".....
การศึกษาประวัติศาสตร์
คือการเหลียวหลังดูอดีตนั่นเอง
เราเหลียวเห็นอดีตที่ดี
เราก็จะได้จดจำไว้เพื่อประพฤติปฏิบัติให้ดียิ่ง
ๆ ขึ้นไป ถ้าเหลียวพบสิ่งชั่ว
ก็จะได้จดจำไว้ว่าเราจะไม่ทำเช่นนั้นอีก
และจักได้ศึกษาต่อไปว่าอะไรเป็นเหตุทำให้ชั่ว
เราจักได้ตัดต้นเหตุนั้นเสีย
และอะไรเป็นเหตุที่ทำให้ดี
เราจักได้ถือเอาเหตุนั้นเพื่อก่อสานต่อไป
....."
นั่นคือส่วนหนึ่งของข้อความในจดหมายที่เขียนโดยหลวงรณสิทธิ์พิชัย
อธิบดีกรมศิลปากรแห่งชาติ
(ในขณะนั้น)
ต่อการจัดทำหนังสือ
"พงศาวดารชาติไทย
ความเป็นมาของชาติ แต่ยุคดึกดำพรรพ์"
หนังสือชุดนี้มีทั้งสิ้น
๕ เล่ม ที่น่าสนใจก็คือมีได้มีการรวบรวมภาพถ่ายเก่า
ๆ เอาไว้ประมาณ ๓๐๐๐ ภาพ
แต่ที่น่าเสียดายก็คือด้วยเทคโนโลยีการพิมพ์ในยุคนั้น
ทำให้ภาพที่พิมพ์ลงหนังสือนั้นมีขนาดเล็กและยังขาดความคมชัด
สีของภาพที่ปรากฏในแต่ละหน้าก็แตกต่างกันไป
ไม่รู้ว่าเป็นเพราะสีของหมึกพิมพ์หรือเป็นเพราะหนังสือนี้พิมพ์มานานแล้ว
(นับถึงปัจจุบันก็เข้าปีที่
๖๑ แล้ว)
ผมไปพบหนังสือชุดนี้ในห้องสมุดของมหาวิทยาลัยในหมวดหนังสือประวัติศาสตร์
(ภาษาไทย)
ชั้นหนังสือตั้งอยู่ที่ซอกมุมห้องที่ปรกติมักจะไม่มีคนเดินเข้าไปดูหนังสือ
(แต่ก็มีคนเข้าไปใช้ซอกมุมดังกล่าวในการอ่านหนังสือเงียบ
ๆ)
หนังสือชุดนี้จัดทำโดยคุณสม
พ่วงภักดี และคุณทัศนีย์
พ่วงภักดี (รูปของทั้ง
๒ ท่านตีพิมพ์ในหนังสือดังกล่าวด้วย)
หนังสือมีขนาดประมาณกระดาษ
A5
แต่ว่าแต่ละเล่มก็หนาอยู่เหมือนกัน
กระดาษในบางหน้าก็เริ่มเหลืองกรอบแล้ว
ไม่รู้ว่าจะได้อยู่บนชั้นหนังสือได้อีกนานเท่าใด
และต่อจากนั้นจะเป็นยังไงต่อไป
เนื้อหาในหนังสือแบ่งได้เป็นสองส่วน
คือส่วนที่เป็นบทความข้อความ
และส่วนที่เป็นการรวบรวมรูปภาพ
หรือการเล่าเรื่องด้วยรูป
เนื่องด้วยผมเองได้เขียนเรื่องเกี่ยวกับประวัติศาสตร์ของรถไฟของบ้านเราเอาไว้บ้าง
และในหนังสือชุดนี้ก็มีรูปภาพเกี่ยวกับกิจการรถไฟปรากฏอยู่
๖ ภาพ (จากภาพทั้งหมดร่วม
๓๐๐๐ ภาพ)
ก็เลยคัดเอาเฉพาะภาพที่เกี่ยวกับรถไฟมาลงใน
Memoir
นี้
รายละเอียดของแต่ละภาพก็ปรากฏอยู่ที่ภาพเหล่านั้นแล้ว
ความคมชัดของแต่ละภาพที่ตีพิมพ์ในหนังสือก็เป็นดังที่เห็น
น่าจะเป็นเพราะเทคโนโยลีการพิมพ์ในยุคนั้นและการที่หนังสือมีขนาดเล็กจึงทำให้ขนาดภาพเล็กลงไปด้วย
บางหน้ามีภาพถึง ๒ ภาพพร้อมคำบรรยาย
ขนาดภาพจึงเล็กลงไปอีก
แม้จะพยายามขยายรูปให้ใหญ่ขึ้น
(ดังที่เอามาแสดงในที่นี้)
ก็ไม่ได้ให้รายละเอียดอะไรเพิ่มเติมมากนัก
แต่มีสิ่งหนึ่งที่น่าสนใจคือภาพจำนวนมากที่ปรากฏในหนังสือชุดนี้
ผมไม่เคยเห็นปรากฏในหนังสืออื่นใด
ๆ อีกที่ออกมาทีหลังหนังสือนี้
ทำให้น่าสงสัยว่าต้นฉบับภาพเหล่านั้นอยู่ที่ไหน
ใครเป็นผู้เก็บรักษาเอาไว้
และยังอยู่ในสภาพที่ดีหรือเปล่า
และน่าจะมีการนำออกเผยแพร่สู่สาธารณะ
เพื่อให้คนรุ่นปัจจุบันและถัดไปได้ศึกษาหาความรู้ต่อไป
ขอปิดท้าย
Memoir
ฉบับนี้ด้วยข้อความที่ปรากฏในหน้าสุดท้ายของหนังสือเล่มนี้
หนังสือเล่มนี้พิมพ์ที่โรงพิมพ์
ส.ธรรมภักดี
ถนนข้าวสาร
พระนคร
นายสม
พ่วงภักดี ผู้พิมพ์และผู้โฆษณา
วันที่
๒๔ ตุลาคม พ.ศ.
๒๔๙๖
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น