เมื่อทางมหาวิทยาลัยรับหน้าที่เป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันกีฬามหาวิทยาลัย
"จามจุรีเกมส์"
ในเดือนมกราคม
๒๕๕๔ นั้น
ก็ได้มีการจัดสร้างสนามกีฬาในร่มแห่งใหม่โดยใช้พื้นที่ด้านข้างสนามกีฬาในร่มเดิม
ครอบคลุมไปยังอาคารของครุพละ
และลานจอดรถด้านหลังหอสมุดกลาง
อาคารที่สร้างใหม่นี้มีสระว่ายน้ำมาตรฐาน
๕๐ เมตรรวมอยู่ด้วยบนชั้นบนของอาคาร
และเมื่ออาคารดังกล่าวเปิดใช้งานก็ถือว่าเป็นการปิดฉากสระว่ายน้ำ
๕๐ เมตรเดิมของมหาวิทยาลัย
สระว่ายน้ำ
๕๐ เมตรเดิมนั้นสร้างเมื่อใดผมก็ไม่รู้เหมือนกัน
แต่อายุมันไม่ต่ำกว่า ๓๐
ปีแน่นอน
ที่แปลกก็คือทำไมมันมาตั้งตรงกลางพื้นที่ที่ล้อมรอบด้วยอาคารเรียนและอาคารกิจกรรมก็ไม่รู้
แต่หลังจากได้ทำหน้าที่เป็นสระว่ายน้ำมานาน
ในที่สุดมันก็ได้รับหน้าที่ใหม่คือเป็นลานจัดกิจกรรมที่มีชื่อว่า
"ลานจักรพงษ์"
และเป็นสถานที่แห่งใหม่สำหรับการถ่ายรูปงานรับปริญญา
การเปลี่ยนแปลงเริ่มขึ้นช่วงปลายปีพ.ศ.
๒๕๕๖
มาเสร็จในปีพ.ศ.
๒๕๕๗
Memoir
ฉบับนี้ก็เลยขอนำเอาภาพสระว่ายน้ำก่อนเริ่มการทุบทิ้งมาบันทึกไว้หน่อย
สำหรับคนที่ไม่ทันเห็น
และปิดท้ายด้วยภาพบรรยากาศลานจักรพงษ์ในปัจจุบัน
เพื่อให้ผู้ที่ยังไม่มีโอกาสเข้ามาเยี่ยมเยียนมหาวิทยาลัย
ได้เห็นว่าสภาพปัจจุบันเป็นอย่างไร
รูปที่
๑ สระว่ายน้ำขณะเริ่มกั้นรั้วเพื่อเตรียมการรื้อถอด
(ถ่ายเมื่อวันศุกร์ที่
๘ พฤศจิกายน ๒๕๕๖)
อาคารที่เห็นด้านหลังคืออาคารมหาวชิรุณหิศของคณะวิทยาศาสตร์
ทางด้านขาว (ไม่ปรากฏในรูป)
คือตึกจักรพงษ์
รูปที่
๒ มองไปทางด้านศาลาพระเกี้ยว
(ถ่ายเมื่อวันศุกร์ที่
๘ พฤศจิกายน ๒๕๕๖)
รูปที่
๓
มองลอดรั้วไปทางด้านศาลาพระเกี้ยวที่อยู่ด้านทิศใต้ของสระว่ายน้ำ
เป็นสภาพที่ไม่มีการใช้งานมากว่าปีแล้ว
(ถ่ายเมื่อวันศุกร์ที่
๘ พฤศจิกายน ๒๕๕๖)
รูปที่
๔ มองไปทางด้านคณะวิศวกรรมศาสตร์
ตึกที่เห็นด้านหลังคืออาคารเรียนของภาควิชาวิศวกรรมไฟฟ้า
(ถ่ายเมื่อวันศุกร์ที่
๘ พฤศจิกายน ๒๕๕๖)
รูปที่
๕ มุมเดียวกับรูปที่ ๓
รูปนี้ถ่ายรูปลอดรั้วเข้าไป
เพื่อให้เห็นข้างในชัด ๆ
หน่อย (ถ่ายเมื่อวันศุกร์ที่
๘ พฤศจิกายน ๒๕๕๖)
รูปที่
๖ อาคารสำนักงานและห้องเปลี่ยนเครื่องแต่งกาย
(ถ่ายเมื่อวันศุกร์ที่
๘ พฤศจิกายน ๒๕๕๖)
รูปที่
๗ ประตูเหล็กทางด้านขวาคือทางเข้าอาคารสำนักงานเดิม
เดิมจะมีสะพานเหล็กทอดข้ามไป
(ถ่ายเมื่อวันศุกร์ที่
๘ พฤศจิกายน ๒๕๕๖)
รูปที่
๘ อีกมุมหนึ่งของทางเข้าสระว่ายน้ำ
(ถ่ายเมื่อวันศุกร์ที่
๘ พฤศจิกายน ๒๕๕๖)
รูปที่
๙ บริเวณอาคารสำนักงานและอัฒจันทร์หลังผ่านการทุบทิ้งไปบางส่วน
(ถ่ายเมื่อวันเสาร์ที่
๗ ธันวาคม ๒๕๕๖)
รูปที่
๑๐ การทำงานระหว่างการทุบทิ้ง
(ถ่ายเมื่อวันเสาร์ที่
๗ ธันวาคม ๒๕๕๖)
รูปที่
๑๑ การทำงานระหว่างการทุบทิ้ง
(ถ่ายเมื่อวันเสาร์ที่
๗ ธันวาคม ๒๕๕๖)
รูปที่
๑๒ การทำงานระหว่างการทุบทิ้ง
(ถ่ายเมื่อวันเสาร์ที่
๗ ธันวาคม ๒๕๕๖)
รูปที่
๑๓ หลังเปิดใช้งานมาได้
๒ ปี รูปนี้ถ่ายเมื่อวันเสาร์ที่
๑๐ ธันวาคม ๒๕๕๙
เป็นวันที่มีงานเดินการกุศลของโรงเรียนสาธิตจุฬารอบมหาวิทยาลัยพอดี
อาคารที่เห็นก็คือบริเวณที่ตั้งอาคารสำนักงานของสระว่ายน้ำเดิม
รูปที่
๑๔ ป้ายชื่อลานจักรพงษ์
(ถ่ายเมื่อวันเสาร์ที่
๑๐ ธันวาคม ๒๕๕๙)
รูปที่
๑๕ สภาพภายใน
อาคารที่เห็นอีกฟากหนึ่งคือตึกจักรพงษ์
ถ้าอยากรู้ว่าชื่อ "จักรพงษ์"
และ
"จุลจักรพงษ์"
เป็นชื่อของใคร
เกี่ยวข้องกับมหาวิทยาลัยอย่างใด
ก็ขอแนะนำให้ไปอ่านหนังสือ
"เกิดวังปารุสก์"
ที่นิพนธ์โดย
พระเจ้าวรวงศ์เธอ
พระองค์เจ้าจุลจักรพงษ์
ที่ปัจจุบันมีการนำเอาเล่ม
๑ และ ๒ มาพิมพ์ใหม่เป็นฉบับรวมเล่ม
(ยังมีเล่ม
๓ อีกเล่มหนึ่งที่ยังไม่มีการพิมพ์ซ้ำ)
หนังสือนี้แนะนำว่าควรค่าแก่หาซื้อหามาเก็บสะสม
(ถ่ายเมื่อวันเสาร์ที่
๑๐ ธันวาคม ๒๕๕๙)
รูปที่
๑๖ ตรงที่เป็นสระน้ำกลายเป็นสนามหญ้าไปแล้ว
ต้นไม้ที่เห็นก็เอามาปลูกทีหลัง
(ถ่ายเมื่อวันเสาร์ที่
๑๐ ธันวาคม ๒๕๕๙)
รูปที่
๑๗ อัฒจันทร์ด้านฝั่งคณะวิศวเหลือเพียงเท่านี้
มีการทุบเปิดช่องเพื่อปลูกต้นไม้
ข้างใต้ก็เป็นที่จอดรถจักรยานที่ตอนนี้ไม่ค่อยเห็นจักรยานแล้ว
ก่อนหน้านี้พื้นที่ใต้อัฒจันทร์นี้ก็เคยใช้เป็นห้องทำงานของชมรมต่าง
ๆ ก่อนย้ายออกไปอยู่ใต้สนามจุ๊บในปัจจุบัน
(ถ่ายเมื่อวันเสาร์ที่
๑๐ ธันวาคม ๒๕๕๙)
รูปที่
๑๘ ถ่ายเมื่อวันเสาร์ที่
๑๐ ธันวาคม ๒๕๕๙
เป็นมุมทางด้านหลังตึกจักรพงษ์
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น