กลับมาทำงานใหม่
ๆ เมื่อ ๒๐
ปีที่แล้วก็ยังมีโอกาสได้ไปเยี่ยมอาจารย์คณะวิทยาศาสตร์
ภาควิชาเคมี ที่ทำงานที่อาคารนั้นอยู่
จากนั้นก็ดูเหมือนว่าจะไม่ได้เดินเข้าไปข้างในอาคารนั้นอีกเลยแม้ว่าทางมหาวิทยาลัยจะปรับเปลี่ยนอาคารดังกล่าวให้กลายเป็นพิพิธภัณฑ์มหาวิทยาลัยที่เปิดให้คนทั่วไปเข้าชมได้มาระยะหนึ่งแล้ว
เพิ่งจะมีโอกาสเมื่อวานที่ได้เข้าไปเยี่ยมชมอาคารที่เคยเรียนแลปเคมีปี
๑ (อาคารเคมี
๑ เดิม ปัจจุบันกลายเป็นอาคารศิลปวัฒนธรรม)
และอาคารพิพิธภัณฑ์มหาวิทยาลัยหลังนี้
(อาคารเคมี
๓ เดิม รูปที่ ๑)
และดูเหมือนว่าช่วงเช้าที่ผมไปเดินนั้นจะมีผมเพียงคนเดียวที่เป็นผู้เข้าเยี่ยมชมนิทรรศการในอาคารดังกล่าว
จำได้ว่าตอนที่มาเป็นนิสิตใหม่ที่นี้ในปีการศึกษา
๒๕๒๗ ยังไม่มีสะพานลอยข้ามถนน
ถ้าจะข้ามถนนก็ต้องไปใช้อุโมงค์ตรงประตูคณะวิทยาศาสตร์หรือไม่ก็ต้องไปกดสัญญาณไฟให้รถหยุดตรงทางข้ามถนนหน้าประตูใหญ่
มาบุญครองก็ยังอยู่ระหว่างการก่อสร้าง
มหาวิทยาลัยเองก็ปิดประตูทุกด้านตอน
๓ ทุ่ม
พอขึ้นปีที่
๒ ก็มีโอกาสได้ใช้สะพานลอยข้ามถนนที่สร้างขึ้นมาใหม่
ตอนนั้นสะพานลอยมีหน้าตาเป็นยังไงก็จำไม่ได้แล้ว
บังเอิญเมื่อวานได้ไปเห็นรูปถ่ายในงานแสดงประวัติของมหาวิทยาลัย
มีภาพถ่ายภาพหนึ่งระบุว่าเป็นสะพานลอยข้ามถนนพญาไท
(รูปที่
๒)
รูปที่
๑ จากตึกที่เคยเป็นห้องปฏิบัติการเคมี
๓ กลายมาเป็นพิพิธภัณฑ์มหาวิทยาลัยในปัจจุบัน
รูปนี้ถ่ายจากด้านทิศตะวันตกมองไปทางทิศตะวันออก
รูปที่
๒ รูปที่ถ่ายมาจากส่วนแสดงในพิพิธภัณฑ์มหาวิทยาลัย
แต่ผมคิดว่าภาพถนนเส้นนี้ผมเห็นว่าไม่ใช่ถนนพญาไท
ตอนแรกผมก็คิดว่าเป็นรูปของสะพานลอยหน้ามหาวิทยาลัย
แต่พอสังเกตดูใหม่อีกทีสงสัยว่าไม่น่าจะใช่ด้วยเหตุผลบางประการคือ
๑.
ป้ายโฆษณาบนสะพานลอยที่เขียนว่า
"ดัสสันพิชิตซาฟารี"
แต่รถยี่ห้อ
"ดัสสัน
-
DATSAN" เปลี่ยนชื่อใหม่เป็น
"นิสสัน
-
NISSAN) ไปก่อนหน้านั้นเป็นปีแล้ว
(ที่ค้นจากอินเทอร์เน็ตดู
ดูเหมือนว่าจะเป็นช่วงพ.ศ.
๒๕๒๖
หรือก่อนหน้านั้น)
ดังนั้นรูปนี้ต้องถ่ายก่อนที่จะมีการสร้างสะพานลอยที่ถนนพญาไท
๒.
