วันศุกร์ที่ 23 ตุลาคม พ.ศ. 2558

วันเสาร์ที่ ๒๒ ตุลาคม เวลาสองยาม ๔๕ นาฑี MO Memoir : Friday 23 October 2558

"...... ถึงวันเสาร์ที่ ๒๒ ตุลาคม รัตนโกสินทรศก ๑๒๙ เวลาสองยาม ๔๕ นาฑี เสด็จสวรรค์คต ณ พระที่นั่งอัมพรสถาน พระราชวังสวนดุสิต พระชนมพรรษา ๕๘ เสด็จดำรงศิริราชสมบัติมาได้ ๔๓ พรรษา วันในรัชกาลนับแต่มูลพระบรมราชาภิเศก ๑๕๓๒๐ วัน ......"

ข้อความในย่อหน้าข้างบนคัดมาจากราชกิจจานุเบกษาเล่ม ๒๗ น่า ๑๗๘๒ วันที่ ๓๐ ตุลาคม ร.ศ. ๑๒๙ ที่ประกาศแจ้งการสวรรคตของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว พึงสังเกตนะครับว่าเวลาเสด็จสวรรคตนั้นเป็นเวลา "ผ่านเที่ยงคืนวันเสาร์ที่ ๒๒ ไปแล้ว ๔๕ นาที
  
แต่ในปัจจุบันเราถือว่าวันเสด็จสวรรคตนั้นคือวันที่ ๒๓ ตุลาคม ถ้าเช่นนั้นประกาศดังกล่าวในราชกิจจานุเบกษามันมีอะไรผิดพลาดตรงไหนหรือเปล่า ซึ่งคำตอบก็คือ "ไม่มี" ครับ
 
ตรงจุดนี้ต้องมาทำความเข้าใจเรื่องการนับเวลาการเริ่มวันใหม่ของไทยกันสักหน่อย เดิมทีนั้นเราถือว่าวันใหม่เริ่มตอน ๖ โมงเช้า ไปจนถึงเย็น ผ่านเที่ยงคืน จนกระทั่งถึงเวลา ๖ โมงเช้าอีกครั้งหนึ่งจึงถือว่าเริ่มวันใหม่ มาจนกระทั่งในสมัยรัชกาลที่ ๖ ในวันที่ ๑๖ เดือนกันยายน พ.ศ. ๒๔๖๐ จึงได้มีประกาศนับเวลาในราชการ ทำให้เวลาของการขึ้นวันใหม่จึงกลายเป็นเที่ยงคืน ดังนั้นความหมายของวันที่ ๒๒ ตุลาคม เวลาสองยาม ๔๕ นาทีในอดีต ถ้านับเวลาแบบปัจจุบันจะตรงกับเวลา ๐๐.๔๕ น ของวันที่ ๒๓ ตุลาคม นั่นเอง
 
ต่อมาในวันที่ ๒๑ มีนาคม พ.ศ. ๒๕๖๒ ก็มีพระราชกฤษฎีกาให้ใช้เวลาอัตรา ที่ทำให้การนับเวลาของไทยนำหน้าเวลามาตรฐานกรีนิชอยู่ ๗ ชั่วโมง โดยให้มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ ๑ เมษายน พ.ศ. ๒๔๖๓ เป็นต้นไป (ขณะนั้นไทยขึ้นปีใหม่วันที่ ๑ เมษายนอยู่ ดังนั้นพอพ้นวันที่ ๓๑ มีนาคม ๒๔๖๒ ก็จะเป็นวันที่ ๑ เมษายน ๒๔๖๓)
  
รูปที่ ๑ นิสิตจุฬาลงกรณ์ที่ลานพระรูปทรงม้าเมื่อเช้าวันนี้
 

รูปที่ ๒ ประกาศแจ้งการสวรรคตของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวในราชกิจจานุเบกษา
 
รูปที่ ๓ ประกาศนับเวลาในราชการ ที่เปลี่ยนเวลาขึ้นวันใหม่จากหกโมงเช้าเป็นเที่ยงคืน
  
รูปที่ ๔ พระราชกฤษฎีกาให้ใช้อัตราเวลา ที่ทำให้เวลาเริ่มวันใหม่ของไทยเปลี่ยนจาก ๖ โมงเช้ามาเป็นเที่ยงคืน โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่ ๑ เมษายน พ.ศ. ๒๔๖๓

ไม่มีความคิดเห็น: