วันศุกร์ที่ 16 ธันวาคม พ.ศ. 2559

จากสระว่ายน้ำ มาเป็นลานจักรพงษ์ (ก่อนจะเลือนหายไปจากความทรงจำ ตอนที่ ๑๒๑) MO Memoir : Thursday 15 December 2559

เมื่อทางมหาวิทยาลัยรับหน้าที่เป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันกีฬามหาวิทยาลัย "จามจุรีเกมส์" ในเดือนมกราคม ๒๕๕๔ นั้น ก็ได้มีการจัดสร้างสนามกีฬาในร่มแห่งใหม่โดยใช้พื้นที่ด้านข้างสนามกีฬาในร่มเดิม ครอบคลุมไปยังอาคารของครุพละ และลานจอดรถด้านหลังหอสมุดกลาง อาคารที่สร้างใหม่นี้มีสระว่ายน้ำมาตรฐาน ๕๐ เมตรรวมอยู่ด้วยบนชั้นบนของอาคาร และเมื่ออาคารดังกล่าวเปิดใช้งานก็ถือว่าเป็นการปิดฉากสระว่ายน้ำ ๕๐ เมตรเดิมของมหาวิทยาลัย
 
สระว่ายน้ำ ๕๐ เมตรเดิมนั้นสร้างเมื่อใดผมก็ไม่รู้เหมือนกัน แต่อายุมันไม่ต่ำกว่า ๓๐ ปีแน่นอน ที่แปลกก็คือทำไมมันมาตั้งตรงกลางพื้นที่ที่ล้อมรอบด้วยอาคารเรียนและอาคารกิจกรรมก็ไม่รู้ แต่หลังจากได้ทำหน้าที่เป็นสระว่ายน้ำมานาน ในที่สุดมันก็ได้รับหน้าที่ใหม่คือเป็นลานจัดกิจกรรมที่มีชื่อว่า "ลานจักรพงษ์" และเป็นสถานที่แห่งใหม่สำหรับการถ่ายรูปงานรับปริญญา
 
การเปลี่ยนแปลงเริ่มขึ้นช่วงปลายปีพ.ศ. ๒๕๕๖ มาเสร็จในปีพ.ศ. ๒๕๕๗ Memoir ฉบับนี้ก็เลยขอนำเอาภาพสระว่ายน้ำก่อนเริ่มการทุบทิ้งมาบันทึกไว้หน่อย สำหรับคนที่ไม่ทันเห็น และปิดท้ายด้วยภาพบรรยากาศลานจักรพงษ์ในปัจจุบัน เพื่อให้ผู้ที่ยังไม่มีโอกาสเข้ามาเยี่ยมเยียนมหาวิทยาลัย ได้เห็นว่าสภาพปัจจุบันเป็นอย่างไร


รูปที่ ๑ สระว่ายน้ำขณะเริ่มกั้นรั้วเพื่อเตรียมการรื้อถอด (ถ่ายเมื่อวันศุกร์ที่ ๘ พฤศจิกายน ๒๕๕๖) อาคารที่เห็นด้านหลังคืออาคารมหาวชิรุณหิศของคณะวิทยาศาสตร์ ทางด้านขาว (ไม่ปรากฏในรูป) คือตึกจักรพงษ์

รูปที่ ๒ มองไปทางด้านศาลาพระเกี้ยว (ถ่ายเมื่อวันศุกร์ที่ ๘ พฤศจิกายน ๒๕๕๖)


รูปที่ ๓ มองลอดรั้วไปทางด้านศาลาพระเกี้ยวที่อยู่ด้านทิศใต้ของสระว่ายน้ำ เป็นสภาพที่ไม่มีการใช้งานมากว่าปีแล้ว (ถ่ายเมื่อวันศุกร์ที่ ๘ พฤศจิกายน ๒๕๕๖)


รูปที่ ๔ มองไปทางด้านคณะวิศวกรรมศาสตร์ ตึกที่เห็นด้านหลังคืออาคารเรียนของภาควิชาวิศวกรรมไฟฟ้า (ถ่ายเมื่อวันศุกร์ที่ ๘ พฤศจิกายน ๒๕๕๖)


รูปที่ ๕ มุมเดียวกับรูปที่ ๓ รูปนี้ถ่ายรูปลอดรั้วเข้าไป เพื่อให้เห็นข้างในชัด ๆ หน่อย (ถ่ายเมื่อวันศุกร์ที่ ๘ พฤศจิกายน ๒๕๕๖)

รูปที่ ๖ อาคารสำนักงานและห้องเปลี่ยนเครื่องแต่งกาย (ถ่ายเมื่อวันศุกร์ที่ ๘ พฤศจิกายน ๒๕๕๖)


รูปที่ ๗ ประตูเหล็กทางด้านขวาคือทางเข้าอาคารสำนักงานเดิม เดิมจะมีสะพานเหล็กทอดข้ามไป (ถ่ายเมื่อวันศุกร์ที่ ๘ พฤศจิกายน ๒๕๕๖)

รูปที่ ๘ อีกมุมหนึ่งของทางเข้าสระว่ายน้ำ (ถ่ายเมื่อวันศุกร์ที่ ๘ พฤศจิกายน ๒๕๕๖)


รูปที่ ๙ บริเวณอาคารสำนักงานและอัฒจันทร์หลังผ่านการทุบทิ้งไปบางส่วน (ถ่ายเมื่อวันเสาร์ที่ ๗ ธันวาคม ๒๕๕๖)


รูปที่ ๑๐ การทำงานระหว่างการทุบทิ้ง (ถ่ายเมื่อวันเสาร์ที่ ๗ ธันวาคม ๒๕๕๖)


รูปที่ ๑๑ การทำงานระหว่างการทุบทิ้ง (ถ่ายเมื่อวันเสาร์ที่ ๗ ธันวาคม ๒๕๕๖)


รูปที่ ๑๒ การทำงานระหว่างการทุบทิ้ง (ถ่ายเมื่อวันเสาร์ที่ ๗ ธันวาคม ๒๕๕๖)


รูปที่ ๑๓ หลังเปิดใช้งานมาได้ ๒ ปี รูปนี้ถ่ายเมื่อวันเสาร์ที่ ๑๐ ธันวาคม ๒๕๕๙ เป็นวันที่มีงานเดินการกุศลของโรงเรียนสาธิตจุฬารอบมหาวิทยาลัยพอดี อาคารที่เห็นก็คือบริเวณที่ตั้งอาคารสำนักงานของสระว่ายน้ำเดิม
  
รูปที่ ๑๔ ป้ายชื่อลานจักรพงษ์ (ถ่ายเมื่อวันเสาร์ที่ ๑๐ ธันวาคม ๒๕๕๙)


รูปที่ ๑๕ สภาพภายใน อาคารที่เห็นอีกฟากหนึ่งคือตึกจักรพงษ์ ถ้าอยากรู้ว่าชื่อ "จักรพงษ์" และ "จุลจักรพงษ์" เป็นชื่อของใคร เกี่ยวข้องกับมหาวิทยาลัยอย่างใด ก็ขอแนะนำให้ไปอ่านหนังสือ "เกิดวังปารุสก์" ที่นิพนธ์โดย พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าจุลจักรพงษ์ ที่ปัจจุบันมีการนำเอาเล่ม ๑ และ ๒ มาพิมพ์ใหม่เป็นฉบับรวมเล่ม (ยังมีเล่ม ๓ อีกเล่มหนึ่งที่ยังไม่มีการพิมพ์ซ้ำ) หนังสือนี้แนะนำว่าควรค่าแก่หาซื้อหามาเก็บสะสม (ถ่ายเมื่อวันเสาร์ที่ ๑๐ ธันวาคม ๒๕๕๙)


รูปที่ ๑๖ ตรงที่เป็นสระน้ำกลายเป็นสนามหญ้าไปแล้ว ต้นไม้ที่เห็นก็เอามาปลูกทีหลัง (ถ่ายเมื่อวันเสาร์ที่ ๑๐ ธันวาคม ๒๕๕๙)


รูปที่ ๑๗ อัฒจันทร์ด้านฝั่งคณะวิศวเหลือเพียงเท่านี้ มีการทุบเปิดช่องเพื่อปลูกต้นไม้ ข้างใต้ก็เป็นที่จอดรถจักรยานที่ตอนนี้ไม่ค่อยเห็นจักรยานแล้ว ก่อนหน้านี้พื้นที่ใต้อัฒจันทร์นี้ก็เคยใช้เป็นห้องทำงานของชมรมต่าง ๆ ก่อนย้ายออกไปอยู่ใต้สนามจุ๊บในปัจจุบัน (ถ่ายเมื่อวันเสาร์ที่ ๑๐ ธันวาคม ๒๕๕๙)

รูปที่ ๑๘ ถ่ายเมื่อวันเสาร์ที่ ๑๐ ธันวาคม ๒๕๕๙ เป็นมุมทางด้านหลังตึกจักรพงษ์

ไม่มีความคิดเห็น: