ถ้าเรามัวแต่คิดว่าเวลามีอะไรเสียก็ทำเพียงแค่แต่ซ่อมให้เหมือนเดิม
เพราะเงินค่าซ่อมไม่ใช่เงินของตัวเอง
(หรือคิดว่าตัวเองมีเงินเยอะ)
มันก็ไม่แปลกที่จะพบแต่การซ่อมแซมสิ่งเดิมแบบไม่รู้จบ
ถ้าหากไม่เคยคิดหาข้อเท็จจริงว่าทำไมมันถึงเสีย
เพราะในหลายกรณีที่เคยประสบพบว่าความเสียหายนั้นมันเกิดจากการใช้งานที่ผิดพลาดหรือไม่ก็การออกแบบที่ผิดพลาด
ซึ่งถ้าไม่มีการแก้ไขวิธีการทำงานหรือแก้ไขแบบ
มันก็ไม่แปลกที่มันจะเกิดความเสียหายแบบเดิม
ๆ อีก
ตอนเพิ่งจะเริ่มงานใหม่
ๆ ก็ได้ยินปัญหาขดลวดหม้อแปลง
variac
ไหม้เป็นประจำ
ทำให้ต้องมีการส่งไปซ่อมอยู่เสมอ
พอลงไปตรวจสอบก็พบว่าเกิดจากการใช้ขดลวดความร้อนที่สั้นเกินไป
ทำให้ความต้านทานด้านขาออกต่ำ
พอเพิ่มความต่างศักย์ให้สูงขึ้น
กระแสด้านขาออกเลยสูงเกินขีดจำกัด
ขดลวดหม้อแปลงก็เลยไหม้
พอให้แก้ไขด้วยการใช้ขดลวดความร้อนที่ถูกขนาด
(ไม่ตัดสั้น)
และติดตั้งฟิวส์ป้องกัน
variac
ปัญหาดังกล่าวก็หมดไป
ตอนที่ได้ยินว่าทางมหาวิทยาลัยจะทำการก่อสร้างหลังคาให้กับทางเดินเท้าจากอาคารจอดรถแห่งแรกที่สร้างขึ้นมายังโรงเรียนประถม
ก็รู้สึกดีใจ
เพราะทางเดินทางด้านนั้นมันไม่มีที่ให้หลบแดดหลบฝนเอาเสียเลย
แต่พอเห็นเขาสร้างเสร็จแล้วก็นึกสงสัยอยู่ในใจว่ามันจะอยู่ได้นานเท่าใด
และก็เป็นเช่นนั้นจริง ๆ
เพราะเพียงแค่เจอกับฤดูฝนปีแรก
ฝ้าเพดานก็ไปเสียแล้ว
จะว่าไปก็ยังไม่เคยเห็นฝ้าเพดานที่ไหนที่ออกแบบมาทนน้ำ
แม้แต่ฝ้าเพดานในอาคารที่มีท่อระบายน้ำจากชั้นบนอยู่ระหว่างฝ้ากับเพดาน
เจอน้ำหยดใส่ไม่เท่าไรก็ออกอาการให้เห็น
ยิ่งเป็นฝ้าเพดานใต้หลังคาหรือที่เป็นชายคายื่นออกมานอกอาคาร
ยิ่งต้องคำนึงถึงเรื่องฝนสาด
รูปที่
๒ ถ่ายไว้เมื่อวันพฤหัสบดีที่
๑ สิงหาคม ๒๕๕๖ เช่นกัน
รูปที่
๓ ถ่ายไว้เมื่อวันพฤหัสบดีที่
๑ สิงหาคม ๒๕๕๖ เช่นกัน
ทางเดินช่วงนี้ใช้ที่นั่งชั้นบนสุดของอัฒจันทร์ด้านตะวันออกของสนามกีฬามาทำเป็นทางเดินเชื่อมจากชั้นสองของอาคารจอดรถที่อยู่ทางด้านทิศใต้ของสนามกีฬา
