บางครั้งเวลาที่นิสิตในที่ปรึกษาจะต้องส่งตัวอย่างไปให้ผู้อื่นทำการวิเคราะห์ให้กับอุปกรณ์วัดบางชนิด
ที่ผลนั้นขึ้นอยู่กับ
การตั้งพารามิเตอร์ของเครื่อง
ฝีมือและความเอาใจใส่ของผู้ที่ทำการวิเคราะห์
ผมจะบอกเขาให้แบ่งตัวอย่างบางตัวอย่างออกเป็นสองส่วน
แล้วส่งไปเสมือนกับว่าเป็นตัวอย่างใหม่อีกตัวอย่างหนึ่ง
การทำเช่นนี้ก็เพื่อทดสอบว่าผลการวิเคราะห์ที่ได้มานั้นน่าเชื่อถือแค่ไหน
กล่าวคือสมมุติว่ามีตัวอย่าง
A
และ
B
ที่ต้องการวิเคราะห์
ก็จะบอกให้เขาส่งตัวอย่าง
A
เป็นตัวอย่างที่
๑ ตัวอย่าง B
เป็นตัวอย่างที่
๒ และตัวอย่าง A
เป็นตัวอย่างที่
๓ ดังนั้นเมื่อได้รับผลการวิเคราะห์กลับมา
ก็ต้องดูก่อนว่าผลการวิเคราะห์ของตัวอย่างที่
๑ และ ๓ นั้นเหมือนกันหรือไม่
ซึ่งมันก็ควรที่จะต้องเหมือนกัน
หรือถ้าพบว่าตัวเลขมีความแตกต่างกันอยู่บ้างเล็กน้อย
(ซึ่งเป็นเรื่องปรกติของการวัด)
ก็จะถือว่าความแตกต่างที่น้อยกว่าตัวเลขนั้นถือว่าไม่มีนัยสำคัญ
แต่ถ้าพบว่าตัวเลขที่ได้มานั้นแตกต่างกันมาก
ก็แสดงว่าผลการวิเคราะห์มีปัญหา
และในกรณีที่มีสารมาตรฐานอยู่ด้วย
ก็อาจให้ส่งสารมาตรฐานนั้นไปเป็นตัวอย่างอีกตัวอย่างหนึ่ง
เพื่อใช้ยืนยันความถูกต้องของเครื่องมือวัด
เรื่องราวในวันนี้เป็นตอนต่อจาก
Memoir
ปีที่
๑๐ ฉบับที่ ๑๕๒๕ วันอังคารที่
๖ มีนาคม ๒๕๖๑ เรื่อง
"รู้ทันนักวิจัย (๙) อยากให้มีพีคก็จัดให้ได้"
โดยเป็นการส่งตัวอย่างเดิมที่ใช้ในครั้งนั้นไปให้วิเคราะห์ใหม่ด้วยสภาวะเดียวกัน
(อาจแตกต่างกันอยู่บ้างในส่วนของความดันเมื่อเริ่มการวิเคราะห์)
ตัวอย่างที่ส่งไปคือตัวเร่งปฏิกิริยา
MoO3-MgO/TiO2
และ
WO3-MgO/TiO2
โดยรูปที่นำมาแสดงนั้นเป็นช่วงของ
N
1s รูปที่
๑ เป็นผลของตัวเร่งปฏิกิริยา
MoO3-MgO/TiO2
ที่ส่งไปวิเคราะห์ครั้งแรก
ส่วนรูปที่ ๒
เป็นผลที่ได้จากการวิเคราะห์ในครั้งที่สอง
และเช่นกัน รูปที่ ๓
เป็นผลของตัวเร่งปฏิกิริยา
WO3-MgO/TiO2
ที่ส่งไปวิเคราะห์ครั้งแรก
และรูปที่ ๔
เป็นผลที่ได้จากการวิเคราะห์ในครั้งที่สอง
การประมวลผลการวิเคราะห์
(ไม่ว่าจะเป็นการหาเส้น
base
line หรือตำแหน่งและจำนวนพีค
N
1s) นั้นกระทำโดยใช้ซอร์ฟแวร์ที่มากับตัวเรื่อง
XPS
(ที่ผู้ทำการวิเคราะห์ส่งมาให้พร้อมกับผลการวิเคราะห์
ผมไม่ได้เป็นคนทำเอง)
จะเห็นนะครับว่าผลที่ได้มานั้น
"ไม่เหมือนกันเลย"
และขนาดความสูงของพีคที่เครื่องแปลผลมานั้น
(ในการวัดครั้งที่
๒)
ยังมีขนาดที่ไม่ได้ใหญ่กว่าขนาดของ
noise
เสียด้วย
ผลการวิเคราะห์แบบนี้แหละครับ
ที่เปิดโอกาสให้ส่งตัวอย่างเดิม
ๆ ไปวัดซ้ำจนกว่าจะได้ตำแหน่งพีคตามที่ต้องการ
ในกรณีของสัญญาณที่มี
noise
เยอะนั้น
มันไม่มีตัวเลขที่แน่นอนระบุไว้หรอกครับว่าควรต้องทำการวัดซ้ำกี่ครั้ง
แต่มันมีหลักการอยู่ตรงที่ว่าควรทำจนกระทั่งไม่เห็นว่าได้ค่าอัตราส่วน
