วันเสาร์ที่ 5 ตุลาคม พ.ศ. 2556

กระถิน มินตรา ชบา ริมรั้ว MO Memoir : Saturday 5 October 2556

บริเวณที่ผมอาศัยอยู่มันก็เป็นบ้านจัดสรร แต่เป็นบ้านจัดสรรแบบที่ไม่ค่อยจะเหมือนใคร คือคนสร้างบ้านเขามีที่ดินกระจายอยู่ตามมุมต่าง ๆ ของซอย ไม่ได้เป็นที่แปลงใหญ่ ๆ แปลงเดียว บ้านจัดสรรของเขาก็เลยกระจายไปทั่วทั้งซอย ไม่มีทางเข้า-ออกเฉพาะ ไม่มีขอบรั้วที่เป็นอาณาบริเวณชัดเจนว่าบริเวณนี้เป็นส่วนที่แยกออกมาต่างหากจากสังคมรอบข้าง เป็นประเภทที่ว่าด้านหน้าบ้านติดถนน ด้านหลังบ้านติดสวน
 
ถนนหน้าบ้านนั้นก็เป็นถนนคอนกรีต (อ่าน คอน-กรีต นะ) แต่เขาก็ไม่ได้เทปูนจนติดรั้วบ้าน จะมีที่ว่างเป็นดินอยู่เล็กน้อยระหว่างรางระบายน้ำของถนนกับรั้วบ้านกว้างสักฟุตเห็นจะได้ ตอนนั้นบ้านต่าง ๆ ก็ใช้ที่ว่างตรงนี้ปลูกต้นไม้กัน เป็นต้นไม้ประดับรั้ว บางบ้านก็ปลูกไม้ดอกไม้สวยงาม บางบ้านก็ปลูกไม้พวกใช้เป็นอาหารได้ หน้าบ้านผมก็ปลูกเหมือนกันโดยปลูกกระถินเอาไว้ พอทางเขตมายกถนนให้สูงขึ้นอีกเมื่อ ๒๐ ปีที่แล้ว เขาก็ยังเว้นที่ว่างริมรั้วให้ไว้เหมือนเดิม
 
การมีไม้ที่ใช้เป็นอาหารได้ปลูกเอาไว้ริมรั้วหน้าบ้านก็ทำให้เราได้รู้จักคนต่าง ๆ ตั้งแต่เพื่อนบ้านตอนที่ย้ายเข้ามาอยู่ใหม่ คนที่เขาเดินขายของเร่ในซอย คนรับซื้อของเก่า ฯลฯ ประเภทว่าเขาเห็นยอดกระถินมันเต็มต้น แถมฝักเต็มไปหมด ก็ขอเก็บเอาไปกิน ที่บ้านก็ไม่ได้หวงอะไร ก็ให้เก็บไปตามสบาย เขาก็เก็บแบบมีมารยาทด้วยนะคือรู้ว่าเอาไปพอเป็นอาหาร ไม่ได้เอาไปขายต่อ และก็ไม่ได้เก็บจนหมดต้น เหลือเอาไว้ให้มันงอกออกมาใหม่ได้ คนอื่นจะได้มีกินต่อไปเรื่อย ๆ
 
ต้นกระถินที่ขึ้นริมรั้วก็ไม่ได้ปลูกให้มันสูงโต เพียงแค่ให้ลำต้นหลักมันสูงต่ำกว่ารั้วเล็กน้อย (จะได้จอดรถข้างรั้วได้) แล้วให้แตกกิ่งขึ้นไปข้างบน (จะได้เก็บกินได้ง่าย) พอมันเริ่มโตมากเกินไปก็ต้องตัดกิ่งสูงออก แล้วให้มันแตกใหม่ กระถินมันดีตรงที่เป็นไม้โตเร็วและทนแล้ว และตอนนี้รู้แล้วว่ามันทนน้ำท่วมด้วย เพราะจากน้ำท่วมปี ๕๔ ไม่เห็นมันตายสักต้น



รูปที่ ๑ ดอกชบาที่ปลูกไว้ล่อแมลงและให้ความสวยงาม ถ่ายเอาไว้เมื่อเดือนกันยายน
 
ต้นไม้ริมรั้วยังมีประโยชน์ในการช่วยลดแสงสะท้อนจากแสงแดดตอนกลางวัน ปรกติเวลาแดดจัด ๆ ถนนคอนกรีตมันก็ดูสว่างจ้าอยู่แล้ว รั้วบ้านที่เป็นอิฐบล็อคเวลาที่แดดมันส่องโดนเต็มที่มันก็เก็บความร้อนเอาไว้ในตัวมันและก็เปล่งออกมา แม้ว่าดวงอาทิตย์จะลดต่ำลงไปแล้ว ทำให้แม้ถึงเวลาเย็นแล้วก็ยังรู้สึกร้อนอยู่ การมีต้นไม้บังรั้งอิฐบล็อคเอาไว้มันก็ช่วยตรงนี้เพราะมันป้องกันไม่ให้รั้วสะสมความร้อนเอาไว้มาก (แบบที่เขาบอกว่าให้ปลูกต้นไม้บังแดดไม่ให้ส่องโดนผนังบ้าน จะทำให้บ้านไม่ร้อนมาก) และเงาของต้นไม้เองที่บังแดดไม่ให้ส่องลงผิวถนนทั่วทั้งบริเวณมันก็ช่วยลดความร้อนของผิวถนนหน้าบ้านให้ด้วย ทำให้ช่วงเวลาเย็นนั้นบริเวณหน้าบ้านจะไม่ร้อนมาก
 
การทำการเกษตรแบบไร่นาสวนผสมนั้นเขาบอกให้ปลูกพืชหลาย ๆ อย่าง โดยอาจจำแนกออกได้เป็น ๔ กลุ่มคือ พวกที่ใช้เป็นอาหาร พวกที่ใช้เป็นฟืน พวกที่เป็นไม้ใช้สอย และพวกไม้ผลยืนต้น ต้นไม้ที่บ้านที่ใช้เป็นอาหารก็มีหลายอย่าง ไม่ว่าจะเป็น บวบ ตำลึง แค กระเพรา โหระพา มะนาว มะกรูด กระถิน อัญชัน ฟักทอง มันเทศ เผือก พริก มะเขือ มะละกอ หมากเม่า หม่อน ฯลฯ พวกที่ใช้เป็นไม้ใช้สอยก็มีไผ่เลี้ยงที่ปลูกเอาไว้สองกอ (เอาไว้วันหลังว่าง ๆ จะเขียนเรื่องนี้บ้าง) ไม้ผลยืนต้นก็มีทั้งมะม่วง มะเหมี่ยว มะเฟือง มะตูม มะขาม ขนุน พุทรา ชมพู่ ฯลฯ บางต้นก็เป็นต้นใหญ่ได้กินผลมาหลายปีแล้ว บางต้นก็เพิ่งจะปลูกหลังน้ำท่วมปี ๕๔ 
  
ส่วนไม้ฟืนนั้นก็มีกระถิน ทั้ง ๆ ที่จริงที่บ้านก็ใช้แต่เตาแก๊ส กระถินมันก็มีข้อดีตรงนี้คือเป็นพืชโตเร็ว ยอดและฝักเป็นอาหารได้ และกิ่งก้านก็สามารถนำมาทำเป็นเชื้อเพลิงได้ แต่ที่บ้านก็ไม่เคยเอากิ่งกระถินมาทำฟืนสักที เอามาทำเป็นแต่ไม้ค้ำต้นไม้เล็ก ๆ และนั่งร้านให้พวกไม้เลื้อยมันเลื้อยไต่ขึ้นไป และเอามาทำเศษไม้ฟืนเวลาที่ลูกต้องไปเข้าค่ายลูกเสือที่โรงเรียน บ้านที่อยู่ปัจจุบันตอนที่สร้างเสร็จใหม่ดินที่เอามาถมก็หาธาตุอาหารไม่ค่อยได้ ก็เลยเอาเมล็ดกระถินไปหว่านไว้ริมรั้วทั่วไปหมด กะว่าจะเอาใบกระถินที่ร่วงลงมานั้นใช้เป็นปุ๋ย เพราะใบมันเล็ก ย่อยสลายง่ายดี ตอนนี้ก็เลยมีพืชสารพัดชนิดขึ้นคลุมดินรอบบ้านไปหมด

บางคนเขาบอกว่า "ดอกกระถิน" เป็นดอกไม้ที่แสดงถึงความมั่นคง แต่ผมก็ไม่แน่ใจว่าดอกกระถินในความหมายนี้เป็นของต้นกระถินที่เรากินกันเป็นอาหารหรือไม่ รู้แต่ว่ามีการเอาชื่อต้นไม้นี้มาตั้งเป็นชื่อผู้หญิงว่า "มินตรา" คำว่า "มินตรา" นี้แปลว่าต้นกระถิน แต่คำว่า "มินตา" (ไม่มี "") แปลว่าขอโทษ ดังนั้นถ้าจะเรียกคนที่ชื่อ "มินตรา" ก็ควรที่จะออกเสียง "" ให้ชัดด้วย ไม่เช่นนั้นชื่อเขาจะมีความหมายผิดเพี้ยนไป

ชบาก็เป็นไม้ดอกที่ปลูกไว้ที่ชานหน้าบ้าน ตรงชิงช้าที่เป็นมุมโปรดเวลานั่งจิบกาแฟยามเช้า ที่เลือกชบาก็เพราะมันปลูกง่ายดีและมีดอกหลากหลายสี ออกดอกอยู่เรื่อย ๆ อันที่จริงก็อยากได้พู่ระหงมาปลูกด้วย แต่ตอนนั้นหาไม่ได้ก็เลยไม่ได้ซื้อมาปลูก จะไปซื้อมาตอนนี้ก็ไม่รู้ว่าจะเอาไปลงดินที่ไหน ต้นชบากับพู่ระหงนั้นมันคล้ายกันมาก โดยส่วนตัวแล้วถ้าไม่ออกดอกก็ดูไม่ออกว่าต้นไหนชบาต้นไหนพู่ระหง ชบานี้ก็ปลูกเอาไว้เพื่อความสวยงามและเป็นอาหารให้กับแมลงกินน้ำหวาน จากนั้นก็จะมีนกกินแมลงมาดักกินแมลงที่กินน้ำหวานนี้อีกที ทำให้ที่บ้านไม่จำเป็นต้องเลี้ยงนก เพราะมีนกสวนหลากหลายสายพันธุ์แวะเวียนเข้ามาทุกวัน

สุดสัปดาห์แรกของเดือนตุลา ในช่วงเช้าของวันที่ฝนตก ก็ไม่มีเรื่องมีสาระอะไร ฝากรูปดอกชบาและต้นกระถินที่ถ่ายเอาไว้ด้วยกล้องโทรศัพท์มือถือมาให้ดูเล่นก็แล้วกัน





รูปที่ ๒ มุมต่าง ๆ ของต้นกระถินหน้าบ้าน ถ่ายเมื่อเดือนกันยายนที่ผ่านมาเช่นกัน

ไม่มีความคิดเห็น: