช่วงสงครามโลกครั้งที่สอง กองทัพญี่ปุ่นได้เดินทัพผ่านประเทศไทยเพื่อเข้าไปรบในพม่าและมลายู เส้นทางการขนกำลังพลและยุทโธปกรณ์ต่าง ๆ ของกองทัพญี่ปุ่นไปยังพม่านั้นก็ใช้เส้นทางรถไฟตะวันออกและสายเหนือของไทย (ก่อนหน้าที่จะเปิดฉากบุกประเทศไทย กองทัพญี่ปุ่นได้เข้ามาประจำในอินโดจีนฝรั่งเศสหลังเหตุการณ์การสู้รบระหว่างไทยกับฝรั่งเศสซึ่งญี่ปุ่นเข้ามาเป็นคนกลางไกล่เกลี่ย ทำให้กองทัพญี่ปุ่นสามารถใช้เส้นทางรถไฟสายตะวันออกของไทยลำเลียงกำลังพลจากเขมรและเวียดนามผ่านประเทศไทยไปยังพม่า) การเดินทางผ่านประเทศไทยไปยังพม่านั้น นอกจากจะใช้เส้นทางทางภาคใต้แล้ว ก็ยังมีการใช้เส้นทางด้านจังหวัดตาก แม่ฮ่องสอน เชียงใหม่ และเชียงราย การลำเลียงทหารไปทางภาคเหนือนั้นก็จะใช้เส้นทางรถไฟเป็นหลัก (หลังจากนั้นถึงค่อยมาสร้างทางรถไฟเชื่อมผ่านทางกาญจนบุรี)

ในช่วงแรกนั้นกองทัพอังกฤษต้องถอยร่นไปประจำอยู่ในอินเดีย แต่พอกองทัพอังกฤษจะเริ่มการตีโต้กลับก็ต้องหาทางตัดเส้นทางส่งเสบียงของกองทัพญี่ปุ่น วิธีการหนึ่งที่กองทัพอังกฤษ (โดยทัพอากาศสหรัฐอเมริกา) กระทำคือการทำลายเส้นทางรถไฟ เป้าหมายที่เป็นจุดหลักในการทำลายคือชุมทางต่าง ๆ ที่มีโรงซ่อม และสะพานข้ามแม่น้ำ

ใน Memoir ปีที่ ๕ ฉบับที่ ๕๐๒ วันศุกร์ที่ ๗ กันยายน พ.. ๒๕๕๕ เรื่อง "ก่อนจะเลือนหายไปจากความทรงจำ ตอนที่ ๒๔ การทิ้งระเบิดสะพานข้ามแม่น้ำทางรถไฟสายใต้" นั้นได้นำเอาแผนที่เป้าหมายเส้นทางรถไฟที่ทัพอากาศสัมพันธมิตรทำการทิ้งระเบิด และภาพการทิ้งระเบิดสะพานข้ามแม่น้ำที่จังหวัดชุมพร มาให้ดูกัน คราวนี้ก็เลยขอเป็นการทิ้งระเบิดสะพานรถไฟข้ามแม่น้ำของทางรถไฟสายเหนือบ้าง

รูปที่ ๒ สะพานข้ามแม่น้ำยมที่แก่งหลวง ตั้งอยู่ระหว่างสถานีรถไฟแก่งหลวงและที่หยุดรถไฟห้วยแม่ต้า หรืออยู่ระหว่างอำเภอเด่นชัยและอำเภอลอง จังหวัดแพร่

ในช่วงนั้นเหล็กกล้าที่ใช้กันในภูมิภาคบ้านเราจำเป็นต้องนำเข้าจากต่างประเทศ (เช่นจากอังกฤษ) ดังนั้นการโจมตีจึงมักมุ่งไปที่สะพานที่เป็นโครงเหล็ก เพราะสะพานเหล่านี้มักเป็นสะพานขนาดใหญ่ และถ้าประเทศนั้น (เช่นประเทศไทยในขณะนั้น) ไม่มีทรัพยากรแร่เหล็กและอุตสาหกรรมเหล็กกล้าด้วยแล้ว การหาเหล็กกล้ามาซ่อมแซมสะพานคงทำได้ยาก

รูปที่ ๓ ภาพดาวเทียมของสะพานในปัจจุบัน ดูเหมือนว่าเส้นทางรถไฟทางด้านฝั่งเหนือแม่น้ำยมมีการปรับแนวให้เป็นเส้นตรงจากแนวเดิม (เส้นประสีเขียว) "ห้วยแม่ต้า" คือลำน้ำเล็ก ๆ ที่มาบรรจบแม่น้ำยมทางทิศตะวันออกของสะพาน จะเห็นซากตอม่อของสะพานเก่า (ลูกศรสีเหลืองชี้) อยู่ทางด้านตะวันตกของสะพานปัจจุบัน

สะพานรถไฟข้ามแม่น้ำยมที่จังหวัดแพร่ ที่อยู่ระหว่างสถานีรถไฟแก่งหลวงและที่หยุดรถไฟบ้านห้วยแม่ต้า (ถัดไปจากที่หยุดรถห้วยแม่ต้าก็เป็นสถานีรถไฟบ้านปิน) ก็เป็นเป้าหมายหนึ่งของการทิ้งระเบิดของกองทัพอากาศสัมพันธมิตร ทางรถไฟช่วงนี้เป็นทางรถไฟระหว่างอำเภอเด่นชัยและอำเภอลอง จังหวัดแพร่

รูปที่ ๔ รูปสะพานข้ามแม่น้ำยมที่แก่งหลวง ด้านนี้ของภาพใช้คำว่า "Print rec'd 11/30/44" หมายถึงวันที่ ๓๐ พฤศจิกายน ค.. ๑๙๔๔ (.. ๒๔๘๗) แต่ไม่แน่ใจว่าเป็นวันที่ถ่ายภาพหรือเป็นวันที่อัดภาพแผ่นนี้ขึ้นมาใหม่ ที่เห็นดำ ๆ เป็นรูปโครงเหล็กนั้นคือ "เงา" ของสะพาน ไม่ใช่ตัวสะพาน แสดงว่ารูปนี้ถ่ายในตอนบ่าย เพราะเงาทอดไปทางตะวันออก

ไฟล์ต้นฉบับที่ดาวน์โหลดมานั้นเป็นไฟล์ Bitmap ขนาดใหญ่ (ประมาณ 3500 x 4600 pixel) ก็เลยต้องเอามาลดขนาดลงหน่อยและจับภาพวางตะแคง เพื่อความสะดวกในการจัดหน้า ดังนั้นถ้าจะดูบนจอโดยไม่พิมพ์ออกมา ก็ให้ใช้คำสั่งตะแคงรูปเอาเองก็แล้วกัน

รูปที่ ๕ รูปขยายเฉพาะส่วนตัวสะพานในรูปที่ ๔ จะเห็นว่าที่เห็นเป็นรูปโครงเหล็กดำ ๆ นั้นแท้จริงคือ "เงา" ของสะพาน และเมื่อดูจากทิศทางของเงาที่ทอดไปทางตะวันตกค่อนไปทางเหนือ ก็ทำให้เป็นไปได้ว่ารูปนี้น่าจะถ่ายในช่วงปลายปี ซึ่งเป็นช่วงที่ดวงอาทิตย์เดินทางเยื้องไปทางทิศใต้ (ที่เรียกว่า "ตะวันอ้อมข้าว)

รูปที่ ๖ ในกรอบสีแดงด้านหน้าบอกว่า "Print rec'd 7/24/77" หมายถึงวันที่ ๒๔ เดือนกรกฎาคม พ.ศ. ๒๔๘๗ บอกว่าเป็นภาพตีพิมพ์เผยแพร่เพื่อออกข่าว และคงไม่ใช่วันที่ที่ทำการทิ้งระเบิดจริง เพราะบันทึกที่อยู่ด้านหลังภาพนี้ (รูปที่ ๗) มีการลงวันที่ไว้อีกวันหนึ่ง ภาพนี้แสดงการทิ้งระเบิดลงบริเวณคอสะพานฝั่งทิศใต้ของแม่น้ำยม ในรูปนี้จะเห็นเส้นทางรถไฟฝั่งด้านทิศเหนือของแม่น้ำยมมีการคดไปทางซ้ายก่อนที่จะวกกลับมาทางขวาอีกที ซึ่งแตกต่างไปจากภาพปัจจุบันที่แสดงในรูปที่ ๓ ที่เป็นเส้นตรง แสดงว่าเส้นทางฝั่งด้านทิศเหนือนั้นมีการปรับแนวใหม่ จุดสังเกตอีกจุดคือแม่น้ำยมที่เห็นในรูปนี้ก็แห้งกว่าในรูปที่ ๔ สังเกตได้จากการปรากฏของเนินกลางแม่น้ำที่ทอดยาวจากตัวสะพานไปยังฝั่งด้านทิศเหนือ แสดงว่ารูปนี้น่าจะเป็นการถ่ายภาพในหน้าแล้ง ซึ่งวันที่จะไปตรงกับที่มีการระบุไว้ข้างหลังภาพในรูปที่ ๗

