วันพุธที่ 16 พฤศจิกายน พ.ศ. 2565

แนวทางหัวข้อการทำวิทยานิพนธ์นิสิตรหัส ๖๔ (ตอนที่ ๖) MO Memoir : Wednesday 16 November 2565

เอกสารฉบับนี้แจกจ่ายเป็นการภายใน ไม่นำเนื้อหาลง blog

เนื้อหาในเอกสารฉบับนี้เกี่ยวกับการไทเทรตหาปริมาณกรด formic และ performic ที่อยู่ในสภาวะสมดุล

 



วันจันทร์ที่ 14 พฤศจิกายน พ.ศ. 2565

แนวทางหัวข้อการทำวิทยานิพนธ์นิสิตรหัส ๖๔ (ตอนที่ ๕) MO Memoir : Monday 14 November 2565

อันที่จริงควรต้องมี Memoir ออกฉบับหนึ่งเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา ที่เป็นวันที่พวกคุณสามคนเข้ารับพระราชทานปริญญาบัตร แต่ด้วยไม่รู้ว่าจะเขียนอะไรให้ดี ก็เลยลากมาถึงวันนี้ (ซึ่งก็ยังไม่รู้ว่าจะเขียนอะไรให้ดี)

ก็เรียกว่าเป็นรุ่นที่พิเศษ เพราะไม่รู้ว่าจะได้เข้ามาทำแลปกันหรือไม่ แลปจะถูกปิดอีกหรือไม่ แต่ในที่สุดก็ผ่านกันมาได้ เรียกว่าเป็นรุ่นที่ใช้เวลาทำวิทยานิพนธ์สั้นที่สุดก็ได้ ก็ตามอายุงานของโครงการที่บังเอิญมีคนส่งมาให้ทำ แถมยังเป็นรุ่นที่ใช้เครื่องมือวิเคราะห์ในการทำวิจัยน้อยชิ้นที่สุด (ใช้แค่ auto titrator เพียงตัวเดียว ซึ่งตอนนี้ก็พังซะแล้ว แถมไม่มีอะไหล่เปลี่ยนด้วย)

เป็นนิสิตรุ่นแรกของผมที่ไม่ได้เข้าทำแลปที่ตึก ๕ ชั้น ๕ เลย

และอาจเป็นนิสิตป.โทรุ่นรองสุดท้ายของผมด้วย

เราไม่ได้ขึ้นไปทำแลปที่แลปแมว เราก็เลยไม่มีบทสนทนา ณ สถานที่ที่เรียกว่าสามแยก SCR แต่เรามีเรื่องราวเกี่ยวกับว่างวดนี้จะซื้อเลขอะไรดีหรือสั่งซื้อของออนไลน์อะไรดี (ไม่นับรวมคดีดาราที่เป็นข่าว) หรือจะปลูกกระท่อมอย่างไรดี (ผมเองซื้อมาสองต้น เอามาลองปลูกลงกระถางไว้ แต่ก็ไม่โตสักที)

พวกคุณสามคน มาจากคนละที่ มาพบกันที่นี่ มาทำงานร่วมกัน แม้ว่าเวลาที่ต้องแยกย้ายจากกันได้มาถึงแล้ว ก็หวังว่าความผูกพันที่พวกคุณสามคนมีต่อกัน จะอยู่กับพวกคุณตลอดไป

และก็เหมือนทุกปี เมื่อพวกคุณรับปริญญา Memoir ฉบับนี้จะเป็นฉบับสุดท้ายที่ส่งให้พวกคุณทางอีเมล์โดยตรง

ท้ายนี้ก็ขอให้พวกคุณทุกคน ประสบแต่ความสุขความสำเร็จในการใช้ขีวิตส่วนตัวและชีวิตการทำงาน

ปล. รูปวันรับปริญญาผมไม่มีสักรูป เลยขอเอารูปเก่าถ่ายไว้เมื่อเดือนธันวาคมปีที่แล้วมาลงแทนก็แล้วกัน


 

 

วันอังคารที่ 8 พฤศจิกายน พ.ศ. 2565

วันอาทิตย์ที่ 6 พฤศจิกายน พ.ศ. 2565

ใช่ว่าการที่ต้องแยกห่างกัน จะไม่ทำให้เราได้เรียนรู้อะไร MO Memoir : Sunday 6 November 2565

ได้ฟัง ในสิ่งไม่ถูกกล่าว
ได้อ่าน ในสิ่งไม่ถูกเขียน
ได้เห็น ในสิ่งที่ถูกบัง
ได้ระวัง ในสิ่งที่เคยไว้วางใจ

ซึ่งเป็นสิ่งต่าง ๆ ที่ซ่อนอยู่ในจิตใจของคนที่เรารู้จัก ซึ่งถ้าเป็นสถานการณ์ปรกติ คงยากที่จะรับรู้ได้

ช่วงเวลา ๔ ปีในมหาวิทยาลัย ๓ ปีในภาควิชาของพวกคุณ แม้ว่าจะสูญเสียโอกาสบางอย่างไป แต่ก็ใช่ว่าจะไม่ได้อะไรกลับคืนมา

ก่อนหน้านั้นฉบับที่ระลึกให้กับนิสิตปี ๔ ของภาควิชาที่สำเร็จการศึกษา จะออกในวันปัจฉิมนิเทศน์ แต่ปีนี้เป็นปีพิเศษ ที่มาออกในวันก่อนรับปริญญา เนื่องด้วยผมเพิ่งจะมาทราบว่ามีการจัดงานในพวกคุณ ในเช้าวันจัดงานนั้นเอง แต่ก็ได้ทำอย่างที่เคยบอกกับพวกคุณเอาไว้ คือจะส่งมอบรูปถ่ายของพวกคุณตอนเรียนปี ๒ ให้ เพื่อให้พวกคุณได้รำลึกถึงความหลังตอนที่เพิ่งจะเข้ามาเรียนในภาควิชา และจะได้เห็นว่าหน้าตาเปลี่ยนแปลงไปอย่างไรบ้าง :) :) :

ในวันนี้ วันที่พวกคุณได้ออกไปทำงานแล้ว ผมขอนำส่วนหนึ่งของพระบรมราโชวาท ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช ที่พระราชทานต่อบัณฑิตของจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ในพิธีพระราชทานปริญญาบัตรแก่นิสิตจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ปีการศึกษา ๒๔๙๕ เมื่อวันพฤหัสบดีที่ ๒๕ มิถุนายน พ.ศ. ๒๔๙๖ มาฝากไว้เป็นข้อคิดให้กับพวกคุณ (จาก http://www.kingrama9.chula.ac.th/kings-guidance/78/)

"... ในการประกอบการงานนั้น ถ้าท่านจะถือว่าบัดนี้ท่านเป็นบัณฑิตมีปริญญาบัตรแล้ว ควรจะต้องได้รับความไว้วางใจ และเชื่อถือโดยทันทีดั่งนี้ ก็เป็นความคิดที่ผิด ที่ถูกนั้นท่านจะต้องลงมือทำงาน ใช้ความรู้ที่ได้มาให้เป็นประโยชน์แก่การงาน แสดงความสามารถเสียก่อน ในการนี้ท่านจงพิจารณาหยั่งถึงสิ่งที่ควรและไม่ควร และมีใจหนักแน่นสุจริตอดทนมีความอุสาหะหมั่นเพียรในการงาน และรักษาระเบียบวินัยเป็นบรรทัดฐาน เพื่อได้มาซึ่งความเชื่อถือและไว้วางใจ และเมื่อนั้นแหละค่าของปริญญาบัตรจึงจะบังเกิดขึ้น ..."

ในการดำรงตนในภายหน้านั้น ท่านจะต้องประพฤติให้ดีให้เหมาะสมแก่ฐานะรู้จักผิดและชอบ ประกอบอาชีพโดยสัมมาอาชีวะ ไม่เสเพล และไม่ปล่อยตนให้เป็นทาสแห่งอบายมุขต่าง ๆ ดังนี้แล้ว ท่านก็จะสามารถเป็นที่พึ่งแก่ตนเองและครอบครัวของท่าน และจะเป็นที่นับถือของบุคคลอื่น

ในวงสังคมนั้นเล่า ท่านจะต้องรักษามารยาทอันดีงามสำหรับสุภาพชน รู้จักสัมมาคารวะ ไม่แข็งกระด้าง มีความอ่อนโยน แต่ไม่อ่อนแอ พร้อมจะเสียสละประโยชน์ส่วนตนเพื่อส่วนรวม วางตนให้ดีเพื่อเป็นแบบอย่างให้สมเกียรติที่เป็นบัณฑิต และพยายามบำเพ็ญกรณียกิจเพื่อเป็นกำลังแก่ชาติบ้านเมือง เป็นทางส่งเสริมเกียรติคุณของตนเอง และของสถานศึกษาอันมีเกียรติของท่าน คือ จุฬาลงกรณมหาวิทยาลัยนี้สืบไปด้วย ..."

เพลงที่นำมาประกอบคลิปวิดิทัศน์นั้นคือเพลงประกอบอนิเมะญี่ปุ่นเรื่อง "Galaxy Express 999" หรือชื่อภาษาไทยว่า "รถด่วนอวกาศ 999" ที่เคยนำมาฉายทางโทรทัศน์ในประเทศไทยเมื่อปีพ.ศ. ๒๕๒๖ เพลงนี้เนื้อเพลงเดิมเป็นภาษาอังกฤษเขียนและร้องโดยโดย Mary MacGregor ที่มีเนื้อความดังข้างล่าง แต่ที่นำมาประกอบคลิปนั้นเป็นฉบับภาษาญี่ปุ่นที่ร้องโดย Kumiko Kaori


Sayonara, sweet memories

It's goodbye

Sayonara, don't look back

Don't ask why

The time to come will come

And you will go alone

Keep to your heart

Sayonara

And so my friend

Now it must end

Now you are grown

I can't stay on

Think of the memories we've known

* Carefully feeling your way

You're getting stronger each day

How can I find words to say

I'll miss you

Sayonara, sweet memories

It's goodbye

Sayonara, don't look back

Don't ask why

The time to come will come

And you will go alone

Keep to your heart

Sayonara

* repeat

Sayonara, sweet memories

It's goodbye

Sayonara, don't look back

Don't ask why

The time to come will come

And you will go alone

Keep to your heart

Sayonara...


ท้ายสุดนี้ก็ขออวยพร ให้พวกคุณทุกคน ประสบแต่ความสุขความเจริญ ในชีวิตตลอดไป

รศ.ดร.ธราธร มงคลศรี
ภาควิชาวิศวกรรมเคมี คณะวิศวกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
วันอาทิตย์ที่ ๖ พฤศจิกายน ๒๕๖๕
ตรงกับวันขึ้น ๑๓ ค่ำ เดือน ๑๒ ปีขาล ราศีตุลย์

ลิงก์ไฟล์ภาพที่ระลึก

https://drive.google.com/file/d/1b07zR-1pMnohUwz_CZOUxavjfvGsr93I/view?usp=sharing

ลิงก์คลิปวิดิโอที่ระลึก

https://drive.google.com/file/d/11swwr2fRvwxK4WdJQDON7IqU8GHoMkkk/view?usp=sharing