การศึกษาประวัติศาสตร์นั้นจะยากอยู่กว่าการแปลผลทางวิทยาศาสตร์ตรงที่
สิ่งที่มีเขียนบันทึกเอาไว้นั้นอาจไม่ได้บันทึกเรื่องราวที่ถูกต้องทั้งหมดเอาไว้
หรือไม่ได้บันทึกเรื่องราวที่ถูกต้องเอาไว้เลยก็ได้
ดังนั้นการแปลข้อมูลที่ได้รับมาจึงต้องพิจารณาสภาพสังคมและสิ่งแวดล้อมต่าง
ๆ ในช่วงเวลาที่ข้อมูลนั้นปรากฏ
ว่ามันมีผลต่อผู้บันทึกข้อมูลนั้นหรือไม่
อย่างไร เรียกว่าก่อนจะนำข้อมูลมาใช้
ก็ควรต้องเรียนรู้จักตัวตนของผู้บันทึกข้อมูลก่อน
ว่าในขณะนั้นเขาอยู่ในสภาพเช่นใด
ด้วยเหตุนี้จึงเป็นไปได้ที่สิ่งที่บันทึกนั้นผู้บันทึกจงใจที่จะเขียนในสิ่งที่ตรงข้ามกับความจริง
หรือบิดเบือนให้ผิดเพี้ยนไป
หรือจงใจแปลความเหตุการณ์เพื่อให้ได้ข้อสรุปตามที่ต้องการ
ในขณะที่ข้อมูลประเภทนี้ถ้าเป็นทางวิทยาศาสตร์ก็มักจะถูกโยนทิ้งไป
แต่สำหรับการศึกษาประวัติศาสตร์แล้วถ้าได้มีการเทียบเคียงข้อมูลเหล่านั้นกับหลักฐานอื่น
ก็อาจมองเห็นข้อเท็จจริงที่ถูกซ่อนเอาไว้ในบันทึกดังกล่าวได้
จะเรียกว่าการ "อ่านระหว่างบรรทัด"
หรือที่ภาษาอังกฤษเรียกว่า
"read
between the lines" นั้นเป็นสิ่งจำเป็นก็ได้
งานเสวนา
"ย้อนประวัติบริษัทศรีมหาราชา"
ณ
ร้านอาหารเรือนน้ำซีฟู้ด
ข้างสวนสาธารณะเกาะลอย
เมื่อบ่ายวันอาทิตย์ที่ ๑๕
ธันวาคม ๒๕๖๑ ที่ผ่านมา
ที่ทาง "ชมรมคนรักศรีราชา"
(http://www.konruksriracha.in.th)
เป็นแม่งานในการจัดนั้นจะเรียกว่าเป็นการเปิดตัวผู้เกี่ยวข้องกับรถไฟสายนี้ในขณะที่รถไฟสายนี้ยังมีการใช้งานอยู่ก็ได้
งานต่อไปที่ทางชมรมคนรักศรีราชาคงต้องรีบดำเนินการต่อไปคือการเก็บรวบรวมความทรงจำของท่านเหล่านี้เอาไว้ก่อนที่จะสูญหายไป
ซึ่งจะว่าไปแล้วก็เป็นงานใหญ่ไม่ใช่เล่น
ยังไงก็ขอเป็นกำลังใจช่วยนะครับ
ในช่วงหลังสงครามโลกครั้งที่
๒ เมื่อสหรัฐอเมริกาเริ่มเข้ามามีบทบาทในการรบที่เวียดนาม
ความจำเป็นที่ต้องมีแผนที่ของภูมิภาคนี้จึงเป็นสิ่งสำคัญ
เท่าที่ทราบคือแผนที่ชุดหนึ่งคือแผนที่ทหารรหัส
L509
ดูเหมือนว่าแผนที่ชุดนี้ทางกองทัพสหรัฐจัดทำขึ้นมาก่อน
จากนั้นทางกรมแผนที่ทหารของไทยจึงมีการทำเป็นฉบับที่มีภาษาไทยกำกับควบคู่ตามมา
โดยการจัดทำครั้งที่ ๒
นั้นมีข้อมูลบางจุดที่แตกต่างไปจากฉบับที่เผยแพร่ครั้งแรก
สิ่งที่ผมได้เรียนรู้มาจากอาจารย์บางท่านในการศึกษาเรื่องราวประวัติศาสตร์ก็คือ
เราต้องแยกออกมาก่อนว่าข้อมูลดิบนั้นมันมาอย่างไร
ในการส่งต่อข้อมูลดิบนั้นมันมาอย่างไรก็ต้องส่งต่อไปอย่างนั้น
ยกตัวอย่างเช่นถ้าข้อมูลดิบนั้นมันเป็นข้อความที่บันทึกไว้
ต้นฉบับมีการสะกดมีการเขียนอย่างไร
การบันทึกข้อมูลเพื่อการส่งต่อก็ต้องเขียนไปตามนั้นก่อน
คืออย่าไปแก้ไขในสิ่งที่เราคิดว่ามันผิด
เพราะอาจเป็นเราเองเข้าใจผิดก็ได้
โดยตรงจุดนี้เราสามารถที่จะทำเครื่องหมายแสดงความเห็นแยกต่างหากแนบเอาไว้ได้
Memoir
ฉบับนี้ก็ถือเสียว่าเป็นการเล่าเรื่องด้วยแผนที่ก็แล้วกันนะครับ
เป็นเพียงแค่การบันทึกว่าเคยได้เห็นข้อมูลอะไรมาจากที่ไหน
และมันมีความแตกต่างอะไรกันอยู่
ส่วนที่ว่าอันไหนจะน่าเชื่อถือมากกว่ากันนั้น
ก็คงต้องขอให้ผู้อ่านแต่ละท่านพิจารณาเอาเอง
รูปที่
๑ แผนที่ทหารรหัส L509
จัดทำโดยกองทัพสหรัฐมีการระบุเอาไว้ว่ามีการใช้ข้อมูลการสำรวจในปีค.ศ.
๑๙๕๑
(พ.ศ.
๒๔๙๔)
และค.ศ.
๑๙๘๓
(พ.ศ.
๒๔๙๖)
และนำมาประมวลผลในปีค.ศ.
๑๙๕๕
(พ.ศ.
๒๔๙๘)
ฉบับนี้เข้าใจว่าเป็นฉบับที่จัดพิมพ์ครั้งแรก
(เพราะเห็นมีคำว่า
Edition
1-AMS อยู่)
รูปที่
๒ แผนที่ทหารรหัส L509
เช่นกัน
แต่เป็นฉบับที่จัดทำโดยกรมแผนที่ทหารของไทย
(จะเรียกว่าเป็นฉบับแปลเป็นไปก็น่าจะได้อยู่)
เป็นฉบับพิมพ์ครั้งที่
๒ เท่าที่ดูเข้าใจว่าข้อมูลที่ใช้ก็อิงมาจากฉบับพิมพ์ครั้งแรก
แต่มีการปรับแก้ความถูกต้องในบางจุด
ดังตัวอย่างที่ยกมาให้เห็นในรูปที่
๓ และ ๔
ที่เป็นส่วนของเส้นทางรถไฟบรรทุกไม้ของบริษัทศรีมหาราชา
รูปที่
๓
แผนที่เส้นทางรถไฟลากไม้ของบริษัทศรีมหาราชาที่ปรากฏในแผนที่ชุด
L509
พิมพ์ครั้งที่
๑ โดยกองทัพสหรัฐ
(ในกรอบสี่เหลี่ยมประสีแดง)
ปลายทางของเส้นแยกไปทางด้านทิศเหนือไปสิ้นสุดที่บริเวณบ้านบึงไม้แก่น
ส่วนสายที่แยกลงมาทางด้านใต้นั้นไปสิ้นสุดแถวบ้านพันเสด็จใน
รูปที่
๔
แผนที่เส้นทางรถไฟลากไม้ของบริษัทศรีมหาราชาที่ปรากฏในแผนที่ชุด
L509
พิมพ์ครั้งที่
๒ โดยกรมแผนที่ทหารของไทยบอกแนวปลายทางที่ไปไกลกว่า
คือสายแยกทางด้านบนนั้นมีการต่อไปจนถึงบ้านหนองปรือและหนองตาสน
ในขณะที่สายแยกลงล่างนั้นมีทางแยกจากบ้านพันเสด็จในผ่านไปยังบ้านระเวิงและบ้านเก่า
รูปที่
๕ แผนที่ในรูปที่ ๕ ถึง ๗
นำมาจาก https://911gfx.nexus.net/thailand.html
เข้าใจว่าเป็นฉบับที่จัดทำในปีค.ศ.
๑๙๖๗
หรือพ.ศ.
๒๕๑๐
หรือประมาณ ๑๐ หลังแผนทีชุด
L509
ที่เอามุมนี้ของแผนที่มาแสดงก็เพื่อเป็นการบันทึกข้อมูลว่าแผนที่ฉบับนี้ใครเป็นผู้จัดทำ
จัดทำเมื่อใด และใช้ข้อมูลจากไหน
(รูปที่
๑ และ ๒ ที่นำมาแสดงก็ด้วยเหตุผลเดียวกัน)
รูปที่
๖ แผนที่บริเวณอำเภอศรีราชา
ยังแสดงเส้นทางรถไฟลากไม้
(ตามแนวเส้นประสีแดง)
ที่เหมือนกับแผนที่ชุด
L509
ที่จัดทำโดยกรมแผนที่ทหาร
(รูปที่
๔)
รูปที่
๗ แผนที่ส่วนต่อด้านทิศตะวันออกของรูปที่
๖
แนวเส้นทางรถไฟลากไม้คือแนวเส้นประสีแดงสองแนวที่อยู่ทางด้านซ้ายของรูป
รูปที่
๘ แผนที่นี้นำมาจาก
http://legacy.lib.utexas.edu/maps/tpc/txu-pclmaps-oclc-22834566_k-9b.jpg
ในหัวข้อที่ว่า
"Tactical
Pilotage Chart Series - World 1:500,000 Scale"
คือเข้าใจว่าเกี่ยวข้องกับการเดินอากาศของทางกองทัพ
ตัวแผนที่มีการระบุว่าใช้ข้อมูลปีค.ศ.
๑๙๖๘
(พ.ศ.
๒๕๑๑)
แต่มีการปรับปรุงแก้ไขในเดือนกุมภาพันธ์ปีค.ศ.
๑๙๘๔
(พ.ศ.
๒๕๒๗)
แต่เน้นความถูกต้องเฉพาะส่วนที่เกี่ยวข้องกับการเดินอากาศ
(คือสถานีควบคุมและขอบเขต)
ไม่ได้เน้นปรับปรุงความถูกต้องของรายละเอียดต่าง
ๆ ที่อยู่บนพื้นดิน
รูปที่
๙ แผนที่เส้นทางรถไฟที่ปรากฏในแผนที่รูปที่
๘ ตอนนี้ถูกแยกออกเป็น ๒
ส่วน คือเส้นด้านล่างจากศรีราชาจุด
(1)
ไปยังจุด
(2)
และเส้นบนจากแถวบ้านโค้งดาราที่จุด
(3)
ไปแถวบ้านหัวกุญแจที่จุด
(4)
และ
(5)
เข้าใจว่าน่าจะเป็นโรงงานน้ำตาล
รูปที่
๑๐ แผนที่นี้นำมาจาก
http://legacy.lib.utexas.edu/maps/onc/txu-pclmaps-oclc-8322829_k_9.jpg
ในหัวข้อเดียวกับรูปที่
๘ ฉบับนี้บอกว่าใช้ข้อมูลปีค.ศ.
๑๙๖๗
(พ.ศ.
๒๕๑๐)
แต่เป็นฉบับปรับปรุงเดือนมิถุนายนปีค.ศ.
๑๙๘๔
(พ.ศ.
๒๕๒๗)
คือดูเมื่อเทียบกับรูปที่
๘ และ ๙ แล้ว ดูเหมือนว่าฉบับนี้จะใช้แผนที่เก่ากว่า
แต่ข้อมูลสำหรับการเดินอากาศจะทันสมัยกว่า
รูปที่
๑๑ ภาพขยายบริเวณทางรถไฟลากไม้
ภาพนี้ยังเป็นเส้นทางต่อเนื่องกันเริ่มจาก
(1)
ศรีราชา
ไปแยกที่ (2)
ลงใต้เส้นหนึ่งไปยัง
(3)
และอีกเส้นหนึ่งขึ้นเหนือไปที่
(4)
และ
(5)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น