ผมเคยเกริ่นถึง
"นอตตัวผู้
-
Bolt" และ
"นอตตัวเมีย
-
Nut" เอาไว้ใน
Memoir
ปีที่
๓ ฉบับที่ ๒๑๒ วันเสาร์ที่
๙ ตุลาคม ๒๕๕๓ เรื่อง
"การใช้ประแจและการขันนอต"
ซึ่งบันทึกฉบับนั้นเน้นไปที่การขันนอตแต่ละตัวให้ตึงเท่า
ๆ กัน ใครที่ต้องทำการทดลองโดยใช้
autoclave
หรือ
saturator
ก็กรุณาไปอ่านดูด้วย
มาฉบับนี้อยากจะแนะนำให้รู้จักกับชนิดของ
"นอตตัวผู้"
บ้าง
นอตตัวผู้ที่เราใช้กันนั้นมีหลายแบบ
แบบที่เราเห็นกันทั่วไปและอาจเป็นแบบที่พบมากที่สุดในชีวิตประจำวันคือนอตตัวผู้ที่มีหัวอยู่ที่ปลายข้างหนึ่ง
และปลายอีกข้างหนึ่งทำเกลียวเอาไว้สำหรับสวมนอตตัวเมีย
นอตแบบนี้เรียกว่า "Machine
bolt" (ต่อไปจะขอใช้คำภาษาอังกฤษนี้แทนคำว่านอตตัวผู้
เพื่อป้องกันการสับสน)
Machine
bolt นั้นอาจมีการทำเกลียวตลอดทั้งความยาวลำตัว
ตั้งแต่ปลายด้านสำหรับสวมนอตตัวเมียไปจนถึงด้านหัว
หรืออาจทำเกลียวจากปลายด้านสำหรับสวมนอตตัวเมียเข้ามาเป็นระยะหนึ่ง
ซึ่งรูปแบบนี้มักจะทำในกรณีที่ไม่ได้ใช้ประโยชน์จากเกลียวที่มีตลอดความยาวลำตัว
(ดูรูปที่
๑)
รูปที่
๑ Machine
bolt ในรูปนี้ใช้ยึด
butterfly
valve เข้ากับท่อด้านขาออกของปั๊ม
จะเห็นว่ามีการทำเกลียวจากปลายด้านสวมนอตตัวเมียเข้ามาเป็นระยะหนึ่งเท่านั้นเอง
เพราะขันนอตตัวเมียเข้ามาได้ระยะหนึ่งก็ติดกับขอบหน้าแปลนแล้ว
เกลียวส่วนที่อยู่ลึกเข้าไปไม่ได้ใช้ประโยชน์อะไร
นอตอีกแบบหนึ่งนั้นเห็นใช้กันมากในโรงงาน
โดยเฉพาะในส่วนของการต่อท่อด้วยหน้าแปลน
(ท่อสารเคมีอันตราย
อุณหภูมิสูงและความดันสูง)
เรียกว่า
"Stud
bolt" นอตชนิดนี้ไม่มีหัวนอต
มีลักษณะเป็นแท่งยาว ๆ
มีการทำเกลียวที่ปลายทั้งสองข้าง
เกลียวที่ทำนั้นอาจจะยาวตลอดทั้งลำตัว
(ดังตัวที่แสดงในรูปที่
๒)
หรือเพียงแต่ลึกจากปลายทั้งสองด้านเข้ามาเป็นระยะหนึ่งเท่านั้นเอง
(ไม่ตลอดความยาวลำตัว)
การใช้งาน
Stud
bolt ต้องใช้นอตตัวเมียขันที่ปลายทั้งสองด้าน
รูปที่
๒ Stud
bolt
ตัวที่แสดงในรูปใช้ยึดข้อต่อต่อด้านขาออกของปั๊มเข้ากับระบบท่อส่งน้ำขึ้นอาคารสูง
จะเห็นว่าในกรณีนี้เป็น
Stud
bolt ที่มีการทำเกลียวตลอดความยาวลำตัว
(แม้ว่าเกลียวตรงกลางจะไม่ใช้ประโยชน์ก็ตาม)
เวลาที่ใช้
Machine
bolt เราก็เพียงแค่ทำการสอด
Machine
bolt เข้าไปในรู
ให้ด้านหัวนั้นแนบกับพื้นผิว
และทำการขันนอตตัวเมียเข้าทางปลายอีกด้านหนึ่ง
(ดูตัวอย่างในรูปที่
๓)
