วันอาทิตย์ที่ 10 เมษายน พ.ศ. 2559

ทำได้ แต่คงต้องซิ่งน่าดู MO Memoir : Sunday 10 April 2559

จะว่าไปคนกรุงเทพส่วนใหญ่เวลาเดินทางก็คงอยากถึงที่หมายโดยเร็ว ควบคู่ไปกับความปลอดภัยในการเดินทาง
 
ตอนเช้า ๆ การจราจรจากฝั่งธนมายังฝั่งกรุงเทพโดยใช้สะพานสมเด็จพระปิ่นเกล้า สะพานพระราม ๘ หรือสะพานกรุงธนบุรีนั้น ผมว่ายังไม่ค่อยมีปัญหาเท่ากับตอนเย็น คงเป็นเพราะรถที่มาตามถนนบรมราชชนนีจะแยกกระจายออกไปตามสะพานข้ามแม่น้ำทั้ง ๓ สะพาน และพอข้ามสะพานไปแล้วก็ยังมีทางแยกให้กระจายตัวออกไปอีก ตรงนี้แตกต่างจากตอนเย็นที่รถจากถนนเส้นต่าง ๆ ทางฝั่งกรุงเทพมาบรรจบกันเพื่อแย่งกันขึ้นสะพานทั้ง ๓ นี้ และพอข้ามสะพานไปได้แล้วก็ยังต้องมาบรรจบกันที่ถนนบรมราชชนนีอีก ทำให้รถติดกันสนุกสนานน่าดูทั้งก่อนข้ามสะพานและหลังข้ามสะพานไปแล้ว
 
ป้ายในรูปข้างล่างผมเห็นติดเอาไว้ตามแยกต่าง ๆ ก่อนข้ามสะพานสมเด็จพระปิ่นเกล้าและสะพานพระราม ๘ ก็เป็นเดือนแล้ว แต่ไม่มีโอกาสถ่ายรูปเอาไว้สักที เพิ่งจะมีวันนี้ที่มีโอกาสเหมาะ ๆ ที่รถที่นั่งมานั้นจอดติดไฟแดงคันแรก ดู ๆ แล้วมันก็ไม่น่ามีอะไร แต่ที่ผมติดใจคือ "รถต้องวิ่งด้วยความเร็วเท่าใด"
ผมใช้แผนที่จาก map.longdo.com (รูปที่ ๒) วัดระยะทางจากจุดบรรจบระหว่างเส้นที่มาจากสะพานพระราม ๘ และสะพานสมเด็จพระปิ่นเกล้า ไปจนถึงถนนกาญจนาภิเษกได้ทั้งสิ้น ๙.๒๗ กิโลเมตร ดังนั้นถ้าใช้เวลาเดินทาง ๕ นาที รถจะต้องวิ่งด้วยความเร็วเฉลี่ยไม่น้อยกว่า ๑๑๐ กิโลเมตรต่อชั่วโมง และถ้านับจากทางเชิงสะพานก็คงต้องใช้ความเร็วไม่ต่ำกว่า ๑๒๐ กิโลเมตรต่อชั่วโมง จึงจะทำเวลาได้ตามที่ทางเจ้าหน้าที่โฆษณาเอาไว้
 
แต่กฎกระทรวงฉบับที่ ๖ พ.ศ. ๒๕๒๒ ออกตามความในพระราชบัญญัติจราจรทางบกพ.ศ. ๒๕๕๒ กำหนดความเร็วรถยนต์ในเขตกรุงเทพไว้ไม่เกิน ๘๐ กิโลเมตรต่อชั่วโมง แต่ถ้าเป็นนอกเขตยอมให้ไม่เกิน ๑๐๐ กิโลเมตรต่อชั่วโมง
 
เพิ่งจะเห็นเจ้าหน้าที่จัดให้มีการซิ่งรถในเขตกรุงเทพมหานครในชั่วโมงเร่งด่วนก็คราวนี้มั้งครับ :) :) :)


รูปที่ ๑ ป้ายที่ติดไว้ที่แยกสี่แยกคอกวัว ถ่ายมาเมื่อช่วงสายวันนี้ตอนรถติดไฟแดง

รูปที่ ๒ ระยะทางที่คำนวณจากแผนที่ของ map.longdo.com จาก จุดบรรจบรถที่มาจากสะพานพระปิ่นเกล้า-สะพานพระราม ๘ ไปจนถึงถนนกาญจนาภิเษก คำนวณระยะทางได้ ๙.๒๗ กิโลเมตร ถ้าเริ่มนับจากตัวสะพานสมเด็จพระปิ่นเกล้าหรือสะพานพระราม ๘ ก็คงจะไม่พ้น ๑๐ กิโลเมตร

ไม่มีความคิดเห็น: