คลิปหิ่งห้อยกระพริบแสง
ผมย้ายกลับมาอยู่ที่นี่ในปี ๒๕๒๑ ที่บอกว่าย้ายกลับมาก็เพราะตอนผมเกิดนั้นคุณพ่อคุณแม่บอกว่ามาเช่าบ้านอยู่แถวนี้พักหนึ่ง ก่อนย้ายออกไปอยู่ท้องที่อื่น และกลับมาอยู่ที่นี่อีกครั้ง ตอนนั้นชุมชนที่อยู่ในซอยแถวนี้เป็นอย่างไร ปัจจุบันก็ไม่ค่อยแตกต่างไปเท่าไรนัก จะมีเปลี่ยนไปบ้างก็แถวริมถนนจรัญสนิทวงศ์ ที่มีห้างสรรพสินค้าเกิดขึ้น มีโรงแรมเกิดขึ้น มีโรงพยาบาลเอกชนเกิดขึ้น และกำลังจะมีรถไฟลอยฟ้า ส่วนด้านหลังที่โดนล้อมไว้ด้วยทางรถไฟสายใต้นั้นก็กำลังจะมีระบบรถไฟขนส่งมวลชน และทางด่วนสำหรับรถยนต์
แต่ชุมชนที่อยู่ในซอยนั้น
ในขณะนี้ก็ยังคงเป็นเหมือนเดิม
มีเปลี่ยนไปบ้างก็มีการรื้อบ้านเก่าเพื่อสร้างหลังใหม่
บ้านที่อยู่นั้นเป็นบ้านจัดสรร
ซอยที่มาอยู่เป็นซอยตันมีบ้านอยู่
๘ หลัง (แถวละ
๔ หลัง)
เป็นบ้านชั้นเดียวกันทั้งหมด
บ้านที่มาอยู่ก็เป็นบ้านสุดซอย
ด้านหลังบ้านเป็นสวนผลไม้ที่ไม่ค่อยมีใครมาดูแลเท่าใดนัก
เหมือนกับเป็นสวนรก ๆ มากกว่า
มาอยู่ใหม่ ๆ
ยังได้เห็นนกหัวขวานมาบินมาเจาะต้นหมากในสวนหลังบ้าน
แต่ก็ไม่เห็นนานแล้ว
ปัจจุบันที่พอจะมีแวะมาเยี่ยมเยียนบ้างบางครั้งเห็นจะได้แก่นกแซงแซว
ส่วนดุเหว่านี่ไม่เห็นตัวถนัดสักที
แต่ได้ยินเสียงร้องตอนเช้ามืดเป็นประจำ
เรียกว่าไม่ต้องพึ่งนาฬิกาปลุกก็ได้
ฟังเสียงดุเหว่าร้องบอกเวลาแทน
ธรรมชาติไม่ได้มีเพียงต้นไม้
และความงดงามของธรรมชาติก็ไม่ได้แปลว่าต้นไม้ต้องขึ้นเรียงเป็นแถวเป็นระเบียบเรียบร้อย
แยกกันตามชนิด
ผมเชื่อว่าชาวสวนทางฝั่งธนเข้าใจในข้อนี้ดี
การทำสวนของเขาจึงเต็มไปด้วยการปลูกต้นไม้หลายหลายสายพันธุ์ผสมกัน
บรรยากาศจึงมีทั้งต้นไม้หลายหลายชนิดขึ้นรวมกัน
ทั้งไม้ดอกและไม้ผล
ด้วยเหตุนี้จึงทำให้สวนดั้งเดิมนั้นมีทั้งแมลงและนกหลากหลายสายพันธุ์อยู่รวมกันเต็มไปหมด
ถ้ากลางวันเป็นความงดงามของสีสัน
กลางคือก็เป็นความงดงามของเสียงแสง
ช่วงเย็นใกล้ค่ำจนถึงหัวค่ำนั้นมักจะเป็นช่วงเวลาที่สัตว์อีกกลุ่มหนึ่งออกมาใช้ชีวิต
ไม่ว่าจะเป็นสัตว์หากินตอนกลางคืน
หรือแมลงที่ออกมาส่งเสียงร้องเรียกเพื่อนฝูง
หรือบินออกมาเล่นลม
และสิ่งหนึ่งที่ทำให้ชอบและผูกพันกับที่นี่เป็นพิเศษ
รู้สึกตื่นเต้นตั้งแต่ย้ายมาอยู่ตอนเด็ก
ๆ
และปัจจุบันก็ยังมีให้เห็นแทบทุกคืนที่โผล่มองออกไปนอกหน้าต่างก็คือ
"หิ่งห้อย"
ที่บินล่องลอยอยู่ในสวนหลังบ้านตอนกลางคืน
หิ่งห้อยเป็นแมลงที่ส่องแสงออกมาได้จากบริเวณส่วนท้องของมัน
สำหรับคนที่ใช้ชีวิตอยู่ในเมืองแล้ว
เพื่อจะได้เห็นหิ่งห้อยสักครั้งอาจหมายถึงการต้องเดินทางไปยังแหล่งท่องเที่ยวที่เขาโฆษณาว่ามีการนั่งเรือชมหิ่งห้อย
แต่สำหรับคนที่มีบ้านอยู่ในซอยแถวบางพลัดแล้ว
การมีหิ่งห้อยให้ชมก็ไม่ใช่เรื่องยากอะไร
ก็เพียงแค่พยายามอย่าให้มีแสงจากตัวบ้านออกไปรบกวนการใช้ชีวิตในเวลากลางคืนของหิ่งห้อยเท่านั้นเอง
ผมสร้างบ้านใหม่เป็นบ้านสองชั้น
ชั้นบนของบ้านนั้นจะสูงกว่ารั้ว
ทำให้มองเห็นบรรยากาศในสวนหลังบ้านตอนกลางคืนได้ชัด
แต่ก็จะพยายามไม่เปิดไฟในห้องทิ้งไว้
เพราะแสงจากหน้าต่างจะส่องสว่างเข้าไปในสวน
แต่ถ้าต้องเปิดก็มักจะปิดม่านเพื่อไม่ให้แสงจากห้องออกไปส่องออกไป
เพราะถ้ามีแสงส่องสว่างในสวนเมื่อใด
หิ่งห้อยมักจะหลบซ่อนตัวด้วยการไม่กระพริบแสง
หรือไม่ก็บินหนีไป
และปรกติมันก็จะบินอยู่ในสวน
ไม่บินข้ามรั้วเข้ามาในบริเวณบ้าน
เว้นแต่ว่าจะปิดไฟบริเวณรอบบ้านโดยเฉพาะด้านที่ติดสวนเพื่อให้บริเวณดังกล่าวมืด
ก็อาจจะมีหิ่งห้อยบินเล่นเข้ามาในบ้าน
รูปที่เอามาให้ดูในหน้าที่แล้วเป็นรูปที่ถ่ายเมื่อกว่าสองปีที่แล้ว
ส่วนคลิปวิดิโอนั้นถ่ายเอาไว้เมื่อคืนด้วยกล้องมือถือ
คือมันมาส่งแสงกระพริบอยู่ตัวเดียวข้างหน้าต่างห้องครัว
ก็เลยออกไปยืนถ่ายคลิปหิ่งห้อยกระพริบแสง
แต่พอเปลี่ยนเป็นจะถ่ายรูป
พอแสงแฟลชกระพริบขึ้น
หิ่งห้อยก็บินหนีทันที
สวนหลังบ้านนี้ไม่ได้มีหิ่งห้อยเกาะเต็มต้นไม้
มีแต่บินไปมาให้ดูเล่นในตอนกลางคืน
นับได้มากที่สุดในเวลาเดียวกันก็เกือบสิบตัว
ตอนลูกเรียนวิชาวิทยาศาสตร์ที่โรงเรียนพอคุณครูถามว่ามีเด็กคนไหนเคยเห็นหิ่งห้อยบ้าง
ก็มีเด็กนักเรียนยกมือกันไม่กี่คน
ลูกผมก็เป็นหนึ่งในนั้น
แต่พอถามต่อว่าได้ไปเป็นกันที่ไหน
เด็กคนอื่น ๆ
ก็จะบอกว่าไปเห็นตามแหล่งท่องเที่ยว
จะมีลูกผมก็นี่แหละที่บอกว่าเห็นที่บ้าน
เพราะที่บ้านมีหิ่งห้อยให้ดู
สวนที่ผมเล่าถึงอยู่ตรงไหนก็ดูในภาพถ่ายดาวเทียมข้างล่างเองก็แล้วกัน
กากบาทแดงในรูปคือตำแหน่งที่มองออกมาจากหน้าต่างห้องนอนลูกสาวเพื่อถ่ายรูปสวนที่มีหิ่งห้อยบินไปมาตอนกลางคืน
มีกระรอกกระโดดตามต้นไม้ในตอนกลางวัน
มีงูเขียวกับงูเหลือมเลื้อยไปมา
และตัวเงินตัวทองวิ่งเล่นเป็นบางเวลา
รูปถ่ายที่ถ่ายมาให้ดู ๓
รูปก็ถือว่าเป็นการบันทึกบรรยากาศรอบ
ๆ ตัวบ้านว่าในขณะนี้มันเป็นอย่างไร
ส่วนอนาคตมันจะเป็นอย่างไรก็ไม่รู้เหมือนกัน
เพราะแต่ก่อนบ้านที่อยู่นี้ก็ถือว่าอยู่ในซอยลึกห่างถนนใหญ่
ใกล้ทางรถไฟสายใต้
แต่ตอนนี้มันกำลังจะมีทั้งทางด่วน
ถนนเลียบทางรถไฟ และรถไฟขนส่งมวลชน
ทำให้สุดซอยกลายเป็นปากซอยไปแล้ว
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น