กั้นเป็นทางเดินมีหลังคาไปจนสุดทางด้านทิศเหนือของสนามกีฬาเพื่อเชื่อมต่อเข้ากับอาคารสนามกีฬาในร่มที่อยู่ทางด้านทิศเหนือ
ปรกติสนามฟุตบอลก็จะวางตัวตามแนวเหนือ-ใต้
(แดดจะได้ไม่ส่องเข้าหน้าผู้รักษาประตู)
หลังคาทางเดินก็ทำเป็นทรงเพิงหมาแหงนเชิดขึ้นไปทางทิศตะวันตก
ฝนมรสุมบ้านเราจะเคลื่อนตัวจากทางทิศตะวันตกไปตะวันออก
(แตกต่างจากฝนจากพายุที่เข้ามาทางทะเลจีนใต้ที่เคลื่อนตัวจากทางทิศตะวันออกไปทางตะวันตก)
หลังคาทางเดินนี้เนื่องจากอยู่โดดเด่นบนโครงสร้างที่สูงโดยไม่มีอะไรบังลม
แถมเชิดหน้าขึ้นรับลมฝนที่มาจากทางตะวันตกอีก
ผลก็คือเวลาที่เกิดฝนฟ้าคะนอง
น้ำฝนจะไหลซึมมาเปียกฝ้าใต้หลังคาเป็นประจำ
เจอแบบนี้บ่อยครั้งเข้า
ฝ้าเพดานก็ผุพัง
(ที่ถ่ายรูปมาให้ดูนี่ไม่เท่าไรนะครับ
มันเคยมีมากกว่านี้อีก)
พอพังทีก็มีการปิดทางเดินซ่อมแซมที
พอเจอฝนอีกทีมันก็พังอีกเหมือนเดิม
ซ่อมครั้งสุดท้ายนี่ไม่แน่ใจว่าเป็นครั้งที่สองหรือสาม
แต่มันก็อยู่ได้ไม่นาน
พอฝนฤดูกาลใหม่มา มันก็พังเหมือนเดิม
ทางเดินนี้มันสร้างเป็นที่แรกก่อนจะมีการสร้างทางเดินไปทั่วมหาวิทยาลัย
ที่แปลกใจก็คือคนออกแบบไม่รู้หรือไงว่าฝ้าแบบนี้มันไม่ทนน้ำ
พอเอาฝ้าแบบนี้ไปใช้กับทางเดินในส่วนอื่นของมหาวิทยาลัย
ก็เลยเกิดความเสียหายแบบเดียวกันนี้อีก
มีอยู่ที่หนึ่งเห็นเปิดออกมาทั้งแผ่น
และเชื่อว่าเหตุการณ์ทำนองนี้คงเกิดซ้ำไปเรื่อย
ๆ
แต่ครั้นจะไม่ทำฝ้าก็คงเกรงว่าจะดูไม่สวยงาม
(โคมดาวน์ไลท์มันต้องฝังอยู่ในฝ้า
และพอมีฝ้าแล้วก็ยังไม่ต้องกังวลเรื่องการเดินสายไฟไม่เรียบร้อยให้เห็นด้วย)
หรือไม่ก็จะมีนกมาอาศัยโครงหลังคาเป็นที่ทำรัง
วันนี้ก็ไม่มีอะไร
แค่เอาภาพถ่ายที่บันทึกเอาไว้ห่างกัน
๓ ปีมาให้ชมกันเล่นแค่นั้นเอง
:)
:) :)
รูปที่
๔ ถ่ายไว้เมื่อวันศุกร์ที่
๕ สิงหาคม ๒๕๕๖
รูปที่
๕ ถ่ายไว้เมื่อวันศุกร์ที่
๕ สิงหาคม ๒๕๕๖ เช่นกัน
รูปที่
๖ ถ่ายไว้เมื่อวันศุกร์ที่
๕ สิงหาคม ๒๕๕๖ เช่นกัน
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น