สาวน้อยรายนี้เขาเคยตัดพ้อกับผมว่า
เขาทำแลปทีไร ผมได้เรื่องเขียน
Memoir
ทุกที
ผมก็ไม่รู้เหมือนกันว่าเป็นเพราะเหตุใด
แต่ประสบการณ์ที่ผ่านมาบอกว่ามันดูเหมือนจะเป็นดังที่เขาพูด
ไม่รู้ว่าเป็นเพราะดวงชะตาของเขา
หรือเป็นเพราะเขาเป็นคนช่างสังเกตมากกว่าคนอื่น
หรือสิ่งที่เขาคิดว่าเป็นปัญหานั้นสำหรับคนอื่นเขาไม่คิดว่ามันเป็นปัญหา
เรื่องใน
Memoir
ฉบับนี้ก็เช่นกัน
เหตุการณ์เริ่มจากการที่กลุ่มเราอยากวัดปริมาณความเป็นกรดบนพื้นผิวของแข็งโดยใช้เทคนิคการดูดซับ
pyridine
วิธีการมันก็ไม่ได้ซับซ้อนอะไร
หลักการก็มีเพียงแค่เอาท่อบรรจุตัวอย่างตัวอย่างใส่แทนคอลัมน์
GC
ตั้งอุณหภูมิให้พอเหมาะ
จากนั้นก็ทำการฉีด pyridine
เข้าไปทีละน้อย
ๆ (pulse
injection) โดยใช้
syringe
ขนาด
1.0
ไมโครลิตร
(แต่เราไม่ได้ฉีดทีละ
1
ไมโครลิตรนะ)
แล้วก็คอยดูว่ามี
pyridine
หลุดรอดออกมาได้เท่าใด
พอตัวอย่างดูดซับ pyridine
จนอิ่มตัว
(ดูจากการที่ความสูงของพีคคงที่)
ก็หยุดการทดลองได้
ปริมาณของตำแหน่งที่เป็นกรดก็คำนวณได้จากผลรวมของปริมาณ
pyridine
ที่หายไปในการฉีดแต่ละครั้ง
แต่สิ่งแรกที่ต้องทำคือการปรับอัตราการไหลของ
carrier
gas เพื่อให้ได้
peak
pyridine ออกมาสวยงาม
(ต้องไม่เร็วเกินไปจนเห็นเป็นเส้นแทนที่จะเป็นพีค
และต้องไม่ช้าเกินไปจนลากหางยาว)
ในระหว่างการทดสอบดังกล่าวเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา
สาวน้อยรายนั้นพบว่าพีคมีลักษณะแปลก
ๆ ตอนแรกที่เขาโทรศัพท์มาหาผมเขาก็ไม่ยอมบอกว่ามันมีปัญหา
แต่ผมกลับรู้สึกว่ามันต้องมีปัญหา
ไม่เช่นนั้นคงไม่โทรมาหรอก
ก็เลยถามว่ามีปัญหาอะไรเกิดขึ้น
แต่เขาบอกว่าขอให้ผมไปดูด้วยตนเอง
และก็ได้เห็นปัญหาดังที่นำมาให้ดูตรงลูกศรชี้ในรูปที่
๑ ข้างล่าง
ตอนแรกเขาบอกผมว่าได้ลองปรึกษาเพื่อน
ๆ ดูแล้ว คิดว่าปัญหาน่าจะเกิดจาก
impurity
บางอย่างใน
pyridine
ที่เขาฉีดเข้าไป
เพราะมันเกิดที่ตำแหน่งเวลาเดียวกันตลอดหลังการฉีด
แต่ผมดูแล้วคิดว่าไม่น่าจะใช่
เพราะถ้าเป็น impurity
มันควรจะให้สัญญาณที่เป็นพีค
คือเพิ่มสูงขึ้น
ไม่ใช่ลดลงกระทันและกลับขึ้นกระทันหันอย่างที่เห็น
ปัญหานี้เกิดขึ้นหลังการฉีดแต่ละครั้ง
นั่นแสดงว่าสาเหตุมันเกี่ยวข้องอยู่กับการฉีดสาร
แต่เนื่องจากผมไม่คิดว่ามันเกิดจาก
impurity
ในที่สารที่ฉีดเข้าไป
แต่น่าจะขึ้นอยู่กับขั้นตอนการฉีดมากกว่า
ว่ามีเหตุการณ์ใดที่เกิดขึ้นในจังหวะเวลาเดียวกันทุกครั้ง
ผมก็เลยถามเขาว่าเขาฉีดสารอย่างไร
คำตอบที่ได้รับก็คือหลังจากที่ฉีดสารเข้าไปแล้วก็จะคาเข็มไว้เป็นระยะเวลาหนึ่ง
พร้อมกับนับเลขในใจ
เพื่อให้ระยะเวลาคาเข็มค้างที่
injection
port เท่ากันทุกครั้ง
ก่อนที่จะถอนเข็มออก
ผมก็เลยบอกให้เขาทดลองฉีดใหม่
แต่ทีนี้ให้คาเข็มค้างเอาไว้เลย
ไม่ต้องถอนเข็มออก
ผลปรากฏออกมาว่า
สัญญาณรูปร่างแปลก ๆ
แบบที่ปรากฏให้เห็นในรูปที่
๑ นั้นหายไป
เรื่องของจังหวะเวลากับสัญญาณแปลกปลอมทำนองนี้ผมเคยเล่าเอาไว้เมื่อเกือบ
๕ ปีที่แล้วใน Memoir
ปีที่
๒ ฉบับที่ ๘๓ วันอังคารที่
๑ ธันวาคม พ.ศ.
๒๕๕๒
เรื่อง "เกิดขึ้นตอนกี่โมง"
สาเหตุของปัญหาเกิดจาก
septum
นั้นใช้งานมามากจนไม่สามารถปิดได้สนิท
โดยเฉพาะในจังหวะที่ถอนเข็มออกมา
ทำให้ carrier
gas รั่วออกมามากผิดปรกติ
ประกอบกับการที่คอลัมน์บรรจุตัวอย่างของเรานั้นมี
pressure
drop ต่ำมาก
(ความดันด้านขาเข้ากับด้านขาออกจัดว่าพอ
ๆ กัน)
พอด้านขาเข้ามีแก๊สรั่วแม้แต่เพียงช่วงสั้น
ๆ ตอนถอน syringe
ออก
ก็ส่งผลถึงอัตราการไหลของ
carrier
gas ที่ไหลผ่าน
detector
ให้เห็น
ตรงนี้มันไม่เหมือนกับกรณีที่เราใส่
packed
column เพราะในกรณีของ
packed
column นั้นความดันด้านขาเข้าคอลัมน์มันสูงกว่าด้านขาออก
(ก่อนเข้า
detector)
อยู่มาก
การเปลี่ยนแปลงความดันด้านขาเข้าเพียงเล็กน้อยในช่วงเวลาสั้น
ๆ (จากการรั่วของ
carrier
gas ตอนถอน
syringe
ออก)
ไม่ส่งผลต่ออัตราการไหลของแก๊สด้านขาออก
เราจึงไม่เห็นปรากฏการณ์เช่นนี้
ผมก็เลยแนะนำให้เขาเปลี่ยน
septum
ใหม่
ซึ่งเมื่อวานหลังจากเปลี่ยนแล้วก็ได้ผลออกมาดังรูปที่
๒
อีกเรื่องหนึ่งที่ผู้ฉีดตัวอย่างที่เป็นของเหลวเวลาที่ใช้
syringe
ขนาดเล็กมักจะมีปัญหาคือ
"ของเหลวมันเข้าไปไม่เต็ม
syringe"
โดยเวลาที่ดูดของเหลวขึ้นมาจะมีฟองอากาศอยู่เล็กน้อยทางด้านบน
ตรงนี้บางรายก็แนะนำให้ทำการดูดของเหลวขึ้นมาและฉีดทิ้งไปหลาย
ๆ ครั้ง
แต่สำหรับของเหลวบางชนิดวิธีการนี้ก็ไม่ค่อยจะได้ผล
วิธีการที่ให้ผลที่ดีกว่าคือแทนที่จะ
"ดูดขึ้น"
ให้เปลี่ยนเป็น
"ดูดลง"
แทน
คือทำแบบที่คุณหมอหรือพยาบาลเขาดึงยาฉีดจากขวด
คือเขาจะใช้ขวดที่มีฝายางปิด
คว่ำด้านฝาลงล่าง
และแทงเข็มขึ้นไปจากทางด้านล่าง
จากนั้นจึงดูดของเหลวเข้ามาในเข็ม
โดยธรรมชาติของแก๊สที่อยู่ในของเหลวนั้นมันมีแนวโน้มที่จะลอยขึ้นบนอยู่แล้ว
ดังนั้นด้วยวิธีการเช่นนี้จึงทำให้เราสามารถดูดของเหลวให้เข้ามาเต็มใน
syringe
ได้โดยไม่มีฟองอากาศ
ถ้านึกภาพไม่ออกก็ดูรูปที่
๓ ที่เอามาให้ดูเป็นตัวอย่างก็แล้วกัน
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น