วันอาทิตย์ที่ 28 ตุลาคม พ.ศ. 2555

ก่อนจะเลือนหายไปจากความทรงจำ ตอนที่ ๒๘ รถไฟหัตถรรม (เหมืองแร่-ป่าไม้ ในภาคใต้) MO Memoir : Sunday 28 October 2555

ภาคใต้ของประเทศไทยนั้นเคยเป็นแหล่งแร่ดีบุกและวุลแฟรมที่สำคัญ มีการออกใบประทานบัตรให้เอกชนหลายรายเข้ามาขุดแร่มาเป็นเวลานานแล้ว และยังมีการอนุญาตให้เอกชนบางรายทำการวางรางรถไฟ (หรือรถราง) ในการลำเลียงสินแร่ออกจากเหมืองมายังตัวเมืองหรือท่าเรือ เพื่อทำการส่งไปขายต่อไป

ผมไม่ทราบว่าเส้นทางรถไฟหัตถกรรมเหล่านี้มีแผนที่ระบุเส้นทางฉบับสมบูรณ์อยู่ที่ไหน ในราชกิจจานุเบกษาที่อนุญาตให้สร้างและเดินรถไฟนั้นก็ระบุเพียงแค่จุดตั้งต้น (มักจะเป็นเหมืองแร่ที่ได้ประทานบัตร) ไปยังจุดสิ้นสุด โดยที่ไม่มีแผนที่ระบุเส้นทาง ที่พอหาได้คือถ้าหากเส้นทางรถไฟเหล่านั้นโฉบผ่านเข้าไปในตัวเมือง จะเป็นตำบลหรืออำเภอก็ดี เวลาที่มีการประกาศตั้งสุขาภิบาลหรือเทศบาล ก็จะมีเส้นทางรถไฟเหล่านั้นปรากฏในแผนที่ แม้ว่าจะเป็นเพียงส่วนหนึ่งของเส้นทางแต่ก็ยังนับว่าดีกว่าการไม่มีหลักฐานใด ๆ แสดงว่าเส้นทางที่ได้รับอนุญาตนั้นมีการก่อสร้างจริง

รูปที่ ๑ นำมาจากแผนที่แนบท้ายประกาศกระทรวงมหาดไทยเรื่อง จัดตั้งสุขาภิบาลท่านา อำเภอกะปง จังหวัดพังงา ราชกิจจานุเบกษา เล่ม ๗๓ ตอนที่ ๗๕ วันที่ ๒๐ กันยายน พ.ศ. ๒๔๙๙ ฉบับพิเศษ หน้า ๘๐ แสดงเส้นทางรถรางของบริษัทเรือขุดแร่จุติ จำกัด ที่วางรางผ่านเขตสุขาภิบาลท่านา และที่ตั้งสำนักงานบริษัทเรือขุดแร่จุติ จำกัด

ส่วนรูปที่ ๒ นำมาจากแจ้งความกรมรถไฟหลวง เรื่องสร้างและเดิรรถไฟหัตถกรรม ราชกิจจานุเบกษา เล่ม ๔๕ หน้า ๑๓๑๖ วันที่ ๒๒ กรกฎาคม พ.ศ. ๒๔๗๑ ที่อนุญาตให้บริษัทราดตรุดเบซินทินเดร็ดยิงโนไลเอบิลลิตี้ ทำการสร้างและเดินรถไฟจากปากคลองสิชลไปยังเหมืองแร่ของบริษัทที่อยู่ห่างไป ๒๕ กิโลเมตร

ผมสงสัยว่าเส้นทางรถไฟดังกล่าวคือเส้นทางที่ระบุว่าเป็น "รถรางของกรมโลหกิจ" ที่มีจุดตั้งต้นบริเวณปากน้ำสิชลที่ปรากฏในแผนที่แนบท้ายประกาศกระทรวงมหาดไทยเรื่อง จัดตั้งสุขาภิบาลสิชล อำเภอสิชล จังหวัดนครศรีธรรมราช ราชกิจจานุเบกษา เล่ม ๗๓ ตอนที่ ๔๕ วันที่ ๓๐ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๔๙๙ ฉบับพิเศษ หน้า ๘๑ (ดูรูปที่ ๓)

เส้นทางรถไฟอีกเส้นทางหนึ่งที่ค้นเจอคือเส้นทางรถไฟบรรทุกไม้ในเขตอำเภอบ้านนาสาร จังหวัดสุราษฎร์ธานี เส้นทางดังกล่าวปรากฏในแผนที่แนบท้ายกฎกระทรวง ฉบับที่ ๒๗ พ.ศ. ๒๕๐๗ เรื่องประกาศเขตแนวป่าสงวน ประกาศในราชกิจจานุเบกษาเล่ม ๘๑ ตอนที่ ๑๒๖ วันที่ ๓๑ ธันวาคม ๒๗๐๗ ฉบับพิเศษ หน้า ๖๖ เส้นทางดังกล่าวมีปลายทางด้านหนึ่งอยู่บริเวณเขาตังกวน และปลายทางอีกด้านหนึ่งมุ่งไปยังเส้นทางรถไฟสายใต้ที่สถานีห้วยมุด

ในหนังสือ The Railway Atlas of Thailand, Laos and Cambodia โดย B.R. Whyte หน้า ๔๔ กล่าวว่า ที่สถานีรถไฟห้วยมุดมีรถไฟรางเล็ก (narrow gauge - ในที่นี้คือทางรถไฟที่มีขนาดรางกว้างน้อยกว่า 1 เมตร รางรถไฟของเส้นทางสายใต้ตั้งแต่เริ่มต้นใช้ขนาดรางกว้าง 1 เมตร) อยู่ ๒ เส้นทางเพื่อใช้ในการขนไม้ เส้นทางแรกนั้นเริ่มจากทิศใต้ของสถานีวิ่งไปทางทิศตะวันตกเฉียงใต้ เป็นระยะทางประมาณ ๕ กิโลเมตร และในสมัยหนึ่งเคยมีเส้นทางสั้น ๆ ยาวประมาณ ๑ กิโลเมตรไปสิ้นสุดที่เหมืองแร่ห้วยคุ้ม

รูปที่ ๑ แผนที่แนบท้ายประกาศกระทรวงมหาดไทยเรื่อง จัดตั้งสุขาภิบาลท่านา อำเภอกะปง จังหวัดพังงา ราชกิจจานุเบกษา เล่ม ๗๓ ตอนที่ ๗๕ วันที่ ๒๐ กันยายน พ.ศ. ๒๔๙๙ ฉบับพิเศษ หน้า ๘๐

รูปที่ ๒ แจ้งความกรมรถไฟหลวง เรื่องสร้างและเดิรรถไฟหัตถกรรม ราชกิจจานุเบกษา เล่ม ๔๕ หน้า ๑๓๑๖ วันที่ ๒๒ กรกฎาคม พ.ศ. ๒๔๗๑

อีกเส้นทางหนึ่งนั้นเริ่มจากทางด้านทิศเหนือของสถานี ก่อนมุ่งหน้าไปทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือ ไปสิ้นสุดที่เขาตังกวน ระยะทางยาวประมาณ ๑๑ กิโลเมตร เส้นทางรถไฟสายนี้คือเส้นทางที่ปรากฏในแผนที่ในรูปที่ ๔ เส้นทางรถไฟเหล่านี้เป็นเส้นทางสำหรับนำไม้มาทำเป็นไม้หมอนและไม้ฟืนสำหรับรถไฟ โดยเดิมมีโรงเลื่อยไม้อยู่ที่บริเวณสถานีห้วยมุด ขนาดความกว้างของรางที่รายงานไว้คือ ๖๐๐ มิลลิเมตร

ประวัติศาสตร์เกี่ยวกับรถไฟเป็นเรื่องที่น่าสนใจเรื่องหนึ่ง การทำความเข้าใจประวัติศาสตร์รถไฟจำเป็นต้องเรียนรู้สภาพการเมือง สังคม และเศรษฐกิจ ในช่วงเวลานั้นด้วย เอาไว้จะค่อย ๆ เอาเรื่องเหล่านี้มาเล่าสู่กันฟัง

รูปที่ ๓ ประกาศกระทรวงมหาดไทยเรื่อง จัดตั้งสุขาภิบาลสิชล อำเภอสิชล จังหวัดนครศรีธรรมราช ราชกิจจานุเบกษา เล่ม ๗๓ ตอนที่ ๔๕ วันที่ ๓๐ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๔๙๙ ฉบับพิเศษ หน้า ๘๑ (รูปนี้ผมพลิกมันให้อยู่ในความยาวหน้ากระดาษเพื่อให้ได้รูปใหญ่ขึ้น)

รูปที่ ๔ แผนที่แนบท้ายกฎกระทรวง ฉบับที่ ๒๗ พ.ศ. ๒๕๐๗ ประกาศในราชกิจจานุเบกษาเล่ม ๘๑ ตอนที่ ๑๒๖ วันที่ ๓๑ ธันวาคม ๒๗๐๗ ฉบับพิเศษ หน้า ๖๖ ปรากฏเส้นทางรถไฟบรรทุกไม้จากเขาตังกวนไปยังทางรถไฟสายใต้ในเขตอำเภอบ้านนาสาร (ในวงแดง)