การเกิดพายุฝนนั้นจะเริ่มจากการเกิดหย่อมความกดอากาศต่ำก่อน
และเมื่อพายุฝนนั้นเริ่มก่อตัวเป็นพายุหมุนก็จะเรียกว่าพายุดีเปรสชั่น
(depression)
และเมื่อความเร็วลมที่ศูนย์กลางของพายุดีเปรสชั่นนี้สูงถึง
63
กิโลเมตรต่อชั่วโมง
(หรือ
๓๔ นอต)
ก็จะเรียกว่าพายุโซนร้อน
(tropical
storm) และจะมีการกำหนดชื่อเรียกให้กับพายุดังกล่าว
และจะใช้ชื่อดังกล่าวไปจนกว่าพายุนั้นจะสลายตัว
และถ้าพายุโซนร้อนนี้ทวีกำลังแรงขึ้นอีกจนมีความเร็วลมที่ศูนย์กลางตั้งแต่
118
กิโลเมตรต่อชั่วโมง
(หรือ
๖๔ นอต)
ขึ้นไปก็จะจัดให้เป็นพายุไต้ฝุ่น
(typhoon)
เดิมทีนั้นการตั้งชื่อพายุที่เกิดในบริเวณมหาสมุทรแปซิฟิกฝั่งตะวันตกซีกเหนือ
(ระหว่างเส้นแวงที่
100
ถึง
180
องศาตะวันออกและอยู่เหนือเส้นศูนย์สูตร)
จะใช้ชื่อที่กำหนดโดยหน่วยงานของสหรัฐอเมริกา
และชื่อดังกล่าวจะเป็นชื่อ
"ผู้หญิง"
ทั้งหมด
(คือเขามองว่าพายุนั้นเปรียบเสมือนอารมณ์ของผู้หญิง
คือมีความแปรปรวนเอาแน่เอานอนไม่ได้
และคาดเดาไม่ได้)
จนกระทั่งเดือนเมษายนปีค.ศ.
๑๙๗๙
(พ.ศ.
๒๕๒๒)
จึงได้มีการปรับปรุงชื่อใหม่โดยมีการรวมเอาชื่อผู้ชายเข้าไปด้วย
แต่ถึงกระนั้นชื่อทั้งหมดนั้นก็ยังคงเป็นชื่อแบบภาษาอังกฤษอยู่ดี
จนกระทั่งปีค.ศ.
๒๐๐๐
(พ.ศ.
๒๕๔๓)
จึงได้มีการปรับปรุงใหม่อีกครั้ง
โดย ๑๔
ประเทศและดินแดนในย่านแปซิฟิกตะวันตกตอนเหนือได้ทำการตั้งชื่อพายุ
โดยนำรายชื่อประเทศและดินแดนมาเรียงตามลำดับอักษรภาษาอังกฤษ
และให้แต่ละประเทศเสนอชื่อพายุได้ประเทศละ
๑๐ ชื่อ รวมทั้งสิ้น ๑๔๐
ชื่อนำมาจัดหมวดหมู่เป็น
๕ ชุด และจะใช้ชื่อดังกล่าวไล่ตามลำดับไปเรื่อย
ๆ จนครบ ๑๔๐ ชื่อและก็จะกลับมาเริ่มต้นวนใหม่
(รายละเอียดเพิ่มเติมอ่านได้จากลิงค์ตอนท้าย)
ชื่อพายุที่ตั้งขึ้นแล้วนี้สามารถเปลี่ยนแปลงได้ตามกติกาที่มีการกำหนดเอาไว้คือ
"หากพายุลูกใดมีความรุนแรงและสร้างความหายนะมากเป็นพิเศษ
ก็ให้ปลดชื่อพายุลูกนั้นไป
แล้วตั้งชื่อใหม่เข้าไปในรายการชื่อแทน"
ชื่อพายุที่ตั้งโดยประเทศไทยนั้นประกอบด้วย
พระพิรุณ ทุเรียน วิภา
รามสูร เมขลา อัสนี นิดา
ชบา กุหลาบ และขนุน
ในวันที่
๒๖ พฤศจิกายนปีพ.ศ.
๒๕๔๙
(ค.ศ.
