หลังผ่านไป
๓ สัปดาห์ (จากวันเสาร์ที่
๑๗ กุมภาพันธ์ที่ถ่ายรูปไว้ครั้งแรก)
ในที่สุดก็มีลูกนกโผล่หน้ามาทักทาย
ตอนแรกก็กังวลอยู่เหมือนกัน
ว่าแม่นกจะเป็นอะไรหรือเปล่า
เพราะช่วงปลายสัปดาห์ที่ผ่านมา
ฝนชะช่อมะม่วงตกแรงเหลือเกิน
ยังดีที่ไม่มีลมกรรโชกแรงตามมาด้วย
ไม่รู้เหมือนกันว่าแม่นกออกไปหาอะไรกินตอนไหน
หรือมีใครเอาอะไรมาให้กินหรือเปล่า
เพราะตอนกลางวันก็เห็นมีแต่กางเขนเข้ามาแวะเวียน
และกระรอกมาวิ่งกระโดดผ่านไปมา
ยังดีที่ปีนี้ไม่มีเขียวหางไหม้โผล่มาให้เห็น
เพราะหลายครั้งแรกที่พบเจอตรงแถวนี้
ต้นแก้วต้นนี้ตั้งอยู่ใกล้กับประตูกระจกที่ตั้งคอมพิวเตอร์
จากเก้าอี้ที่นั่งพิมพ์
Memoir
ฉบับนี้ก็สามรถหันหลังไปมองแม่นกกับลูกนกได้
ระหว่ารอน้ำร้อนเดือดเพื่อชงกาแฟก็เลยถือโอกาสถ่ายภาพและพิมพ์
Memoir
นี้เก็บไว้เป็นที่ระลึกหน่อย
ถือว่าเป็นบันทึกเรื่องราวไม่มีสาระในช่วงบ่ายวันอาทิตย์ที่แดดไม่แรงและลมพัดเบา
ๆ ก็แล้วกัน
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น