จะว่าไปคนกรุงเทพส่วนใหญ่เวลาเดินทางก็คงอยากถึงที่หมายโดยเร็ว
ควบคู่ไปกับความปลอดภัยในการเดินทาง
ตอนเช้า
ๆ การจราจรจากฝั่งธนมายังฝั่งกรุงเทพโดยใช้สะพานสมเด็จพระปิ่นเกล้า
สะพานพระราม ๘ หรือสะพานกรุงธนบุรีนั้น
ผมว่ายังไม่ค่อยมีปัญหาเท่ากับตอนเย็น
คงเป็นเพราะรถที่มาตามถนนบรมราชชนนีจะแยกกระจายออกไปตามสะพานข้ามแม่น้ำทั้ง
๓ สะพาน
และพอข้ามสะพานไปแล้วก็ยังมีทางแยกให้กระจายตัวออกไปอีก
ตรงนี้แตกต่างจากตอนเย็นที่รถจากถนนเส้นต่าง
ๆ ทางฝั่งกรุงเทพมาบรรจบกันเพื่อแย่งกันขึ้นสะพานทั้ง
๓ นี้
และพอข้ามสะพานไปได้แล้วก็ยังต้องมาบรรจบกันที่ถนนบรมราชชนนีอีก
ทำให้รถติดกันสนุกสนานน่าดูทั้งก่อนข้ามสะพานและหลังข้ามสะพานไปแล้ว
ป้ายในรูปข้างล่างผมเห็นติดเอาไว้ตามแยกต่าง
ๆ ก่อนข้ามสะพานสมเด็จพระปิ่นเกล้าและสะพานพระราม
๘ ก็เป็นเดือนแล้ว
แต่ไม่มีโอกาสถ่ายรูปเอาไว้สักที
เพิ่งจะมีวันนี้ที่มีโอกาสเหมาะ
ๆ ที่รถที่นั่งมานั้นจอดติดไฟแดงคันแรก
ดู ๆ แล้วมันก็ไม่น่ามีอะไร
แต่ที่ผมติดใจคือ
"รถต้องวิ่งด้วยความเร็วเท่าใด"
ผมใช้แผนที่จาก
map.longdo.com
(รูปที่
๒)
วัดระยะทางจากจุดบรรจบระหว่างเส้นที่มาจากสะพานพระราม
๘ และสะพานสมเด็จพระปิ่นเกล้า
ไปจนถึงถนนกาญจนาภิเษกได้ทั้งสิ้น
๙.๒๗
กิโลเมตร ดังนั้นถ้าใช้เวลาเดินทาง
๕ นาที รถจะต้องวิ่งด้วยความเร็วเฉลี่ยไม่น้อยกว่า
๑๑๐
กิโลเมตรต่อชั่วโมง
และถ้านับจากทางเชิงสะพานก็คงต้องใช้ความเร็วไม่ต่ำกว่า
๑๒๐ กิโลเมตรต่อชั่วโมง
จึงจะทำเวลาได้ตามที่ทางเจ้าหน้าที่โฆษณาเอาไว้
แต่กฎกระทรวงฉบับที่
๖ พ.ศ.
๒๕๒๒
ออกตามความในพระราชบัญญัติจราจรทางบกพ.ศ.
๒๕๕๒
กำหนดความเร็วรถยนต์ในเขตกรุงเทพไว้ไม่เกิน
๘๐ กิโลเมตรต่อชั่วโมง
แต่ถ้าเป็นนอกเขตยอมให้ไม่เกิน
๑๐๐ กิโลเมตรต่อชั่วโมง
เพิ่งจะเห็นเจ้าหน้าที่จัดให้มีการซิ่งรถในเขตกรุงเทพมหานครในชั่วโมงเร่งด่วนก็คราวนี้มั้งครับ
:)
:) :)
รูปที่
๒ ระยะทางที่คำนวณจากแผนที่ของ
map.longdo.com
จาก
จุดบรรจบรถที่มาจากสะพานพระปิ่นเกล้า-สะพานพระราม
๘ ไปจนถึงถนนกาญจนาภิเษก
คำนวณระยะทางได้ ๙.๒๗
กิโลเมตร
ถ้าเริ่มนับจากตัวสะพานสมเด็จพระปิ่นเกล้าหรือสะพานพระราม
๘ ก็คงจะไม่พ้น ๑๐ กิโลเมตร
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น