เรื่องทำอะไรแปลก
ๆ หรือประหลาด ๆ เพื่อหาเงินช่วยเหลือการกุศล
ผมเห็นครั้งแรกเมื่อไปเรียนที่
Imperial
College เมื่อกว่ายี่สิบปีที่แล้ว
ช่วงที่ผมเรียนอยู่นั้นนิสิตของ
College
เขาก็จัดงานเพื่อหาเงินช่วยเหลือมูลนิธิต่าง
ๆ เป็นประจำทุกปี
ตอนนี้ไม่รู้ว่ายังจัดกันอยู่หรือเปล่า
มหาวิทยาลัยอังกฤษมันก็มีรูปแบบแปลก
ๆ ของมัน
คือรูปแบบที่มันเป็นตัวมหาวิทยาลัยที่มันมีตัวตนชัดเจนแบบที่บ้านเราเป็นมันก็มี
และแบบที่ไม่มีตัวตนชัดเจนมันก็คือ
ที่ผมเรียกว่าไม่มีตัวตนชัดเจนคือแม้ว่าใบปริญญาจะบอกว่าจบจากมหาวิทยาลัยใด
แต่ตอนสมัครเข้าไปเรียนนั้นต้องสมัครไปที่
College
หรือ
School
ต่าง
ๆ ที่สังกัดมหาวิทยาลัยนั้น
มหาวิทยาลัยเช่น Cambridge,
Oxford และ
University
of London ก็เป็นแบบที่ผมอยากเรียนว่าไม่มีตัวตนชัดเจน
University
of London ประกอบด้วย
College
และ
School
หลายแห่งรวมกันเป็น
Univeristy
of London การสมัครเรียนนั้นเราอยากเรียนสาขาวิชาใดก็ต้องไปดูว่ามี
College
หรือ
School
ไหนของ
University
of London เปิดสอนสาขาวิชานั้นบ้าง
(บางสาขาวิชาก็เปิดสอนกันในหลาย
College)
แล้วก็สมัครตรงไปที่
College
หรือ
School
นั้น
Imperial
College ที่ผมไปเรียนก็เป็น
College
หนึ่งของ
University
of London
Imperial
College ยังประกอบด้วย
College
และ
School
ต่าง
ๆ อีกหลาย Shcool
รวมกัน
เช่น City
& Guilds College ก็เป็นส่วนที่สอนทางด้านวิศวกรรมศาสตร์
Royal
College of Science ก็เป็นส่วนที่เน้นการสอนด้านวิทยาศาสตร์
Royal
School of Mines (เหมืองแร่นะ
ไม่ใช่กับระเบิด)
ก็เน้นไปทางด้านธรณีวิทยาและวิศวกรรมที่เกี่ยวข้อง
รวมทั้งวัสดุศาสตร์
ในแต่ละปีนั้นแต่ละ
College,
School และชมรมต่าง
ๆ ของ Imperial
College ก็มีการจัดงานเพื่อหาเงินช่วยเหลือการกุศล
วิธีการหาเงินนั้นมีทั้งรูปแบบการจัดงานที่มีการเก็บค่าเข้าร่วมงาน
ไปจนถึงการรับบริจาคเงินโดยมีสัญญาว่าถ้าเขาสามารถรวบรวมเงินได้ถึงเป้าหมายที่กำหนด
เขาก็จะทำกิจกรรมอะไรบางอย่างขึ้นมา
Felix
เป็นหนังสือพิมพ์ที่จัดทำโดยสโมสรนิสิตของ
College
ที่เขาเรียกว่า
Union
รูปที่
๑ ในหน้าที่ ๒ นั้นเป็นปกหน้าของฉบับที่
๙๗๗ ประจำเดือนตุลาคมปีค.ศ.
๑๙๙๓
(พ.ศ.
