รูปที่
๑ เวลา :
๑๘
เมษายน พ.ศ.
๒๔๘๘
(ค.ศ.
๑๙๔๕)
สถานที่
:
ประตูน้ำคลองภาษีเจริญ
(รูปจาก
http://www.iwm.org.uk)
รูปที่
๑ ในหน้าที่แล้วผมไปพบในเว็บของ
Imperial
War Museum มีคำบรรยายภาพกำกับดังนี้
"Low-level
oblique photograph taken from a Consolidated Liberator B Mark VI
showing a bomb exploding on on the east end of the lock gates of the
Klong Phasi Charoen canal, Thailand, during a daylight raid by
aircraft of No. 356 Squadron RAF on the Bangkok canal system, which
was being used by the Japanese as an alternative communications route
to the city.
Label
: Photograph taken from a Consolidated Liberator B Mark VI of No. 356
Squadron showing a bomb exploding on lock gates on the Khlong Phasi
Charoen canal near Bangkok in Thailand, 18 April 1945"
ก่อนหน้านี้เคยเล่าถึงการทิ้งระเบิดสะพานรถไฟข้ามแม่น้ำสายต่าง
ๆ ในประเทศไทยของกองกำลังฝ่ายพันธมิตร
การขนส่งทางรถไฟนั้นสามารถที่จะขนทั้งคนและสิ่งของเป็นจำนวนมาก
เดินทางเป็นระยะทางไกล
ได้ในเวลาอันสั้น ดังนั้นในช่วงสงคราม
เส้นทางรถไฟจึงเป็นเป้าหมายหลักเป้าหมายหนึ่งของการโจมตี
ในช่วงแรกที่กองทัพอังกฤษต้องถอยร่นไปตั้งหลักอยู่ในอินเดีย
ประเทศไทยยังอยู่นอกรัศมีทำการของเครื่องบินทิ้งระเบิด
แต่เมื่อกองทัพญี่ปุ่นในพม่าเริ่มถอยร่นมาทางตะวันออก
สนามบินที่เคยอยู่ไกลไปทางตะวันตกก็สามารถย้ายมาทางตะวันออกได้มากขึ้น
ประกอบกับเครื่องบินรุ่นใหม่ที่มีรัศมีทำการไกลขึ้น
ทำให้ประเทศไทยอยู่ในรัศมีการทิ้งระเบิดจากเครื่องบินของฝ่ายพันธมิตร
และเป้าหมายหลักเป้าหมายหนึ่งของฝ่ายพันธมิตรคือเส้นทางลำเลียงยุทธปัจจัยไปยังประเทศพม่า
ซึ่งก็คือเส้นทางรถไฟจากกรุงเทพ
มุ่งไปยังชุมทางหนองปลาดุก
แยกไปกาญจนบุรี
และเข้าไปยังพม่าทางด้านด่านเจดีย์สามองค์
วัสดุหลักที่ใช้ในการสร้างทางรถไฟคือเหล็ก
ทั้งเหล็กที่นำมาสร้างเป็นรางและสร้างเป็นสะพาน
เหล็กที่ใช้สร้างรางและสะพานในประเทศไทยนั้นต้องนำเข้ามาจากต่างประเทศ
เช่นนำมาจากอังกฤษ
ในช่วงสงครามเมื่อการนำเข้าเหล็กถูกปิดกั้น
กองทัพญี่ปุ่นจึงต้องใช้การรื้อรางและสะพานจากเส้นทางต่าง
ๆ ที่ไม่มีความสำคัญทางทหารจากประเทศอื่นที่เข้าไปยึดครอง
มาใช้ในการสร้างทางรถไฟและสะพานเหล็กในประเทศไทย
ทีนี้พอเส้นทางถูกทิ้งระเบิดเรื่อย
ๆ เส้นทางที่สามารถรื้อมาซ่อมแซมได้ก็ลดลงไปเรื่อย
ๆ จนในที่สุดก็ไม่มีวัสดุที่จะนำมาซ่อมแซมระบบรางและสะพาน
การขนส่งทางรถไฟก็เกิดปัญหา
ก็เลยต้องหาทางอื่นแทน
และเส้นทางสัญจรหลักที่ประเทศไทยมีมานานแล้วคือระบบคลองและแม่น้ำ
เส้นทางน้ำเส้นทางหนึ่งที่สามารถใช้เดินทางจากกรุงเทพ
(แม่น้ำเจ้าพระยา)
ไปกาญจนบุรีได้คือใช้เส้นทางคลองบางกอกใหญ่
เข้าคลองภาษีเจริญ
ไปออกแม่น้ำท่าจีน
จากนั้นเข้าคลองดำเนินสะดวก
เพื่อไปออกแม่น้ำแม่กลอง
ซึ่งก็จะสามารถเดินทางต่อไปยังจังหวัดกาญจนบุรีได้
หลังจากเส้นทางรถไฟมุ่งหน้าจากกรุงเทพไปภาคเหนือ
ภาคตะวันตก และภาคใต้ ถูกทำลาย
ทำให้กองทัพญี่ปุ่นต้องหันมาพึ่งพาการขนส่งทางเรือแทน
ในเอกสาร 10th
Air Force Report ฉบับประจำวันที่
๑ เดือนมิถุนายน ค.ศ.
๑๙๔๕
(พ.ศ.
๒๔๘๘)
กล่าวไว้ว่า
จากการตรวจการในเดือนมีนาคม
(ค.ศ.
๑๙๔๕)
พบว่ากองทัพญี่ปุ่นใช้การลำเลียงทหารและยุทธปัจจัยโดยใช้เส้นทางน้ำ
(รูปที่
๒)
ดังนั้นในวันที่
๑๘ เมษายนปีเดียวกัน
จึงได้ส่งเครื่องบินทิ้งระเบิด
Liberator
จำนวน
๖ ลำเข้าโจมตี "Damneun
Saduak-Phareon Chaisri canal locks"
locks
ในที่นี้ก็คือประตูกั้นน้ำนั่นเอง
ชื่อคลองแรกก็ตรงตัวดีคือคลองดำเนินสะดวก
แต่ชื่อคลองที่สองผมสงสัยว่าฝรั่งคงเรียกชื่อเพี้ยนไป
ชื่อที่ถูกต้องควรจะเป็นคลองภาษีเจริญ
ซึ่งจะไปตรงกับข้อมูลในรูปที่
๑ ที่ระบุว่าเป็นการทิ้งระเบิดประตูน้ำที่คลองภาษีเจริญในวันที่
๑๘ เมษายนปีเดียวกัน
รูปที่
๒
ข้อมูลการทิ้งระเบิดประตูน้ำคลองภาษีเจริญที่มีการกล่าวถึงในเอกสาร
10th
Air Force Report ฉบับประจำวันที่
๑ เดือนมิถุนายน ค.ศ.
๑๙๔๕
(ตรงที่ขีดเส้นใต้สีแดง)
ตรวจสอบจากแผนที่ปัจจุบันทำให้สรุปได้ว่ามุมมองในรูปที่
๑ เป็นมุมมองประตูน้ำบริเวณวัดปากน้ำในปัจจุบัน
(เพราะมีเกาะกลางอยู่ตรงกลางคลอง
มีประตูน้ำทั้งด้านซ้ายและด้านขวา)
โดยเป็นการมองจากตะวันออกไปทางตะวันตก
(เครื่องบินบินมาจากทิศตะวันตก
ทิ้งระเบิดและบินเลยต่อไปทางทิศตะวันออก)
รูปที่ถ่ายนั้นเป็นการถ่ายรูปจากทางด้านท้ายเครื่องบินมองย้อนหลังกลับไป