ความกว้างของถนนที่ดูแคบ
ที่กว้างเพียงแค่สองช่องจราจร
(ลูกศรสีเหลืองที่แสดงไว้ท้ายรถเมล์)
ที่จำได้ก็คือตอนที่มาเรียนที่นี่ถนนพญาไทก็มีเกาะกลางถนนอยู่แล้ว
(แบบปัจจุบัน)
คือแบ่งครึ่งถนนให้รถวิ่งสวนทางกัน
แต่ในภาพที่แสดงนั้นเกาะกลางที่เห็นมันไม่ใช่เกาะกลางถนนที่แบ่งครึ่งถนน
มันเป็นเกาะกลางแบบที่แบ่งถนนเป็นฝั่งนอกฝั่งใน
ในสมัยนั้นเท่าที่จำได้ถนนที่มีลักษณะแบบนี้ได้แก่ถนนศรีอยุธยา
(ช่วงจากทางรถไฟไปจนถึงถนนราชปรารถ)
หรือถนนพระราม
๖ แถวหน้าโรงพยาบาลรามาธิบดี
(ก่อนที่จะมีการสร้างทางด่วน)
ซึ่งรูปแบบถนนดังกล่าวตอนนี้เห็นจะเหลือเพียงแค่ถนนศรีอยุธยาช่วงระหว่างโรงพยาบาลสงฆ์กับแยกพญาไทเท่านั้นเอง
อีกเรื่องหนึ่งที่ผมเห็นว่าน่าจะมีการตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูลคือเรื่อง
"พิธีพระราชทานปริญญาบัตรที่คณะวิศวกรรมศาสตร์"
เรื่องนี้ผมเคยเขียนไว้ใน
Memoir
ปีที่
๓ ฉบับที่ ๒๘๙ วันอาทิตย์ที่
๑๖ เมษายน ๒๕๕๙ เรื่อง
"ก่อนจะเลือนหายไปจากความทรงจำตอนที่
๕ พิธีพระราชทานปริญญาบัตรที่คณะวิศวกรรมศาสตร์"
เพราะข้อมูลที่มีเผยแพร่ทั่วไปทางอินเทอร์เน็ต
(รูปที่
๓ นำมาจาก
https://th.wikipedia.org/wiki/คณะวิศวกรรมศาสตร์_จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย)
นั้นไม่ตรงกับที่ทางมหาวิทยาลัยแสดง
(รูปที่
๔ ที่จัดแสดงในพิพิธภัณฑ์)
รูปที่ ๓ https://th.wikipedia.org/wiki/คณะวิศวกรรมศาสตร์_จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย (ข้อมูล ณ วันพุธที่ ๑๕ กรกฎาคม ๒๕๕๘) กล่าวถึงงานพระราชทานปริญญาบัตรที่ตึกวิศวกรรมศาตร์ ๑ ในปีพ.ศ. ๒๔๗๘
รูปที่ ๓ https://th.wikipedia.org/wiki/คณะวิศวกรรมศาสตร์_จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย (ข้อมูล ณ วันพุธที่ ๑๕ กรกฎาคม ๒๕๕๘) กล่าวถึงงานพระราชทานปริญญาบัตรที่ตึกวิศวกรรมศาตร์ ๑ ในปีพ.ศ. ๒๔๗๘
รูปที่
๔
พิพิธภัณฑ์มหาวิทยาลัยแสดงข้อมูลกล่าวถึงการก่อสร้างอาคารวิศวกรรมศาตร์
๑ ว่าก่อสร้างในปีพ.ศ.
๒๔๘๔
และเป็นอาคาร ๓ ชั้น
(ที่ถูกต้องคือเดิมเป็นอาคาร
๒ ชั้นจริง
ผมเองก็เคยเห็นรูปถ่ายเก่าสมัยที่ยังเป็นอาคารสองนั้นอยู่)
ในปัจจุบันคงจะแย้งไม่ได้ว่าสิ่งที่คนทั่วไปสืบค้นได้ง่ายที่สุดคือทางอินเทอร์เน็ต
ความแตกต่างของข้อมูลที่ปรากฏที่ผมเห็นคือในเว็บนั้นกล่าวว่ามีการพระราชทานปริญญาบัตรที่อาคารวิศวกรรมศาสตร์
๑ ในปีพ.ศ.
๒๔๗๘
แต่ในส่วนจัดแสดงของทางมหาวิทยาลัยนั้นกล่าวว่าอาคารวิศวกรรมศาสตร์
๑ นั้นสร้างในปีพ.ศ.
๒๔๘๔
ซึ่งเป็นช่วงของรัชกาลที่
๘ แล้ว
และอันที่จริงอาคารวิศวกรรมศาตร์
๑ นั้นเดิมมีเพียง ๒ ชั้น
แต่ต่อมามีการต่อเติมเป็น
๓ ชั้นในภายหลัง
ผมเองก็ไม่รู้เหมือนกันว่าจะแจ้งข้อสงสัยนี้ให้กับใครเพื่อให้เขาทำการตรวจสอบ
ก็เลยเอามาเล่าบนนี้เผื่อว่าจะมีคนมาอ่านพบเจอ
ส่วนอาคารเคมี ๓
ที่ปัจจุบันกลายเป็นพิพิธภัณฑ์มหาวิทยาลัยไปแล้วนั้น
บรรยากาศข้างในเป็นยังไงบ้างเอาไว้ว่าง
ๆ จะเอารูปมาลงให้ดู
เผื่อมีท่านผู้อ่านท่านใดเคยได้เรียนหนังสือที่ตึกนี้จะได้ทราบว่าห้องเรียนในอดีตของท่านนั้นเปลี่ยนแปลงไปอย่างไรบ้าง
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น