งานบางอย่างนั้นสามารถกระทำได้หลายวิธี
บางวิธีการนั้นถือได้ว่าเป็นวิธีปฏิบัติมาตรฐานที่ควรนำมาใช้ปฏิบัติในสภาพการทำงานตามปรกติ
แต่บางวิธีการนั้นก็จัดว่าเป็นวิธีการเฉพาะ
หรือเป็นเทคนิคการแก้ปัญหาเฉพาะหน้าที่แนะนำให้ใช้เฉพาะในกรณีจำเป็น
เร่งด่วน หรือสภาพแวดล้อมบังคับ
เท่านั้น และไม่แนะนำให้กระทำเป็นประจำ
แก๊สที่เราซื้อมานั้น
(ที่ส่งมาเป็นท่อแก๊สหรือถังแก๊ส)
จะปิดวาล์วหัวถังมาค่อนข้างจะแน่น
ทั้งนี้อาจเป็นเพราะเขาต้องการความมั่นใจว่าจะไม่เกิดการรั่วไหล
หรือป้องกันการหมุนเล่นโดยบังเอิญ
วาล์วหัวถังแก๊สที่มาแบบนี้บางทีใช้มือเปล่าหมุนก็หมุนไม่ได้
ต้องใช้อุปกรณ์พวก wheel
key ช่วย
(ดู
Memoir
ปีที่
๓ ฉบับที่ ๓๒๑ วันพุธที่ ๒๒
มิถุนายน พ.ศ.
๒๕๕๔
เรื่อง "การทำวิทยานิพนธ์ภาคปฏิบัติ ตอนที่ ๒๓ การเปิดวาล์วหัวถังแก๊สที่ปิดแน่น")
รูปที่
๑ การเคาะวาล์ว
ผมใช้นอตตัวใหญ่วางเข้าไปที่มุมที่เหมาะสม
และเคาะด้านหัวนอต (ลูกศรเขียว)
เบา
ๆ ด้วยประแจ ในรูปเป็นถังเปล่าที่เปลี่ยนออกมา
เอามาใช้สำหรับถ่ายรูปประกอบ
เช้าวันวานแก๊สหุงต้มที่บ้านหมดระหว่างแม่บ้านทำกับข้าว
ผมก็เลขต้องไปเอาถังใหม่ที่มีสำรองเอาไว้มาเปลี่ยน
การเปลี่ยนถังมันก็ไม่ยากอะไร
แต่พบว่าที่ยากที่สุดคือตอนเปิดหัวถังแก๊ส
พบว่าวาล์วมันปิดแน่นมากจนไม่สามารถใช้มือเปล่าหมุนได้
ลองไปค้นประแจกับคีมล็อคที่มีอยู่ประจำบ้าน
ก็พบว่ามีแต่ขนาดเล็ก
ไม่สามารถจับล้อหมุนของตัววาล์วได้
แถมที่บ้านก็ไม่มีประแจคอม้าด้วย
ระหว่างที่ยังคิดไม่ออกว่าจะทำยังไงดี
คุณพ่อของผมท่านก็แนะนำว่าสงสัยต้องลอง
"เคาะ"
เอา
ผมก็เลยไปหานอตตัวผู้ตัวใหญ่มาได้ตัวหนึ่ง
จัดวางมุมให้ดี กะว่าพอตอกไปที่นอต
ตัวนอตก็จะดันให้ล้อหมุนของวาล์วหมุนในทิศทางที่ทำให้วาล์วเปิด
(ดูรูปที่
๑)
จากนั้นก็ใช้ประแจตอกไปที่หัวนอต
(ตามทิศทางลูกศรสีเขียวในรูป
แต่อย่าตอกแรงเกินไปนะ)
ทำให้ล้อหมุนนั้นขยับตัวเล็กน้อย
เมื่อลองหมุนวาล์วดูก็พบว่าสามารถหมุนเปิด-ปิดได้โดยไม่ติดขัด
พูดถึงเรื่อง
wheel
key แล้วทำให้นึกถึงเดือนมกราคม
๒๕๕๕ ที่ต้องไปทำหน้าที่ตรวจรับครุภัณฑ์ของมหาวิทยาลัยที่ศูนย์
จ.
สระบุรี
ครุภัณฑ์ที่ไปตรวจรับนั้นเป็นหม้อความดันสำหรับอบไอน้ำชิ้นงานขนาดใหญ่
(ตัวที่เอารูปมาลงใน
Memoir
ปีที่
๕ ฉบับที่ ๔๘๖ วันพุธที่ ๑
สิงหาคม พ.ศ.
๒๕๕๕
เรื่อง "การเผื่อการขยายตัวของ
vessel
ในแนวนอนการเผื่อการขยายตัวของ vessel วางตัวในแนวนอน"
ซึ่งตอนนั้นเอารูปด้านข้างมาให้ดู)
เวลาจะบรรจุของนั้นก็จะเปิดฝาหม้อทั้งฝาออกมา
และเมื่อบรรจุเสร็จแล้วก็จะทำการปิดฝาหม้อและหมุนล้อเพื่อปิดฝาให้แน่น
รูปที่
๒ (บน)
ส่วนหัวของ
wheel
key ที่ใช้หมุนล้อวาล์ว
(ล่าง)
เจ้าหน้าที่ใช้
wheel
key ช่วยในการขันล้อให้แน่นขึ้นไปอีก
เวลาจะขันปิดฝาให้แน่นเจ้าหน้าที่จะใช้
wheel
key ช่วย
ตัวที่เขาใช้นั้นยาวประมาณ
1.7
เมตร
(เวลาเอามันตั้งขึ้นมันสูงกว่าผมเล็กน้อย)
การใช้
wheel
key
ขันร่วมนั้นนอกจากจะทำให้ปิดได้แน่นแล้วยังป้องกันไม่ให้ใครก็ตามที่เดินผ่านมาสามารถเปิดฝาหม้ออบความดันใบนั้นด้วยมือเปล่าได้
(เว้นแต่ว่าจะเป็นพวกมีแรงมากเป็นพิเศษ)
ฝาหม้อใบนี้เป็นระบบล็อคสองชั้น
โดยชั้นแรกจะเป็นเพียงแค่ให้ฝาหม้อเผยอได้เล็กน้อยเท่านั้น
ต้องปลดตัวล็อกชั้นที่สองก่อนจึงจะเปิดฝาออกกว้างได้
ที่เขาออกแบบไว้เช่นนี้ก็เพราะถ้าหากมีการเผลอเปิดฝาหม้อในขณะที่มีความดันอยู่
ฝาหม้อจะไม่เหวี่ยงหมุนออกทันที
ซึ่งสามารถทำให้ผู้ที่ยืนอยู่ในรัศมีการหมุนดังกล่าวบาดเจ็บหรือเสียชีวิตได้
แต่จะทำให้ผู้ปฏิบัติงานรู้ว่าได้เปิดฝาหม้อที่มีความดันค้างอยู่ข้างใน
การเคาะเพื่อคลายเกลียวที่ติดแน่นนี้เคยเห็นช่างบางรายใช้ในการถอดนอตตัวเมียที่ติดแน่นเหมือนกัน
โดยจะเลือกใช้ "สกรูไร"
(หรือ
"สกรูไล")
ชนิดปลายแบนและตัวเป็นแกนเหล็กยาวไปจนโผล่อีกทางด้านหนึ่งของด้ามจับ
วางปลาย "สกรูไร"
ที่หัวนอตตัวเมีย
กะแนววางสกรูไรให้แรงกระแทกจากการตอกสกรูไรอยู่ในแนวเส้นสัมผัสทิศทางการหมุนคลายหัวนอตตัวเมีย
จากนั้นจึงตอกที่ปลายอีกข้างหนึ่งของสกรูไร
เขียนมาถึงตรงนี้ไม่รู้ว่าคนอ่านรู้จักหรือเปล่าว่าสกรูไรคืออะไร
ศัพท์คำนี้เป็นภาษาช่างที่บางคนใช้เรียนก
"ไขควง"
นั่นเอง