รูปที่ ๗ คำบรรยายที่อยู่ทางด้านหลังของรูปที่ ๖ บอกว่าเป็นสะพานแก่งหลวงทางด้านเหนือของประเทศไทย ที่เป็นทางรถไฟยุทธศาสตร์ลำเลียงเสบียงให้กับกองทัพญี่ปุ่นที่อยู่ทางภาคตะวันออกของพม่า (ผ่านทางเชียงใหม่ เชียงราย แม่ฮ่องสอน) ในกรอบแดงระบุวันที่ "31 MAY 1944" หรือ ๓๑ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๔๘๗ ซึ่งเป็นช่วงหน้าแล้ง ทำให้น่าสงสัยว่าวันที่นี้คงเป็นวันที่ทำการถ่ายภาพดังกล่าว การทิ้งระเบิดกระทำโดยเครื่องบิน B-25 Mitchell ของกองทัพอากาศที่ ๑๔ ของสหรัฐ บังคับการโดยนายพล Claire Lee Chennault ฝูงบินนี้เป็นที่รู้จักในนาม "Flying Tiger" นายพล Chennault ผู้นี้เป็นนักบินอาสาสมัครของสหรัฐที่เข้าไปช่วยรัฐบาลเจียงไคเช็คของจีนรบกับญี่ปุ่นตั้งแต่ปีค.ศ. ๑๙๓๗ หรือก่อนที่สงครามระหว่างญี่ปุ่นกับสหรัฐจะเกิดขึ้นถึง ๔ ปี

รูปที่ ๘ ภาพขณะเกิดการระเบิด ระเบิดส่วนใหญ่ตกลงทางด้านตะวันตกของสะพาน รูปนี้จะเห็นรอยระเบิดเก่า (พื้นที่ขาว ๆ) อยู่ทางด้านฝั่งแม่น้ำด้านทิศใต้ทางด้านตะวันตกของทางรถไฟและบริเวณริมห้วยแม่ต้า ซึ่งรอยเหล่านี้ไม่ปรากฏในรูปที่ ๕ และทิศทางของแสงเงาของรูปนี้เหมือนกับในรูปที่ ๓ แสดงว่ารูปที่ ๓ และ ๗ นี้น่าจะถ่ายในวันเดียวกัน ด้านนี้ของรูปบันทึกไว้ว่า "Print rec'd 11/30/44" แต่คงไม่ใช่วันทิ้งระเบิด น่าจะเป็นวันได้รับอนุญาตให้เผยแพร่มากกว่า ส่วนวันทิ้งระเบิดจริงนั้นน่าจะเป็นอีกวันหนึ่งที่บันทึกเอาไว้ด้านหลังของรูป

รูปที่ ๙ ด้านหลังของรูปที่ ๘ กล่าวว่าเครื่องบิน "B-25 Mitchells smash Jap lifeline in Thailand 11/11/44" ดังนั้นวันที่ถ่ายภาพในรูปที่ ๘ นั้นน่าจะเป็นวันที่ ๑๑ พฤศจิกายน พ.. ๒๔๘๗

ถือเสียว่าเราต้อนรับวันก่อนวันลอยกระทงด้วยการนำเรื่องราวเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในเดือนนี้เมื่อ ๖๙ ปีที่แล้วมาเล่าสู่กันฟัง

ไม่มีความคิดเห็น: