จากประสบการณ์ทำงานกับเครื่องแก๊สโครมาโทกราฟ
(Shimadza
รุ่นเลข
8
14 และ
2014)
พบว่า
แม้ว่าจะมีการนำเอาคอมพิวเตอร์มาใช้ในการควบคุมการทำงาน
บันทึกสัญญาณ และคำนวณขนาด
(พื้นที่และ/หรือความสูง)
พีคที่ได้
แต่วิธีที่ซอร์ฟแวร์ของเครื่องใช้นั้นยังอิงอยู่บน
"การตัดกระดาษแล้วนำไปชั่งน้ำหนัก"
ใช่ว่าเทคนิค
"การตัดกระดาษแล้วนำไปชั่งน้ำหนัก"
จะใช้ไม่ได้
อันที่จริงถ้าเป็นพีคที่แยกออกเป็นอิสระต่อกันมันจะไม่มีปัญหาใด
ๆ ปัญหามันจะเกิดเมื่อมีพีคเหลื่อมซ้อนทับกัน
โดยการเหลื่อมซ้อนนั้นอาจมาในรูปแบบ
(ก)
เพียงแค่ส่วนหน้าของพีคหลังเหลื่อมซ้อนกับส่วนหลังของพีคหน้า
(โดยส่วนท้ายของพีคหลังไม่ซ้อนทับกับส่วนท้ายของพีคหน้า)
หรือ
(ข)
พีคหลังทั้งพีควางตัวอยู่บนส่วนหางของพีคหน้า
(มักจะเป็นกรณีที่พีคหน้ามีขนาดใหญ่มากเมื่อเทียบกับพีคหลัง
หรือพีคหน้าทีการลากหางที่ยาวมาก)
การหาพื้นที่ของพีคแต่ละพีคที่เหลื่อมซ้อนทับกันนี้ด้วยเทคนิค
"การตัดกระดาษแล้วนำไปชั่งน้ำหนัก"
นั้น
ถ้าเป็นกรณี (ก)
ก็จะใช้การหาตำแหน่งจุดที่สัญญาณวกกลับ
แล้วก็ลากเส้นจากจุดนั้นลงมาในแนวดิ่งจนมาตัด
base
line (รูปที่
๑)
ในกรณีนี้พื้นที่ส่วนหางของพีคแรกจะกลายมาเป็นพื้นที่ของพีคหลัง
และพื้นที่ส่วนหน้าของพีคหลังจะกลายเป็นพื้นที่ของพีคแรก
แต่ถ้าเป็นในกรณี
(ข)
ก็จะใช้การสร้างเส้นสัมผัสโค้งเพื่อบ่งบอกแนวส่วนหางของพีคแรก
และพื้นที่พีคที่อยู่เหนือเส้นสัมผัสนี้จะแทนพื้นที่พีคที่สอง
โดยความสูงของพีคที่สองจะวัดจากจุดสูงสุดของพีคที่สองนั้น
ดิ่งลงมาจนถึงแนวเส้นสัมผัสนี้
(รูปที่
๒)
ปัญหามันมักเกิดขึ้นถ้าการแยกนั้นมันก้ำกึ่งอยู่ตรงเกณฑ์การแบ่งว่าการซ้อนของพีคเป็นรูปแบบ
(ก)
หรือรูปแบบ
(ข)
และปัญหานี้มันเกิดได้ถ้าหากว่าพีคหน้านั้นมีขนาดใหญ่กว่าพีคหลัง
ดังเช่นพีคตัวอย่างในรูปที่
๓ ที่นำมาแยกแต่ละพีคให้ดูในรูปที่
๑ และ ๒ จะเห็นว่าอันที่จริงแล้วพีคที่สอง
(ที่เวลา
1.3
นาที)
นั้นไม่ได้มีขนาดที่แตกต่างกันมากเลย
แต่ด้วยวิธีการลากเส้นแบ่งพีคที่แตกต่างกัน
ทำให้ความสูงของพีคที่สองที่เครื่องอินทิเกรเตอร์คำนวณได้นั้นมีขนาดแตกต่างกันถึง
3
เท่า
และพื้นที่ก็แตกต่างกันถึง
7
เท่า
(ผลการวิเคราะห์ได้จากเครื่อง
GC
และอินทิเกรเตอร์ยี่ห้อ
Shimadzu)
โดยความแตกต่างในการแบ่งพีคนี้ตัวเครื่องเองก็ระบุเอาไว้แล้วในคอลัมน์ถัดไป
(คอลัมน์
MK
ที่มักจะมีเครื่องหมาย
S
V หรือ
T
ปรากฏเมื่อมีปัญหาเรื่องการแบ่งพีค
ส่วนนิยามของ S
V หรือ
T
คืออะไรนั้นต้องไปดูจากคู่มือเครื่อง)
อันที่จริงเครื่องอินทิเกรเตอร์ของ
Shimadzu
ที่แลปเราใช้นั้น
หลังการประมวลผลพีคเสร็จแล้วมันยังไม่ลบข้อมูลสัญญาณทิ้ง
เราสามารถตรวจสอบวิธีการแบ่งพีคที่เครื่องทำให้ว่าเป็นที่พึงพอใจหรือไม่
ถ้าเห็นว่าไม่ถูกต้องเราก็สามารถทำการกำหนดวิธีการแบ่งพีคและทำการประมวลผลใหม่ได้
เรื่องนี้ก็มีการกล่าวไว้ในคู่มือเครื่อง
(ที่ไม่มีใครอ่านกัน)
แต่วิธีการที่ดีกว่าในการหาพื้นที่พีคที่ซ้อนทับกันคือการนำเอาค่าตัวเลขสัญญาณที่วัดได้ไปทำการประมวลผลใหม่ด้วยซอร์ฟแวร์อื่น
(ถ้าหากสามารถดึงค่าตัวเลขสัญญาณออกมาเป็น
text
file ได้)
เช่นโปรแกรม
fityk
ต้อนรับเดือนสุดท้ายของปีนี้ด้วยเรื่องเบา
ๆ แค่นี้ก่อน
ด้วยรูปที่นำมาจากม้วนโครมาโทแกรมที่มีคนนำมาวางทิ้งไว้บนโต๊ะทำงานผมในห้องแลป
รูปที่
๓ โครมาโทแกรมที่มีปัญหา
ลองพิจารณาพื้นที่และความสูงของพีคที่เวลา
1.31
นาที
เทียบระหว่างรูปบนและรูปล่าง
จะเห็นว่าแม้ว่าพีคในรูปล่างจะมีขนาดเล็กกว่า
แต่ก็ไม่ได้มีความสูงเหลือเพียงแค่
1
ใน
3
หรือมีพื้นที่เพียงแค่
1
ใน
7
ของพีคในรูปบน
เหมือนดังค่าที่เครื่องอินทิเกรเตอร์รายงาน
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น