วันจันทร์ที่ 31 มีนาคม พ.ศ. 2557

ข้ามบางปะกงที่ท่าข้าม (ก่อนจะเลือนหายไปจากความทรงจำ ตอนที่ ๖๐) MO Memoir 2557 Mar 31 Mon

ในประเทศไทยคงไม่มีแม่น้ำช่วงไหนที่จะมีสะพานข้ามหนาแน่นถึง ๕ สะพานเท่ากับถนนสายบางนา-ตราดช่วงกิโลเมตรที่ ๕๐ ที่เป็นจุดข้ามแม่น้ำบางปะกงที่ ต. ท่าข้าม อ. บางปะกง จ. ฉะเชิงเทรา ที่เป็นสะพานของถนนพื้นราบซะ ๔ สะพาน และของทางด่วนบูรพาวิถีอีก ๑ สะพาน (อันที่จริงทางด่วนนี้มันก็เหมือนกับเป็นสะพานทั้งเส้นอยู่แล้ว)
   
รูปที่ ๑ แผนที่ประเทศไทยจัดทำโดยกองทัพอังกฤษ เป็นแผนที่ในปีพ.ศ. ๒๔๘๘ ให้รายละเอียดไว้ว่า Great Britain. Army. Indian Field Survey Company. Siam 1 inch to 1 mile [cartographic material] 1945 - 9999. MAP G8025 s63. Part 43. นำมาจาก http://www.nla.gov.au/apps/cdview/?pi=nla.map-vn2018580
    
แผนที่ทหารของกองทัพอังกฤษ (รูปที่ ๑) ที่จัดทำในช่วงสงครามโลกครั้งที่ ๒ และจัดพิมพ์ในปีพ.ศ. ๒๔๘๘ (นำมาจาก http://www.nla.gov.au) ระบุว่าตรงบ้านท่าข้ามนั้นใช้เรือเฟอรี่ (หรือแพขนานยนต์) ข้ามฟากมายังอีกฝั่งหนึ่ง แต่ในหน้าเว็บของต.ท่าข้าม บอกว่ามีการสร้างสะพานตั้งแต่ปีพ.ศ. ๒๔๘๔ (http://www.thakam.go.th/data.php?menu_id=1 หน้าเว็บ ณ วันจันทร์ที่ ๓๑ มีนาคม ๒๕๕๗) แต่จากวารสารทางหลวงออนไลน์ที่นำเอาข้อมูลจากวารสารทางหลวงปีที่ ๔๖ ฉบับที่ ๑ มกราคม-กุมภาพันธ์ ๒๕๕๒ ระบุไว้ว่าสะพานดังกล่าวเริ่มสร้างเมื่อวันที่ 28 ตุลาคม 2492 แล้วเสร็จบริบูรณ์ เมื่อวันที่ 12เมษายน 2494 บริษัทสง่าพาณิชย์เป็นผู้รับจ้าง รวมค่าใช้จ่ายทั้งสิ้น 6,124,000.00 บาท ความยาวทั้งสิ้น 340 เมตร ทางจราจรกว้าง 6.00 เมตร มีทางเท้า 2 ข้าง กว้างข้างละ 0.040 เมตร มีเสาตอม่อรองรับสะพาน 25 ตัน (ในหน้าเว็บใช้ " ั " ไม่ได้ใช้ " ้ " (จาก http://it-programmer.doh.go.th:8080/Highways_Journal/index.php?option=com_content&task=view&id=29&Itemid=93 หน้าเว็บ ณ วันจันทร์ที่ ๓๑ มีนาคม ๒๕๕๗) และให้ชื่อสะพานดังกล่าวว่า "สะพานเทพหัสดิน"
   
ในอดีตนั้นการเดินทางจากกรุงเทพไปยังจังหวัดชลบุรีด้วยรถยนต์นั้นต้องเดินทางอ้อมเป็นทางไกล รถยนต์ต้องเดินทางมาตามถนนสุขุมวิทปัจจุบันมายังบ้านท่าข้าม แล้วต้องมุ่งไปยังจังหวัดฉะเชิงเทราก่อน แล้วจึงค่อยเข้าชลบุรีทางอำเภอพนัสนิคม ประวัติการสร้างทางเชื่อมจากบ้านท่าข้ามไปยังตัวเมืองชลบุรีนั้นมีปรากฏในบันทึกของพลตรีพระยาอานุภาพไตรภพ (จำรัส เทพหัสดิน ณ อยุธยา) ที่พิมพ์แจกในงานพระราชทานเพลิงศพเมื่อวันที่ ๒๐ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๐๔ (รูปที่ ๒ และ ๓) ซึ่งได้กล่าวถึงปัญหาการตัดถนนในบริเวณดังกล่าวเนื่องจากสภาพพื้นดิน ซึ่งในแผนที่ทหารฉบับปีพ.ศ. ๒๔๘๘ (รูปที่ ๑) หรือฉบับปีพ.ศ. ๒๕๐๓ ก็แสดงให้เห็นพื้นที่บริเวณบ้านท่าข้ามยาวมาถึงคลองตำหรุดังกล่าวเป็นพื้นที่ของป่าชายเลน

ภายหลังจากมีการตัดถนนสายบางนา-ตราดเพิ่มขึ้นและมีการสร้างสะพานข้ามแม่น้ำบางปะกงเพิ่มเติมขนานไปกับสะพานเทพหัสดิน ก็ได้มีการรื้อสะพานเทพหัสดินช่วงกลางสะพานเดิมออก จำได้ว่าเมื่อช่วงปีพ.ศ. ๒๕๓๑ ที่ขับรถผ่านเส้นทางสายนี้ไปยังจังหวัดระยอง สมัยนั้นถนนสายบางนา-ตราดจะมีด่านเก็บเงินค่าผ่านทาง ๓ บาทที่บางสมัคร (ประมาณกิโลเมตรที่ ๔๐ หรือ ๔๑ ในปัจจุบัน) ถนนสายนี้เป็นถนน ๔ ช่องทางจราจร (ไปสองกลับสอง) เวลาขับรถข้ามแม่น้ำบางปะกง (กิโลเมตรที่ ๕๐) ก็จะเห็นสะพานเทพหัสดินส่วนที่ยังหลงเหลืออยู่โดยมีคนมายืนตกปลาอยู่ที่ปลายสะพาน เช้าวันวานระหว่างขับรถเข้ากรุงเทพก็เพิ่งจะมีโอกาสหยุดรถแวะถ่ายรูปเอาไว้ไปที่ระลึกหน่อย (รูปที่ ๕ และ ๖) หลังจากที่ใช้เส้นทางสายนี้เป็นประจำมาร่วม ๓๐ ปีแล้ว
  
ถนนสายนี้ตอนที่เขาขยายช่องจราจรมันก็แปลกดี คือฝั่งด้านขาออก (กรุงเทพ-ชลบุรี) นั้น ด้านช่องทางด่วนมี ๒ ช่องจราจรตามแนวถนนเดิมที่วางเอาไว้ และสะพานข้ามแม่น้ำของช่องทางด่วนก็เป็นสะพานเดิมที่มี ๒ ช่องจราจร แต่สะพานของช่องทางคู่ขนานที่มี ๒ ช่องทางจราจรนั้นเป็นสะพานที่สร้างขึ้นมาใหม่ มี ๓ ช่องจราจร แต่พอมาเป็นด้านฝั่งขาเข้า (ชลบุรี-กรุงเทพ) แนวถนนเดิมช่วงข้ามแม่น้ำนั้นกลายเป็นช่องทางคู่ขนาน ส่วนช่องทางด่วนนั้นเป็นแนวถนนที่ตัดขึ้นมาใหม่มี ๓ ช่องทางจราจร ทำให้สะพานที่ต้องสร้างขึ้นมาใหม่ก็มี ๓ ช่องทางจราจรด้วย

ถ้าอยากทราบว่าบรรยากาศถนนสายนี้ในอดีตเป็นอย่างไร ขอแนะนำให้ไปดูคลิป "บางละมุง-ศรีราชา-ชลบุรี ปี 2495" ที่มีผู้ใจดีเอามาลงเผยแพร่ไว้ใน youtube ที่ http://www.youtube.com/watch?v=2C2sRjwYXBc ในคลิปนี้ไม่เพียงแต่จะมีภาพของสะพานเทพหัสดินในอดีต (ดังภาพที่จับจากคลิปในรูปที่ ๗-๙) แต่ยังมีภาพรถไฟเล็กลากไม้ของบริษัททำไม้ที่ศรีราชา ที่มีเส้นทางรถไฟไปลงทะเลที่เกาะลอย และภาพของบ่อน้ำร้อนที่บางพระ ที่ปัจจุบันจมอยู่ใต้อ่างเก็บน้ำไปแล้ว
   
รูปที่ ๒ หน้า ๘๖ ของหนังสืออนุสรณ์งานพระราชทานเพลิงศพ พลตรีพระยาอานุภาพไตรภพ (จำรัส เทพหัสดิน ณ อยุธยา) (๒๐ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๐๔)
     
รูปที่ ๓ หน้า ๘๗ ของหนังสืออนุสรณ์งานพระราชทานเพลิงศพ พลตรีพระยาอานุภาพไตรภพ (จำรัส เทพหัสดิน ณ อยุธยา) (๒๐ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๐๔)
    
รูปที่ ๔ แผนที่รหัส L509 จัดทำขึ้นโดยความร่วมมือระหว่างกองทัพสหรัฐกับกรมแผนที่ทหารของไทย มีการระบุว่ามุมระหว่างทิศเหนือจริงกับทิศเหนือแม่เหล็กเป็นมุมในปีค.ศ. ๑๙๖๐ (พ.ศ. ๒๕๐๓) (พิมพ์ครั้งที่ ๒) ดังนั้นข้อมูลในแผนที่จึงควรเป็นข้อมูลก่อนปีพ.ศ. ๒๕๐๓ รายละเอียดของแผนที่ดังกล่าวระบุว่าจัดพิมพ์ปีค.ศ. ๑๙๕๗ (พ.ศ. ๒๕๐๐) (สงสัยว่าเป็นการพิมพ์ครั้งแรก) จะเห็นว่าถ้าไม่มีสะพานข้ามแม่น้ำบางปะกงที่ท่าข้าม การเดินทางโดยรถยนต์ถ้าต้องไปฉะเชิงเทราก่อน จากนั้นลงมาพนัสนิมคม แล้วค่อยเข้าชลบุรีอีกครั้ง จะเป็นระยะทางที่อ้อมมาก และบริเวณท่าข้ามยังเป็นป่าชายเลนทั้งหมด
    
รูปที่ ๕ สะพานเทพหัสดินเดิม ฝั่งด้านทิศใต้ (ต.ท่าข้าม) เหลือซากแค่นี้
   
รูปที่ ๖ ถ่ายรูปจากแพตกปลาใต้สะพาน มองออกไปทางปากน้ำบางปะกง ที่โผล่ออกมาทางด้านซ้ายคือสะพานเทพหัสดินเดิม
    
รูปที่ ๗ ป้ายชื่อสะพานเทพหัสดินในอดีต คลิปต้นฉบับดูที่ http://www.youtube.com/watch?v=2C2sRjwYXBc
  
รูปที่ ๘ รถวิ่งข้ามสะพานเทพหัสดิน จากรูปนี้ที่พอรถวิ่งพ้นสะพานแล้วต้องเลี้ยวขวาแสดงว่าเป็นการข้ามจากฝั่งด้านทิศเหนือไปทิศใต้ (มุ่งหน้าไปยังชลบุรี) คลิปต้นฉบับดูที่ http://www.youtube.com/watch?v=2C2sRjwYXBc
 
รูปที่ ๙ รถวิ่งข้ามสะพานเทพหัสดินเช่นกัน รูปนี้รถมาจากทางด้านซ้ายก่อนวิ่งขึ้นสะพานแสดงว่าเป็นการข้ามจากฝั่งด้านทิศเหนือไปทิศใต้ (ในรูปเป็นการมองไปยังเส้นทางกลับกรุงเทพ) คลิปต้นฉบับดูที่ http://www.youtube.com/watch?v=2C2sRjwYXBc

แต่ก่อนเคยได้ยินคนเล่าว่าเวลานั่งรถข้ามแม่น้ำบางปะกงถ้าจะอธิฐานขออะไรก็ให้กลั้นหายใจก่อนที่รถจะขึ้นสะพาน และต้องกลั้นหายใจให้ตลอดจนกว่ารถจะวิ่งพ้นสะพาน ถ้าทำได้คำอธิฐานก็จะเป็นจริง ถ้าใครอยากรู้ว่าจริงเท็จหรือไม่อย่างไร ผ่านไปทางนั้นเมื่อไร ก็เชิญทดลองเอาเอง

ไม่มีความคิดเห็น: