ผมไม่ได้ไปเดินแถวกระทรวงกลาโหมซะนาน (หลายปีทีเดียว) บังเอิญเย็นวันวานได้มีโอกาสเดินผ่าน (เดินจากบ้านหม้อไปท่าช้าง) ก็เลยพึ่งรู้ว่ามันมีอะไรเปลี่ยนไป
นั่นคือทิศทางการหันปากกระบอกปืนใหญ่หน้ากระทรวงกลาโหม
เดิมนั้นปืนใหญ่ที่ตั้งอยู่หน้ากระทรวงกลาโหมจะหันปากกระบอกออกจากตัวอาคารกระทรวง ซึ่งผมเห็นมาตั้งแต่ยังเป็นเด็กพึ่งจำความได้ (ดูรูปที่ ๑) แต่ทีนี้ฝั่งตรงข้ามกระทรวงคือพระบรมมหาราชวังและวัดพระแก้ว
และปืนใหญ่กระบอกที่ใหญ่ที่สุดคือปืนที่ชื่อว่า "นางพญาตานี" ซึ่งได้มาจากรัฐปัตตานีสมัยรัชกาลที่ ๑ ที่ไปตีหัวเมืองทางใต้
รูปที่ ๑ การตั้งวางปืนใหญ่หน้ากระทรวงกลาโหมในอดีต (ภาพจาก http://www1.tv5.co.th/service/mod/heritage/ nation/bangkok/index7.htm ข้อมูล ณ วันพุธที่ ๑๑ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๕๕๔)
เรื่องการหันปืนใหญ่เข้าหาพระบรมมหาราชวังหรือวัดพระแก้วนี้ได้ยินคนพูดกันมาตั้งนานแล้วว่าไม่เหมาะสมบ้าง ไม่เป็นมงคลบ้าง (ทำนองว่าหันอาวุธเข้าบ้าน หันอาวุธเข้าสถานที่สำคัญ) แถมยังมีคนบางคนเลยเถิดถึงระดับเอาเรื่องปืนนางพญาตานีที่หันเข้าหาพระบรมมหาราชวังไปผูกเข้ากับความไม่สงบใน ๓ จังหวัดชายแดนใต้อีก แต่ทั้งหมดเท่าที่ทราบก็เป็นเรื่องพูดกันปากต่อปากเล่าต่อกันมา คงไปหาต้นตอไม่ได้ว่าใครเป็นคนเริ่มต้นความคิดเหล่านี้
เรื่องดังกล่าวมีพูดกันมานานแต่ก็ยังไม่เห็นมีใครไปยุ่งอะไรกับปืนใหญ่เหล่านั้น จนเมื่อวานจึงได้เห็นว่ามีการจัดวางใหม่แล้ว (ซึ่งก็คงปรับเปลี่ยนมาหลายปีแล้ว)
คือปืนใหญ่พวกที่อยู่ทางด้านขวา (ถ้ายืนตรงอาคารกระทรวงแล้วมองไปทางพระบรมมหาราชวัง) ให้ตั้งปืนใหม่โดยให้หันไปทางขวา และปืนใหญ่พวกที่อยู่ทางด้านซ้ายก็ให้ตั้งปืนใหม่แล้วหันไปทางด้านซ้าย (รูปที่ ๒ ในหน้าถัดไป)
พวกที่ทำขวาหันนั้นหันเข้าหาอะไรนั้น และพวกที่ทำซ้ายหันนั้นหันเข้าหาอะไรนั้น ใครมีเวลาว่างก็ลองไปเดินดูกันเองก็แล้วกัน เพราะผมดู ๆ แล้วก็ไม่แน่ใจเหมือนกันว่ามันจะแก้เคล็ดอย่างที่คนบางคนเขาเชื่อกันหรือเปล่า
รูปที่ ๒ การวางปืนใหญ่หน้ากระทรวงกลาโหมในปัจจุบัน (ถ่าย ณ วันพุธที่ ๑๑ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๕๕๔)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น