แต่ในกรณีของ
Stud
bolt นั้นเราต้องทำการขันนอตตัวเมียเข้าที่ปลายทั้งสองข้าง
ดังนั้นเวลาที่สอด Stud
bolt จึงต้องระวังด้วยว่าปลายแต่ละข้างของ
Stud
bolt ที่โผล่พ้นรูออกมานั้นยาวมากพอที่จะเกลียวของนอตตัวเมียจะจับได้หมด
รูปที่
๓ การยึด strainer
(ตัวกรอง)
และข้อต่ออ่อนเข้ากับระบบท่อด้านขาเข้าของปั๊มน้ำโดยใช้หน้าแปลน
นอตที่ใช้ที่หน้าแปลนในที่นี้เป็นชนิด
Machine
bolt ทั้งหมด
หลังจากที่เราขันนอตตัวเมียลงไปจนแนบพื้นผิว
จากนั้นทำการขันอัดนอตตัวเมียนั้นลงไปอีก
การหมุนของนอตตัวเมียไปตามเกลียวของลำตัวนอต
(ไม่ว่าจะเป็น
Machine
bolt หรือ
Stud
bolt)
จะไปทำให้ลำตัวนอตยืดตัวออกโดยที่ลำตัวนอตนั้นไม่ได้หมุนตามการหมุนของนอตตัวเมีย
ดังนั้นส่วนลำตัวนอตนั้นจะรับแต่แรงดึง
โดยตัวนอตตัวเมีย (และหัวนอตในกรณีของ
Machine
bolt) จะออกแรงกดกระทำต่อพื้นผิว
ถ้าเป็นกรณีของ
Stud
bolt นั้น
เนื่องจากมีนอตตัวเมียอยู่ที่ปลายทั้งสองข้าง
ดังนั้นเวลาที่ขันนอตตัวเมียไม่ว่าจะเป็นด้านไหน
ลำตัวของ Stud
bolt ก็จะรับแต่แรงดึงเพียงอย่างเดียว
ในกรณีของ
Machine
bolt
ถ้าเป็นการขันอัดทางด้านนอตตัวเมียก็จะทำให้ลำตัวนอตรับแต่แรงดึงเช่นเดียวกับกรณีของ
Stud
bolt แต่ถ้าเป็นการขันด้านหัวนอตต้องระวังให้ดี
เพราะหัวนอตของ Machine
bolt นั้นเป็นโลหะชิ้นเดียวกับลำตัวนอต
การหมุนตัวหัวนอตจะทำให้ลำตัวนอตนั้นหมุนไปด้วย
ดังนั้นถ้าหากลำตัวนอตเกิดการยึดแน่นไม่สามารถหมุนได้
การหมุนหัวนอตจะทำให้ลำตัวนอตรับ
"แรงบิด"
ที่หัวนอต
และทำให้หัวนอตขาดได้
ปัญหานี้เกิดได้ง่ายถ้าเป็นกรณีที่เป็นการขัน
Machine
bolt ฝังลงไปในพื้นผิว
(ไม่มีการใช้นอตตัวเมียที่ปลายอีกด้าน)
เพราะการขันต้องกระทำที่ด้านหัวนอตเพียงอย่างเดียว
ในกรณีนี้การใช้ Stud
bolt ขันฝังลงไปในพื้นผิวก่อนแล้วค่อยขันนอตตัวเมียกดอัดจะดีกว่า
รูปที่
๔ (ซ้าย)
การใช้
Stud
bolt ฝังลงในพื้นผิวแล้วขันนอตตัวเมียกดอัด
ลำตัว Stud
bolt เองจะรับแต่แรงดึง
(ขวา)
แต่ถ้าใช้กันขัน
Machine
bolt ลงไป
ถ้าหากลำตัว Machine
bolt เคลื่อนไปจนสุดทางแล้วยังทำการหมุนหัวนอตต่อไปอีก
ส่วนลำตัวของนอตจะรับแรงบิด
ทำให้หัวฉีกขาดออกได้
(ลำตัวนอตจะมีเกลียวนะ
แต่ผมไม่ได้วาดเอาไว้ในรูป)
"Stud"
ยังมีความหมายอื่นด้วยนะ
ในด้านที่เป็นคำ slang
เกี่ยวกับสัตว์ตัวผู้หรือผู้ชาย
มันมีความหมายอะไรก็ลองไปค้นดูเอาเอง