๒๕๓๖)
ในใบแทรกของ
Felix
ฉบับนี้จะมีตารางกิจกรรมจัดหาเพื่อหาเงินช่วยเหลือมูลนิธิ
โดยช่วงเวลาที่จัดงานนี้เขาเรียกว่า
Rag
week โดยจัดอยู่ในช่วงต้นเดือนพฤศจิกายน
ส่วนกิจกรรมมีอะไรบ้างนั้นก็ดูรายละเอียดได้ในรูปที่
๒ ในหน้าที่ ๓
ในปี
๑๙๙๓ นั้น งานแรกที่จัดคือ
Beer
Festival สถานที่จัดงานคือ
Junior
Common Room หรือเรียกย่อ
ๆ ว่า JCR
ห้องนี้ก็อยู่ทางเดินฝั่งตรงข้ามภาควิชาที่ผมไปเรียนพอดี
ในงานก็ไม่มีอะไรมากนอกจากขายเบียร์จากหลากหลายผู้ผลิต
(เกือบ
๖๐ ราย)
ให้เลือกดื่มกันตั้งแต่เช้าจนกว่าเบียร์ที่นำมาจะหมด
(เรียกว่าใช้แก้วใบเดียวกินเบียร์ได้ทั้งวัน
ก็ถือว่าเป็นการรักษาสิ่งแวดล้อมด้วยการลดขยะ)
กิจกรรมนี้ฟ้ายังไม่ทันจะมืดเท่าไรเบียร์ก็หมดแล้ว
(ตอนนั้นก็เข้าหน้าหนาวแล้ว
มืดค่อนข้างเร็ว
ที่สำคัญคืออากาศเย็นแล้ว
คงเหมาะแก่การดื่มเบียร์แก้หนาว)
งานนี้เรียกได้ว่าเป็นงานหนึ่งที่สามารถรวบรวมนิสิตจำนวนมากเข้ามาร่วมงานได้
(ที่นั่นเขากินเบียร์กันเป็นเรื่องปรกติ)
รายละเอียดคำโฆษณาเชิญชวนไปร่วมงานนั้นมีอย่างไรบ้างก็ลองอ่านภาพขยายในรูปที่
๓ ดูเอาเองก็แล้วกัน
รูปที่
๑ ปกหน้าของ Felix
ฉบับที่
๙๗๗ เดือนตุลาคมปีค.ศ.
๑๙๙๓
(พ.ศ.
๒๕๓๖)
หรือเมื่อ
๒๑ ปีที่แล้ว
ฉบับเต็มและฉบับย้อนหลังสามารถไปอ่านได้ที่
www.felixonline.co.uk
แล้วไปคลิกต่อที่มุมบนด้านซ้ายตรงคำว่า
Issuse
Archive
งานหนึ่งที่จัดได้ว่าเป็นสีสรรของ
Rag
Week คือ
Mines'
Dirty Disco จัดโดย
Royal
School of Mines ชื่อของงานก็บอกอยู่แล้วว่าเป็นงาน
Disco
แต่เขาจัดภายใต้เงื่อนไขที่ว่า
"The
less you dress, the less you pay" หรือถ้าคุณแต่งน้อยชิ้น
คุณก็จะจ่ายค่าเข้าร่วมงานน้อยลง
สถานที่จัดงานคือบริเวณ
Union
Building
และในช่วงที่ผมเรียนอยู่นั้น
Felix
ก็รายงานว่ามีคนที่ได้เข้าร่วมงานฟรีด้วย
โดยผู้เข้าร่วมงานฟรีนั้นเป็น
"ผู้ชาย"
ที่เข้าร่วมงานด้วยการใส่เพียง
"ถุงเท้าข้างเดียว"
ข่าวไม่ได้ระบุอย่างชัดเจนว่าใส่ตรงไหน
แต่กล่าวเพียงว่า "strategically
placed" (คิดต่อเอาเองก็แล้วกัน)
แผนที่สถานที่ตั้งของ
Imperial
College และบริเวณรอบ
ๆ นั้นผมเอามาแสดงไว้ในรูปที่
๕ College
นี้ผมว่ามีทำเลที่ดีคือใกล้ห้างสรรพสินค้าที่มีชื่อเสียงไปทั่วโลกคือห้าง
Harrods
ตอนที่ผมไปอยู่ปีแรกก็ได้ไปอยู่ที่หอพักของ
College
ที่อยู่ใกล้กับห้าง
Harrods
เรียกว่าแค่เดินพ้นมุมตึกก็ถึงห้างแล้ว
(แต่เข้าไปเดินห้างนี้ไม่กี่ครั้งเอง)
ด้านทิศเหนือของ
College
เป็น
Kensington
Garden ที่มีรูปปั้น
Peter
Pan เพราะสวนนี้เป็นที่มาของนิยายเรื่อง
Peter
Pan และมี
Kensington
palace ที่เป็นที่ประทับของ
Princess
Diana (ในขณะนั้น)
ติด
ๆ กันก็เป็น Hyde
park ที่เป็นสวนสาธารณะกลางกรุงขนาดใหญ่
แถมยังมีสถานฑูตไทยอยู่ที่ถนนฝั่งตรงข้ามด้านทิศตะวันตก
และสำนักงานกพ.
(ที่ทำหน้าที่ดูแลนักเรียนไทยที่ไปเรียนด้วยทุนของรัฐบาลไทย)
อยู่อีกทางฟากหนึ่งทางด้านเหนือ
นอกจากนี้บริเวณรอบข้างยังมีพิพิธภัณฑ์อีกหลายแห่งที่เปิดให้เข้าชมฟรีหรือนิสิตของ
Imperial
College สามารถเข้าชมฟรีด้วยการแสดงบัตรประจำตัว
รูปที่ ๕ แผนที่ลอนดอนย่าน Imperial College และห้าง Harrods ในแผนที่นี้ (1) ห้าง Harrods (2) ตึกภาควิชาที่ผมไปเรียน (3) Junior Common Roon หรือ JCR ที่เป็นสถานที่จัด Beer Festival (4) บริเวณ Union Building สถานที่จัดงาน Mines' Dirty Disco (5) หอพักของทางมหาวิทยาลัยที่ผมได้ไปอาศัยอยู่ในปีแรก (6) สถานฑูตไทย และ (7) สำนักงาน กพ.
และกิจกรรมที่อาจเรียกได้ว่าเป็นสีสันของ
Rag
Week เห็นจะได้แก่การ
"กระโดดร่ม"
ในกิจกรรมที่มีชื่อย่อว่า
S.N.K.P.J.
ที่ย่อมาจากชื่อเต็มว่า
"Sponsored
Nude Kamikaze Parachute Jump" แต่การ
"กระโดดร่ม"
นี้ก็ไม่ได้เป็นการกระโดดจากเครื่องบิน
เป็นเพียงแค่การกระโดดจากท้ายรถตู้จากหน้าห้าง
Harrods
แล้ววิ่งกลับมายัง
College
โดยมีเงื่อนไขว่าใครกลับถึง
College
"ช้าที่สุด"
จะเป็นผู้ชนะ
รูปที่ ๖ รายละเอียดการจัดงาน S.N.K.P.J. ที่ย่อมาจากชื่อเต็มว่า "Sponsored Nude Kamikaze Parachute Jump"
ทั้งนี้มีเงื่อนไขว่าผู้เข้าร่วมแข่งนั้นจะต้อง
"แก้ผ้า"
วิ่งแข่งกันกลับมายัง
College
งานนี้ผู้เข้าร่วมนั้นจะตั้งเป้ารับบริจาคเอาไว้ว่า
ถ้าเขารวบรวมเงินได้ถึงเป้านั้นเขาจะลงมือปฏิบัติตามสัญญา
แล้วเขาทำกันจริงไหม
ก็ลองดูรูปที่ผมนำมาจาก
Felix
ข้างล่างเอาเองก็แล้วกันครับ
รูปที่ ๗ บรรยากาศ "Sponsored Nude Kamikaze Parachute Jump" นำมาจาก Felix ฉบับที่ ๙๑๕ เดือนพฤศจิกายน ค.ศ. ๑๙๙๑ (พ.ศ. ๒๕๓๔) ทางด้านขวามือที่มีรถบัสและรถตู้จอดอยู่คือห้าง Harrods
วันก่อนเพิ่งจะแซวคนที่เพิ่งจะไปเรียนอังกฤษว่า
สมัยที่ผมไปเรียนเมื่อกว่ายี่สิบปีที่แล้วมีคนเขาเปรียบเปรยว่า
"ถ้าชอบบรรยากาศบ้านนอก
ใส่ครุย จิบไวน์ ก็ให้ไปที่
Cambridge
แต่ถ้าชอบแสงสีเมืองหลวง
สวมยีนส์ ดื่มเบียร์ ก็ต้องมา
Imperial
Collge"
ตอนนี้ก็ไม่รู้ว่ายังเป็นอย่างนั้นอยู่หรือเปล่าครับ
เพราะตั้งแต่จบกลับมาเมื่อ
๒๐ ปีที่แล้วก็ไม่ได้กลับไปอีกเลย
นี่แหละครับ
บรรยากาศของสถาบันที่ได้ชื่อว่าเป็นอันดับ
๑ ของยุโรปทางด้านวิศวกรรมศาสตร์
(ในช่วงที่ผมไปเรียน)
และเพิ่งจะได้ชื่อว่าเป็นอันดับ
๒ ร่วมกับ Cambridge
โดยเป็นรองเพียงแค่
MIT
ในปีนี้
เรียนกันหนักมาก ๆ
มันก็มีการทำอะไรที่แผลง
ๆ เป็นการปลดปล่อยบ้างเหมือนกัน
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น