singnal
ต่อ
noise
นั้นเพิ่มขึ้นแล้ว
ซึ่งตรงนี้ขึ้นอยู่กับตัวอุปกรณ์และชนิดของตัวอย่าง
อย่างเช่นในกรณีนี้ก็เช่นกัน
ดูเหมือนว่าทุกตัวอย่างที่ส่งไปนั้น
(ไม่ว่าใครส่งไปก็ตาม)
เขาจะทำการ
scan
ค่าให้แค่เพียงแค่
3
รอบ
ซึ่งถ้าเป็นกรณีของพีคขนาดใหญ่นั้น
แม้ว่าค่าอัตราส่วน singnal
ต่อ
noise
นั้นยังไม่ได้เพิ่มจนสูงสุด
แต่ก็ยังพอจะบอกได้ว่ามีพีค
แต่สำหรับกรณีของพีคขนาดเล็กที่สงสัยว่ามีอยู่หรือไม่นั้น
การ scan
จนได้ค่า
อัตราส่วน singnal
ต่อ
noise
ที่สูงที่สุดเท่าที่จะทำได้นั้นเป็นสิ่งสำคัญ
และเมื่อทำการทดลองซ้ำและนำผลที่ได้นั้นมาทำการประมวลค่าเพื่อหาตำแหน่งพีค
ก็ควรที่จะได้พีคที่ตำแหน่งเดียวกันด้วย
สิ่งสำคัญอีกสิ่งหนึ่งในการแปลผลว่าเป็นพีคหรือไม่ก็คือขนาด
"ความกว้าง"
ของพีคที่ได้หลังจากที่ได้ทำการ
deconvolution
แล้ว
พีคของสัญญาณแต่ละชนิดมีความกว้างที่แตกต่างกันอยู่
ถ้าพบว่าความกว้างของพีคที่ได้จากการทำ
deconvolution
นั้นแคบกว่าที่ควรเป็น
ก็น่าให้สงสัยก่อนเลยว่ามันไม่ใช่พีค
แต่เป็นการจับเอา noise
ที่เต้นแรงในบริเวณนั้นมาแปลผลเป็นพีค
รูปที่
๑ กราฟ XPS
ของตัวเร่งปฏิกิริยา
MoO3-MgO/TiO2
(บน)
ข้อมูลดิบที่ได้จากการวิเคราะห์
(กลาง)
เมื่อใช้โปรแกรมของเครื่องทำการหาแนวเส้น
base
line และ
(ล่าง)
ผลการทำ
deconvolution
การวิเคราะห์ทำที่ความดัน
4.9
x 10-6 Pa ตำแหน่ง
Binding
energy ของ
C
1s อยู่ที่
285.6
eV โดยมีพื้นที่ของพีค
7066.1
cps eV
รูปที่
๒ กราฟ XPS
ของตัวเร่งปฏิกิริยา
MoO3-MgO/TiO2
ตัวเดียวกับในรูปที่
๑ แต่ส่งให้ทำการวิเคราะห์ใหม่ด้วยสภาวะเดียวกัน
(บน)
ข้อมูลดิบที่ได้จากการวิเคราะห์
(กลาง)
เมื่อใช้โปรแกรมของเครื่องทำการหาแนวเส้น
base
line และ
(ล่าง)
ผลการทำ
deconvolution
ตำแหน่ง
Binding
energy ของ
C
1s อยู่ที่
285.7
eV โดยมีพื้นที่ของพีค
7394.0
cps eV
รูปที่
๓ กราฟ XPS
ของตัวเร่งปฏิกิริยา
WO3-MgO/TiO2
(บน)
ข้อมูลดิบที่ได้จากการวิเคราะห์
(กลาง)
เมื่อใช้โปรแกรมของเครื่องทำการหาแนวเส้น
base
line และ
(ล่าง)
ผลการทำ
deconvolution
การวิเคราะห์ทำที่ความดัน
4.7
x 10-6 Pa ตำแหน่ง
Binding
energy ของ
C
1s อยู่ที่
285.7
eV โดยมีพื้นที่ของพีค
7019.4
cps eV
รูปที่
๔ กราฟ XPS
ของตัวเร่งปฏิกิริยา
WO3-MgO/TiO2
ตัวเดียวกับในรูปที่
๓ แต่ส่งให้ทำการวิเคราะห์ใหม่ด้วยสภาวะเดียวกัน
(บน)
ข้อมูลดิบที่ได้จากการวิเคราะห์
(กลาง)
เมื่อใช้โปรแกรมของเครื่องทำการหาแนวเส้น
base
line และ
(ล่าง)
ผลการทำ
deconvolution
การวิเคราะห์ทำที่ความดัน
4.7
x 10-6 Pa ตำแหน่ง
Binding
energy ของ
C
1s อยู่ที่
285.6
eV โดยมีพื้นที่ของพีค
4577.2
cps eV
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น