Memoir
ฉบับนี้เป็นเหตุการณ์ต่อเนื่องจากที่กล่าวไว้ใน
Memoir
เมื่อสัปดาห์ที่แล้วคือ
ปีที่ ๗ ฉบับที่ ๙๒๕ วันอาทิตย์ที่
๑๘ มกราคม ๒๕๕๘ เรื่อง
"สิ่งปนเปื้อนในน้ำDI"
โดยฉบับนี้เป็นการวิเคราะห์หาสาเหตุที่อาจเป็นไปได้ที่ทำให้เกิดพีคประหลาดที่เล่าไว้ใน
Memoir
ฉบับที่
๙๒๕
โดยในช่วงวันพฤหัสบดีที่
๒๒ ผ่านมา ได้ทดลองนำเอาน้ำ
DI
ที่เคยพบพีคประหลาด
น้ำกลั่นที่ผลิตจากห้องปฏิบัติการที่อยู่ต่างอาคารกัน
และน้ำดื่มบรรจุขวด
(ยี่ห้อหนึ่งที่ขายกันทั่วไป)
มาทดลองฉีดเพื่อที่จะทดสอบดูว่ายังมีพีคประหลาดปรากฏให้เห็นหรือไม่
(ตรงนี้ขอย้ำนิดนึงว่าตัวตรวจวัดชนิด
FID
นั้นจะมองไม่เห็นน้ำ
ดังนั้นสิ่งที่คาดหวังไว้เมื่อฉีดน้ำเข้าไปก็คือไม่ควรมีพีคใด
ๆ ปรากฏ)
ผลออกมาก็คือยังคงปรากฏพีคประหลาดนั้นให้เห็น
โดยพีคนั้นมีขนาดประมาณเดียวกัน
ไม่ขึ้นกับแหล่งที่มาของน้ำตัวอย่างที่นำมาฉีด
เมื่อวันศุกร์ที่
๒๓ ที่ผ่านมาจึงได้ทำการทดลองใหม่อีกครั้ง
โดยใช้เครื่องแก๊สโครมาโทกราฟระบบเดิมที่ใช้ในการทดลองก่อนหน้าคือเครื่อง
Shimadzu
GC-8A ติดตั้ง
packed
column ชนิดแก้วที่บรรจุ
GP10%
SP2100 พร้อมตัวตรวจวัดชนิด
Flame
Ionisation Detetor (FID) และบันทึกผลด้วยเครื่องอินทิเกรเตอร์
Shimadzu
CR-8A ตั้งอุณหภูมิตัวตรวจวัดไว้ที่
130ºC
ความดัน
carrier
gas ขาเข้าคอลัมน์ตั้งไว้ที่
60
kPa ค่า
Range
ของสัญญาณตั้งไว้ที่
101
(ตั้งที่ตัวเครื่อง
GC)
ส่วนอุณหภูมิคอลัมน์นั้นได้ทำการทดลองที่อุณหภูมิต่าง
ๆ กัน คือ 110ºC
130ºC และ
150ºC
แต่ก่อนอื่นได้ทำการเปลี่ยน
septum
ที่
injection
port และใช้
syringe
ตัวใหม่ในการฉีด
เพื่อหาว่าพีคดังกล่าวมาจาก
septum
หรือการปนเปื้อนใน
syringe
หรือไม่
แต่ก็พบว่ายังมีพีคประหลาดปรากฏอยู่ที่เดิม
ที่มีขนาดประมาณเดิม
แสดงว่าพีคดังกล่าวไม่น่าจะเกี่ยวข้องกับ
syringe
หรือ
septum
การทดสอบในขั้นต่อไปเป็นการนำเอาน้ำดื่มบรรจุขวดยี่ห้อหนึ่งมาฉีดทดสอบ
(ครั้งละ
0.5
ไมโครลิตร)
โดยแต่ละอุณหภูมิคอลัมน์ทำการฉีด
๓ ครั้งเปรียบเทียบกัน
โครมาโทแกรมที่ได้แสดงไว้ในรูปที่
๑-๓
สิ่งที่พบก็คือตัวตรวจวัด
FID
ตรวจพบว่ามีบางสิ่งออกมาจากคอลัมน์
และสิ่งที่ออกมานั้นจะปรากฏเมื่อทำการฉีดน้ำตัวอย่างเข้าไป
หรือกล่าวอีกนัยหนึ่งก็คือถ้าไม่มีการฉีดน้ำตัวอย่างก็จะไม่มีพีคปรากฏ
และอีกสิ่งหนึ่งที่เห็นก็คือขนาดของพีคประหลาดนั้นเพิ่มขึ้นตามอุณหภูมิคอลัมน์ที่ใช้
แม้ว่าจะฉีดน้ำตัวอย่างในปริมาณเท่าเดิมก็ตาม
ซึ่งเป็นเรื่องน่าแปลก
เพราะปรกติถ้าเราฉีดตัวอย่างที่เป็นสารอินทรีย์เข้าไป
พื้นที่พีคที่ตัวตรวจวัดชนิด
FID
วัดได้จะขึ้นอยู่กับปริมาณของสารที่ฉีดเข้าไปในคอลัมน์
ไม่ขึ้นกับอุณหภูมิการทำงานของคอลัมน์
(อุณหภูมิการทำงานของคอลัมน์ส่งผลต่อรูปร่างพีคและเวลาที่ออกมาพ้นคอลัมน์
แต่ไม่ส่งผลต่อพื้นที่พีค
(ที่ถูกใช้เป็นตัวบ่งบอกปริมาณ)
ที่วัดได้)
แต่ในกรณีนี้กลับพบว่าเพิ่มขึ้นตามอุณหภูมิคอลัมน์ที่ใช้
ด้วยเหตุนี้จึงได้ทำการทดลองเพิ่มเติมโดยนำน้ำประปา
(รองมาจากก๊อกน้ำ)
มาทดลองฉีดดูบ้างที่ภาวะต่าง
ๆ เหมือนกันหมดเว้นแต่ใช้อุณหภูมิคอลัมน์
130ºC
และ
110ºC
ซึ่งได้โครมาโทแกรมดังแสดงในรูปที่
๔ และ ๕ ซึ่งจะเห็นว่ายังคงมีพีคประหลาดนั้นปรากฏให้เห็น
โดยตำแหน่งเวลาที่พีคนั้นปรากฏและพื้นที่พีคนั้นไม่ขึ้นกับชนิดของน้ำที่ฉีดเข้าไป
แม้ว่าจะทำการฉีดน้ำตัวอย่างต่างชนิดกัน
แต่ที่อุณหภูมิคอลัมน์เดียวกันกลับได้พีคที่มีขนาดพอ
ๆ กัน
รูปที่ ๑ น้ำดื่มบรรจุขวด 0.5 ไมโครลิตร อุณหภูมิคอลัมน์ 110ºC
รูปที่ ๒ น้ำดื่มบรรจุขวด 0.5 ไมโครลิตร อุณหภูมิคอลัมน์ 130ºC
รูปที่ ๓ น้ำดื่มบรรจุขวด 0.5 ไมโครลิตร อุณหภูมิคอลัมน์ 150ºC
รูปที่ ๔ น้ำประปา 0.5 ไมโครลิตร อุณหภูมิคอลัมน์ 130ºC
รูปที่ ๕ น้ำประปา 0.5 ไมโครลิตร อุณหภูมิคอลัมน์ 110ºC
รูปที่ ๑ น้ำดื่มบรรจุขวด 0.5 ไมโครลิตร อุณหภูมิคอลัมน์ 110ºC
รูปที่ ๒ น้ำดื่มบรรจุขวด 0.5 ไมโครลิตร อุณหภูมิคอลัมน์ 130ºC
รูปที่ ๓ น้ำดื่มบรรจุขวด 0.5 ไมโครลิตร อุณหภูมิคอลัมน์ 150ºC
รูปที่ ๔ น้ำประปา 0.5 ไมโครลิตร อุณหภูมิคอลัมน์ 130ºC
รูปที่ ๕ น้ำประปา 0.5 ไมโครลิตร อุณหภูมิคอลัมน์ 110ºC
ตรงนี้ต้องของบันทึกข้อมูลเพิ่มเติมนิดนึงว่า
ค่า Range
ของเครื่อง
GC
ที่ใช้นั้นบ่งบอกถึงขนาดเต็มสเกลของสัญญาณที่วัด
ถ้าตั้งค่า Range
ไว้ต่ำจะสามารถมองเห็นการเปลี่ยนแปลงเพียงเล็กน้อยได้ดี
(ค่าต่ำสุดที่เครื่องยอมให้ตั้งได้คือ
100)
แต่ถ้าตัวอย่างมีปริมาณมากเกินไปจะทำให้ตัวตรวจวัดอิ่มตัวได้ง่าย
(เปรียบเสมือนกับการตั้งมัลติมิเตอร์ไว้สำหรับวัดไฟ
2.5
V แต่นำไปวัดไฟ
250
V) ผลการทดลองที่นำมาแสดงนั้นตั้งค่า
Range
ไว้ที่
101
และตั้งค่า
Atttenuation
ที่ตัวเครื่องอินทิเกรเตอร์ไว้ที่
3
(ที่เขียนว่า
ATTEN
= 3 ในโครมาโทแกรม)
เพื่อให้เห็นพีคชัดเจน
(ค่า
ATTEN
เป็นตัวหารสัญญาณที่นำมาเขียนรูปกราฟ
สำหรับเครื่องรุ่นนี้ตัวหารจะเพิ่มตาม
2n
เมื่อ
n
คือตัวเลขที่เราป้อนเข้าไป
ค่านี้ยิ่งมากตัวหารก็จะมากขึ้น
พีคก็จะเห็นเล็กลง)
ผลการทดลองนี้ทำให้สงสัยว่า
"น้ำ"
ที่ฉีดเข้าไปนั้นอาจเข้าไปทำปฏิกิริยาอะไรบางอย่างกับ
packing
ที่บรรจุอยู่ในคอลัมน์
เกิดเป็นสารที่ระเหยง่ายหลุดออกมาจากคอลัมน์
และปริมาณการเกิดนั้นเพิ่มขึ้นตามอุณหภูมิคอลัมน์ที่เพิ่มมากขึ้น
สิ่งที่พบนี้เป็นการแสดงให้เห็นความสำคัญของการทดสอบระบบก่อนว่าในการวัดของเรานั้นมีปัจจัยใดบ้างที่จะส่งผลต่อผลการวัดที่ได้
ด้วยการทำสิ่งที่เรียกว่า
Blank
test (ทดสอบในสภาพเหมือนจริง
เว้นแต่ไม่มีการฉีดสารตัวที่ต้องการวัดเข้าไป)
เพื่อทดสอบหาพีคแปลกปลอมที่อาจเกิดขึ้นจากตัวอุปกรณ์เอง
การฉีดสาร หรือตัวทำละลายที่ใช้
ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญมากสำหรับการตรวจหาสัญญาณที่มีขนาดต่ำ
(เช่นกรณีของการวัดค่าการละลายของไฮโดรคาร์บอนในน้ำที่เราจะทำการทดลองต่อไป)
ท้ายนี้ก็ขอปิดท้ายด้วยรูปบรรยากาศการฝึกการใช้
GC
เครื่องดังกล่าวเมื่อวันพุธที่
๒๔ ธันวาคม ๒๕๕๗ ที่ผ่านมา
อันที่จริงทั้งสามคนนั้นเขาสูงพอ
ๆ กัน
ที่เห็นคนที่กำลังฉีดสารนั้นตัวสูงกว่าคนอื่นเขาก็เพราะเขายืนเขย่งเต็มที่แล้วเพื่อจะได้ฉีดสารได้ถนัด
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น