๒๐๐๖)
พายุโซนร้อนลูกที่
๒๑ ของปีได้ก่อตัวขึ้นในมหาสมุทรแปซิฟิก
พายุลูกนี้มีเลขรหัสว่า
200321
หรือชื่อ
"ทุเรียน
(Durina)"
ในอีก
๓
วันถัดมาพายุโซนร้อนทุเรียนได้ทวีกำลังแรงเป็นพายุไต้ฝุ่นที่มีความเร็วลมที่ศูนย์กลางสูงสุดถึงประมาณ
๑๙๕
กิโลเมตรต่อชั่วโมงก่อนขึ้นฝั่งทางภาคตะวันออกของประเทศฟิลิปปินส์
ตลอดระยะทางตั้งแต่ก่อนขึ้นฝั่งทางภาคตะวันออกของฟิลิปปินส์ไปจนถึงก่อนโฉบไปบริเวณทางตอนใต้ของแหลมญวน
พายุทุเรียนยังคงกำลังแรงในระดับพายุไต้ฝุ่น
จากนั้นจึงอ่อนกำลังลงเป็นพายุโซนร้อนและพายุดีเปรสชั่นก่อนเคลื่อนตัวเข้าอ่าวไทย
และอ่อนกำลังลงเป็นหย่อมความกดอากาศต่ำกำลังแรงเคลื่อนที่ขึ้นบนทางภาคใต้ของประเทศไทยบริเวณจังหวัดชุมพรและสุราษฎร์ธานี
และข้ามฟากผ่านจังหวัดระนองลงสู่ทะเลอันดามัน
และไปสลายตัวในมหาสมุทรอินเดียก่อนจะถึงฝั่งตะวันออกของประเทศอินเดีย
(ดูรูปที่
๑ และ ๒)
พายุทุเรียนทำความเสียหายอย่างใหญ่หลวง
ทำให้มีผู้เสียชีวิตและสูญหายเกือบสองพันคน
การประชุมที่จัดขึ้นที่กรุงมะนิลาประเทศฟิลิปปินส์ในปีค.ศ.
๒๐๐๖
(พ.ศ.
๒๕๔๙)
จึงได้มีการเสนอให้ถอดถอนชื่อ
"ทุเรียน"
ออกจากรายชื่อพายุตามกติกาที่ได้มีการกำหนดไว้ล่วงหน้า
และประเทศไทยได้มีการเสนอชื่อ
"มังคุด
-
Mangkhut" แทนในการประชุมในเดือนธันวาคมปีค.ศ.
๒๐๐๗
(พ.ศ.
๒๕๕๐)
รูปที่
๑ เส้นทางและการพัฒนาการของพายุทุเรียน
(200621
- Durian) (จาก
www.digital-typhoon.org)
รูปที่
๒
เส้นทางการเดินทางของพายุทุเรียนจากมหาสมุทรแปซิฟิกไปจนถึงชายฝั่งตะวันออกของอินเดีย
(ภาพจาก
http://en.wikipedia.org/wiki/File:Durian_2006_track.png)
ในบรรดารายชื่อพายุทั้งหมด
๑๔๐ ชื่อนั้น กว่าจะวนกลับมาถึงชื่อ
"มังคุด"
อีกครั้งก็ต้องรอเวลาอีก
๗ ปี
และแล้วในวันอังคารที่
๖ สิงหาคมปีพ.ศ..
๒๕๕๖
(ค.ศ.
๒๐๑๓)
พายุดีเปรสชั่นในทะเลจีนใต้ก็ได้ทวีกำลังแรงขึ้นเป็นพายุโชนร้อนลูกที่
๑๐ ของปี และได้รับการขนานนามว่าเป็นพายุเลขที่
201310
ชื่อ
"มังคุด
-
Mangkhut" โดยมีความเร็วลมที่บริเวณศูนย์กลางพายุสูงสุดประมาณ
๗๕ กิโลเมตรต่อชั่วโมง
(หรือประมาณ
๔๐ นอต)
พายุลูกนี้มีอายุสั้นประมาณ
๑
วันก่อนขึ้นฝั่งทางตอนเหนือของประเทศเวียดนามและสลายตัวกลายเป็นหย่อมความกดอากาศต่ำบริเวณทางภาคเหนือของประเทศไทยในวันพฤหัสบดีที่
๘ สิงหาคมพ.ศ.
๒๕๕๖
ที่ผ่านมา (เมื่อวานนี้เอง
-
ดูรูปที่
๓)
รูปที่
3
เส้นทางและการพัฒนาการของพายุมังคุด
(201310
- Mangkhut) (จาก
www.digital-typhoon.org)
ทุเรียนเป็นผลไม้ร้อน
มังคุดเป็นผลไม้เย็น
ทั้งทุเรียนและมังคุดต่างออกสู่ท้องตลาดในเวลาเดียวกัน
ใครกินทุเรียนเยอะ ๆ
ก็จะรู้สึกร้อน
วิธีแก้คือให้กินมังคุดร่วมกับทุเรียน
แต่เวลากินมังคุดเยอะ ๆ
กลับไม่รู้สึกเย็น
ไม่เห็นต้องกินทุเรียนเข้าไปแก้
คนตั้งชื่อพายุคงจะใช้เหตุผลนี้
พอพายุทุเรียนก่อความเสียหายมากต้องการชื่อใหม่
ก็เลยเสนอชื่อมังคุดเข้าไปแทน
นี่ก็ไม่รู้เหมือนกันว่าถ้าหากบังเอิญพายุมังคุดลูกต่อไปในอนาคตก่อความเสียหายรุนแรงจนต้องถูกถอดชื่อออก
จะเสนอผลไม้อะไรเข้าไปแทน
แหล่งที่มาข้อมูล
http://www.digital-typhoon.org
http://en.wikipedia.org/wiki/Tropical_cyclone_naming
http://www.tmd.go.th/info/info.php?FileID=28
http://th.wikipedia.org/wiki/การตั้งชื่อพายุหมุนเขตร้อน
http://en.wikipedia.org/wiki/Typhoon_Durian
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น